เทรเวอร์ จาคอบ อดีตนักกีฬาสโนว์บอร์ดโอลิมปิก ที่หันมาเป็นยูทูบเบอร์ ยอมรับเมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมาว่า เขาเจตนาดีดตัวออกจากเครื่องบินใบพัดเดียว ขณะบินอยู่เหนืออุทยานป่าไม้ ลอส ปาเดรส ในรัฐแคลิฟอร์เนีย และจงใจปล่อยให้เครื่องบินตก เพื่อทำคลิปยูทูบ ล่าสุด ถูกศาลตัดสินลงโทษจำคุก 6 เดือน จากความผิดข้อหาทำลายและปกปิดหลักฐาน โดยมีเจตนาขัดขวางการสอบสวนของเจ้าหน้าที่รัฐบาลกลาง
อัยการแคลิฟอร์เนีย กล่าวว่า จาคอบ วัย 30 ปี จัดฉากเครื่องบินตก เมื่อวันที่ 24 พ.ย. 2564 โดยนำเครื่องบินขึ้นจากสนามบินลอมพ็อกซิตี้ มุ่งหน้าทะเลสาบแมมอธ แต่จาคอบไม่ได้ตั้งใจไปให้ถึงปลายทางจริง ๆ แสร้งทำเป็นว่าเครื่องยนต์ดับ และโดดร่มชูชีพลงมา
สองวันหลังประสบเหตุ จาคอบได้รายงานเหตุเครื่องบินตก ไปยังคณะกรรมการความปลอดภัยการคมนาคมแห่งชาติ หรือ NTSB พร้อมระบุว่าจะช่วยระบุพิกัดซากเครื่องบินให้เจ้าหน้าที่ แต่ในวันที่ 10 ธันวาคม 2564 เขากับเพื่อน แอบไปเคลื่อนย้ายซากเครื่องบิน และแยกชิ้นส่วนขนไปทิ้งตามถังขยะหลายจุดในและรอบสนามบินลอมพ็อกซิตี้ ทั้งหมดนี้อัยการระบุว่า ทำไปเพื่อขัดขวางการสอบสวนสาเหตุเครื่องบินตก
จาคอบ โพสต์คลิปชื่อว่า “ผมทำเครื่องบินตก” (I Crashed My Plane) บนเวบไซต์ยูทูบเมื่อธันวาคม 2564 มียอดวิวกว่า 4.4 ล้าน แต่ถูกผู้เชี่ยวชาญการบิน จับผิดหลายเรื่อง เช่นเหตุใดจึงไม่วิทยุขอความช่วยเหลือ ทำไมเลือกโดดร่มชูชีพทันทีแทนที่จะพยายามลงจอดก่อน และสังเกตว่าเขาติดกล้องไว้หลายตัว แถมบันทึกภาพเซลฟีขณะโดดร่มลงมาพื้นล่าง และนาทีเครื่องบินร่วงกระแทกพื้น
ตอนที่ให้การสารภาพในเดือนมิถุนายน จาคอบยอมรับว่า เขาทำคลิปนี้เพื่อโฆษณาให้กับบริษัทกระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์เจ้าหนึ่ง และยอมรับเมื่อวันจันทร์( 4 ธันวาคม) ว่าเขาปกปิดหลักฐานเครื่องบินตก เพราะไปเชื่อคำแนะนำทางกฎหมายแย่ๆ และอธิบายว่า การทำเครื่องบินตกโดยเจตนาไม่ใช่เพื่อหาแสง แต่เพราะเป็นความฝันหนึ่งในวัยเด็ก เขาบอกตัวเองเสมอว่าก่อนตาย อยากจะโดดร่มชูชีพออกจากเครื่องบิน และมองเครื่องบินตกลงพื้น เขาตั้งใจจะทำและแชร์ให้โลกได้เห็นด้วย และเมื่อทำลงไปแล้ว ก็ถือเป็นบทเรียนชีวิต