ในคำฟ้องที่ เคน แพ็กซ์ตัน อัยการรัฐเท็กซัส ยื่นฟ้องต่อศาลที่เมืองลับบ็อก เมื่อวันที่ 30 พฤศจิกายนตามเวลาท้องถิ่น กล่าวหายักษ์ใหญ่เวชภัณฑ์ ไฟเซอร์ ละเมิดกฎหมายวิธีปฏิบัติทางการค้าที่เป็นการหลอกลวงของรัฐเท็กซัส ด้วยพฤติกรรมและวิธีการอันเป็นเท็จ หลอกลวงและทำให้เข้าใจผิด จากการอวดอ้างวัคซีนโควิด-19 โดยไม่มีหลักฐานสนับสนุน
ไฟเซอร์ทำให้เข้าใจผิดเมื่ออ้างว่า วัคซีนมีประสิทธิภาพในการป้องกันได้ 95% เพราะใช้ค่าการ “ลดความเสี่ยงสัมพัทธ์” ซึ่งคำกล่าวอ้างนี้มาจากข้อมูลการทดลองทางคลินิกเพียงสองเดือน ขณะค่าการ “ลดความเสี่ยงสัมบูรณ์” พบว่า วัคซีนไฟเซอร์มีประสิทธิภาพแค่ 0.85%
แพ็กซ์ตัน ระบุในแถลงการณ์ว่า ผู้ติดเชื้อหลังรับวัคซีนเพิ่มสูงขึ้น และในบางพื้นที่ พบอัตราการตายในหมู่ผู้รับวัคซีนสูงกว่าผู้ที่ไม่ได้รับวัคซีน และว่าหลังจากวัคซีนไม่ได้ประสิทธิผลตามที่โฆษณา ไฟเซอร์เริ่มข่มขู่และปิดกั้นผู้วิจารณ์ ด้วยการบอกว่าคนที่กำลังเผยแพร่ข้อมูลผิดๆ เป็นอาชญากร ซึ่งคำนี้ ซีอีโอของไฟเซอร์เคยพูดไว้ในการให้สัมภาษณ์เมื่อปี 2564 พร้อมยกอีกตัวอย่างว่า สก็อต กอตต์ลีบ อดีตผู้อำนวยการฝ่ายอาหารและยา และกรรมการบริหารของไฟเซอร์ในเวลานั้น ได้ติดต่อไปยังทวิตเตอร์ อ้างว่ามีผู้ใช้ละเมิดนโยบายของทวิตเตอร์ ด้วยการทวีตแสดงความกังขาประสิทธิภาพวัคซีน