พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ยืนยันจะไม่มีการปรับจะไม่มีการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.)ในตอนนี้และไม่มีการยุบสภา ในหัวสมองของผมในตอนนี้เลย เพราะฉะนั้นถ้าใครเอาไปพูด ระวังตัวไว้ด้วยแล้วกัน เป็นการสร้างความตื่นตระหนกในช่วงอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล ซึ่งตอนนี้พบว่ามีหลายข่าวมาจากสื่อบ้างอะไรบ้าง ผมก็ติดตามจากข่าว ถ้ามีใครทำเช่นนั้นจริง ถือว่าใช้ไม่ได้ โดยได้พูดคุยกับพลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) และแกนนำพรรคพปชร.แล้ว และได้ติดตามข่าวอยู่ตลอด โดยพลเอกประวิตรยืนยันว่าไม่มีอะไรแล้ว แต่ก็จะมีการปล่อยข่าวพวกนี้ออกมาอีก ซึ่งผมก็ไม่สบายใจ และไม่ได้มองว่าข่าวนี้มาจากแกนนำพรรคพปชร.หรือไม่ เชื่อว่าสมาชิกพรรคทุกคนต้องเข้มแข็ง และยึดมั่นในสิ่งที่เป็นข้อเท็จจริง ถ้ามีการกล่าวอ้างอะไรอย่าไปเชื่อ ใครสงสัยอะไรขอให้ถามนายกฯ โดยตรง ถามได้ทุกคน
พลเอกประยุทธ์ กล่าวยอมรับว่าอาจจะมีระยะห่างกับส.ส.บ้าง เพราะทำงานกันคนละบทบาท แต่ยินดีให้คำปรึกษาและเตือนอยู่เสมอว่าการใช้จ่ายงบประมาณต่างๆจะต้องโปร่งใส และถึงมือประชาชนอย่างแท้จริง หากมีใครพบทุจริตก็ไปตรวจสอบตามกระบวนการ และช่วยกันตามดู ไม่ว่าจะมาจากพรรคไหน ถ้าทำผิดมา ผมไม่เอาไว้ และให้ความช่วยเหลือไม่ได้ เพราะยืนยันไปแล้วว่าจะต้องไม่มีการทุจริต
“ขณะนี้มีอยู่ 2-3 เรื่องที่มีข่าวออกมา คือ การโหวตคว่ำนายกฯ ถ้าเป็นเรื่องจริงผมถือว่าไม่ใช่สุภาพบุรุษ และเวลานี้ไม่ใช่เวลาที่จะมาทำเรื่องแบบนี้ ผมยืนยันว่า ผมเข้ามา ผมทำงาน 100% ทุกเรื่อง เพราะฉะนั้นคิดว่าการรวมคะแนนเสียงโหวตคว่ำ จะเป็นความจริงหรือไม่ก็ตาม ถือว่าไม่ใช่สุภาพบุรุษ และเรื่องการปล่อยข่าวว่ามีการยุบสภาฯ ทำให้พวกส.ส.เขาตื่นตระหนกไปหมด เลยทำให้คิดว่าไม่ควรให้อำนาจนายกฯ เพราะจะมายุบสภาฯ ในภายหลัง”
นายกฯ ยืนยันว่าข่าวทั้งหมดเป็นการแอบอ้างทั้งสิ้น แต่ไม่ได้ถามพลเอกประวิตรว่าส.ส.ทำแบบนั้นทำไม ซึ่งพลเอกประวิตรยืนยันกับผมมาตลอดตั้งแต่มีข่าวลือว่าไม่มียุบสภาฯ เราทำงานกันหนักจะยุบสภาฯ ได้ยังไง
ขณะเดียวกันยังพบอีกว่ามีการแอบอ้างเบื้องสูงว่าจะมีการเปลี่ยนตัวนายกฯ ซึ่งถือว่ามีความผิดร้ายแรง และนายกฯคนเดียวเท่านั้นที่มีโอกาสเข้าเฝ้าฯถวายข้อราชการ คนอื่นไม่มีชัดเจนหรือไม่
ส่วนกรณีที่มีกระแสข่าวพรรคพปชร.จากขอโควตา เก้าอี้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยคืนนั้น พลเอกประยุทธ์ กล่าวว่า เอาไปทำอะไร เอาไปทำเพื่อเกิดประโยชน์สูงสุดเพื่อประเทศชาติหรือไม่ ยืนยันไปแล้วว่าไม่มีการปรับครม.และมั่นใจว่าจะร่วมกับพรรคร่วมรัฐบาลทำงานจนครบวาระ และได้บอกกับหัวหน้าพรรคร่วมรัฐบาลทุกพรรค 3-4 พรรค แล้วว่าจะให้จะให้อยู่ด้วยกันไปก่อนในช่วงเวลานี้ วันหน้าเป็นเรื่องของวันหน้า เลือกตั้งแล้วค่อยว่ากัน เป็นอีกเรื่องหนึ่ง แต่ตนก็ไม่ทราบกระบวนการในระหว่างพรรคร่วมรัฐบาลว่ามีจริงหรือไม่ แต่ก็ขอร้องไว้ตรงนี้แล้วกันอะไรก็ตามที่ไม่ถูกต้อง การกระทำสิ่งที่ไม่ดีมันเป็นเรื่องของกรรม แต่ถ้าเป็นเรื่องจริง ตนก็ไม่สามารถทำอะไรได้
พลเอกประยุทธ์ ยังกล่าวขอบคุณพรรคเล็ก ยืนยันว่าให้ความสำคัญกับพรรคเล็ก แต่อย่าคิดว่าหลักการมาร่วมรัฐบาลประเด็นสำคัญคือเรื่องงบประมาณเท่านั้น แต่ถ้ามุ่งแต่เรื่องงบประมาณ คิดว่าคงให้กลับไปที่เดิม แต่อันไหนที่ควรได้ควรให้ก็ให้ตามระบบข้าราชการ
“ไม่ใช่จะเขียนเบิกงบอะไรมาก็ได้ ได้น้อยก็ไม่ชอบเมื่อ ไม่ได้ก็ไม่พอใจ แบบนี้ผมไม่ต้องการให้กลับไปที่เดิม แต่ก็เห็นว่าหลายอย่างมีการพัฒนาไปมากพอสมควร แต่ขอให้เบิกงบประมาณถูกต้อง ถ้าให้งบฯส่งเดชไป ติดคุกทีหลังจะว่าอย่างไรใครจะยอม ผมก็ไม่ยอม”
ส่วนเรื่องที่ฝ่ายค้านบอกว่า นายกฯทุจริตเรื่องนั้นเรื่องนี้ ก็ขอให้ไปตรวจสอบมา บางทีก็พูดเอามัน เอาสนุก แต่เชื่อว่าประชาชนเข้าใจอะไรมากขึ้นในตอนนี้ เราจะเดินการเมืองแบบเดิมไม่ได้แล้ว และนี่คือการปฏิรูปการเมืองที่ต้องเริ่มจากส.ส.ทุกคนที่อาสาเข้ามาทำงานการเมืองตามหน้าที่ที่ประชาชนเลือกมา จึงต้องเป็นส.ส.เป็นรัฐมนตรีของคนทั้งประเทศไม่ใช่เฉพาะแค่พื้นที่ นี่คือการปฏิรูปการเมือง ซึ่งนายกรัฐมนตรีจะไปตามใจใครไม่ได้ ขอทุกคนอย่าไปฟังการเมืองที่โจมตีนอกสภาฯ ที่มีข่าวลือ ใครเชื่อก็โง่แล้ว
ทั้งนี้ผู้สื่อข่าวสอบถามพลเอกประยุทธ์ ว่าเมื่อคืนได้สวดมนต์หรือไม่ พลเอกประยุทธ์ กล่าวติดตลกว่า สวดมนต์ทุกวัน เดี๋ยวคนก็จะบอกว่าถ้าสวดมนต์ทุกวันถ้าอย่างนั้นก็เอาเจ้าอาวาสมาเป็นนายกฯ ดีกว่า ซึ่งใครไม่สวดมนต์บ้าง