วันที่ 1 ธันวาคม 2566 เวลา 08.00 น. ที่หน้าด่านอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ต. หมูสี อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นางสาว พันชนะ วัฒนเสถียร นายกสมาคมการท่องเที่ยวเขาใหญ่ และ นายชัยยา ห้วยหงส์ทอง หัวหน้าอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ นายวิโรจน์ อรุณพันธุ์ ประธานชมรมผู้ประกอบการร้านอาหารปากช่อง ร่วมกับ ชมรมฮักเขาใหญ่ สมาคมการท่องเที่ยวเขาใหญ่ ชมรมผู้ประกอบการร้านอาหารอำเภอปากช่อง อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ และภาคีเครือข่ายสิ่งแวดล้อมภาคประชาชน กลุ่มนักเรียน นักศึกษาและเยาวชนรักษ์สิ่งแวดล้อม กว่า 400 คน ผนึกกำลังตื่นตัวร่วมกันจัดขบวนเดินรณรงค์วันสิ่งแวดล้อมไทย ซึ่งตรงกับวันที่ 4 ธันวาคม ของทุกปี เพื่อให้เกิดการกระตุ้นในการคัดแยกขยะ ในเส้นทางท่องเที่ยว สร้างความตระหนักรู้ และสร้างจิตสำนึกแก่นักท่องเที่ยว อีกทั้งต้องการปกป้อง 3 ดินแดนมรดกโลก โคราช อย่างยั่งยืน
ข่าวที่น่าสนใจ
โดยกิจกรรมดังกล่าว มีการจัดวงดุริยางค์ จากโรงเรียนปากช่อง เดินนำขบวน มีการแต่งกายแฟนซีรณรงค์ รูปสัตว์ป่า อาทิ ช้าง กระทิง กวาง เสือ นกเงือก กระต่าย รวมไปถึงป้ายข้อความรักษ์สิ่งแวดล้อม โดยก่อนการเปิดกิจกรรมเดินรณรงค์ นางสาว พันชนะ วัฒนเสถียร และผู้รวมงาน ได้อ่านแถลงการณ์ ธรรมนูญข้อห่วงใย 5 ข้อ ต่อการจัด Event ขนาดใหญ่ในพื้นที่สีเขียวอย่างไร ไม่ให้ส่งผลกระทบต่อธรรมชาติ และสิ่งแวดแวดล้อม สัตว์ป่า รวมไปถึงสังคมและชุมชนโดยรอบ เพื่อต้องการสื่อสารให้หน่วยงาน ภาครัฐและเอกชน ให้ความสำคัญ ในเรื่องดังกล่าว เนื่องจากจังหวัดนครราชสีมา ได้รับการรับรองจากองค์การ Unesco ให้เป็นเมือง 3 ดินแดนมรดกโลก สำหรับกิจกรรมที่น่าสนใจ และเป็น Hi-light ของการรณรงค์ในครั้งนี้ คือการนำเครื่องบดอัดขยะ มาสาธิตให้ผู้เข้าร่วมกิจกรรมได้ชมวิธีการ บีบอัดขยะ รวมถึงเครื่องบีบอัดใบไม้ทำภาชนะ โดยให้ตระหนักรู้ถึงปัญหาดังกว่าว ซึ่งตลอดการเดินรณรงค์ในครั้งนี้ มีนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้าร่วมกิจกรรม อีกด้วย
นางสาวพันชนะ วัฒนเสถียร เปิดเผยว่า ในวันที่ 4 ธันวาคมของทุกๆปี เป็นวันสิ่งแวดล้อมไทย อำเภอปากช่อง มีเป้าหมายในการพัฒนาอำเภอ และจังหวัดให้เป็นเมืองน่าอยู่ มุ่งสู่การเป็น “เมืองพัฒนาที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมปลอดมลพิษ” แต่ปัจจุบัน อำเภอปากช่อง ก็ยังคงประสบปัญหาด้านสิ่งแวดล้อม เช่นเดียวกับชุมชนอื่นทั่วไป จึงต้องขอแรงจากทุกภาคส่วนมาร่วมกันผลักดันให้เกิด การท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน และถึงแม้จะมีแคมเปญเพื่อสร้างความตระหนักรู้และการรณรงค์เกี่ยวกับปัญหาสิ่งแวดล้อมออกมามากมายเพียงใด แต่ดูเหมือนว่าวิกฤตินี้ ก็ยังคงไม่ได้รับการแก้ปัญหาที่เป็นจริงเป็นจังอย่างยั่งยืน จึงผนึกกําลังกับทุกภาคส่วนให้ความสําคัญในเรื่องนี้ โดยกิจกรรมครั้งนี้ มีองค์กรพันธมิตรภาคเอกชนที่มาร่วม อาทิ เวสท์ คอลเลคชั่น เครีไซเคิล เบทาโกร เป๊ปซี่โค ผู้ประกอบการในท้องถิ่น ฯลฯ นอกจากนี้ในช่วงการจัดงานคอนเสิร์ต”มันใหญ่มาก” ทางสมาคมฯ และภาคีเครือข่ายนี้ยังได้จัดจุดจอดบริการแก่ผู้เข้ามาชมคอนเสิร์ตโดยนำบทเรียนจากปีที่แล้วมาปรับปรุง จุดบริการจอด ณ เขาใหญ่พาโนรามาฟาร์ม และหลวงพ่อทวดองค์ใหญ่ที่สุดในโลก โดยจะมีจุดคัดแยกขยะ แลแสดงนิทรรศการจากผลงานนิสิตจากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ภาควิชาต่างๆ จากการลงพื้นที่ เพื่อถอดบทเรียนเขาใหญ่ เมื่อเดือนพฤศจิกายน ที่ผ่านมา อีกด้วย
ข่าวที่เกี่ยวข้อง