“เสี่ยตุ้ม” ยอมรับ ประชาธิปัตย์ แตกมากว่า 2 ขั้ว ถ้า “เฉลิมชัย” ลงชิงหัวหน้า พร้อมถอยให้

"เสี่ยตุ้ม นราพัฒน์" พูดเอง ถ้าได้เป็น "หัวหน้าพรรค" พิจารณาเข้าร่วมรัฐบาล "เพื่อไทย" ตามเงื่อนไข ​ตั้งใจทาบทาม "มาดามเดียร์" นั่งเก้าอี้รองหัวหน้า พร้อมยอมรับ "ประชาธิปัตย์" วันนี้แตกมากกว่า 2 ขั้ว ยืนยันที่ผ่านมามีคนคิดโค่นล้ม "จุรินทร์" จริง ระบุชัด หาก "เฉลิมชัย"​ ตัดสินใจลงชิงตำแหน่งหัวหน้าพรรค ก็ยินดีถอยให้

ความร้อนระอุใน “พรรคประชาธิปัตย์” ยังทวีคูณความรุนแรงขึ้นนาทีต่อนาที ทุกสายตารอลุ้น “ชื่อของหัวหน้าพรรคคนใหม่”​ ที่คาดว่าจะประกาศอย่างเป็นทางการ ในการประชุมพรรคในวันเสาร์ ที่ 9 ธันวาคม 66 นี้ รายการ Top News Talk ประจำวันที่ 8 ธันวาคม 66 ต้อนรับ “คุณนราพัฒน์ แก้วทอง” รักษาการรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ผู้ท้าชิงตำแหน่งหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งได้มาให้ข้อมูลถึงสถานการณ์ที่กำลังเกิดขึ้นในพรรค ณ ขณะนี้

 

 

 

 

 

“ถึงตอนนี้ ผมยังไม่ถอนตัวนะครับ ต้องรอ ท่านเฉลิมชัย ตัดสินใจก่อนว่าจะเอาอย่างไร ดังนั้นผมยังอยู่ในสถานะผู้ท้าชิง แต่วันนี้เมื่อช่วงบ่าย ก็ได้ไปให้กำลังใจท่าน และสนับสนุนท่าน ถ้าท่านลงผมพร้อมถอย เพราะที่ผ่านมาท่านกับผมมีความคิดเห็นตรงกัน คืออยากให้ พรรคประชาธิปัตย์ กลับมาแข็งแรง หลายคนมอว่าผมเป็นกลุ่มเพื่อนต่อ ซึ่งความจริงแล้ว ผมเล่นการเมืองครั้งแรกรุ่นเดียวกับท่าน แนวความคิดก็ค่อนข้างตรงกัน จะเห็นได้ว่าที่ผ่านมาผมเสนอชื่อที่จะลงชิงชัยตำแหน่งหัวหน้าพรรคคนแรกๆ นั้นเพราะผมเป็นคนกลางๆ และคิดว่าตัวเองน่าจะเชื่อมทุกคนในประชาธิปัตย์ให้หลอมรวมเป็นหนึ่งเดียวกันได้ ด้วยการยึดมั่นในอุดมการณ์เดิมของพรรคไม่เปลี่ยนแปลง แต่วิธีการทำงานต้องปรับจูนกัน ระหว่างคนรุ่นเก่ากับคนรุ่นใหม่”

 

 

“ยอมรับว่าพรรคประชาธิปัตย์ในตอนนี้ แตกมากกว่า 2 ขั้ว แต่มันเป็นแนวความคิด ที่แตกต่างกันไป จะเรียกเป็นกลุ่มก๊ก ก็เรียกได้ มันคือความหลากหลาย ส่วนเรื่องที่ว่า ขั้วหนึ่งอยากร่วมรัฐบาล อีกขั้วหนึ่งไม่อยากร่วมรัฐบาล อันนี้ถือเป็นการสื่อสารที่ผิดพลาดเพราะการ ร่วมรัฐบาล หรือ ไม่ร่วมรัฐบาล มันอยู่ที่มติพรรค คนกลุ่มเดียวตัดสินกันเองไม่ได้ ที่สำคัญคือ ที่ผ่านมา ยังไม่มีใครมาทาบทามเข้าร่วมรัฐบาลเลย มีแค่ข่าวคราวการไปคุยกัน เป็นความคิดเห็นส่วนตัว”

“ถ้าผมได้เป็นหัวหน้าพรรค ผมตอบเองไม่ได้ ว่าจะร่วมหรือไม่ร่วมรัฐบาล ต้องอยู่ที่สมาชิกพรรค แต่ถ้าถามผมๆ ก็ต้องอยู่ที่หลักเกณฑ์ ที่วางไว้ เช่น ถ้าเพื่อไทย ไม่โกง ไม่ทุจริต ไม่มีผลประโยชน์ทับซ้อน ก็ร่วมรัฐบาลได้ ทุกอย่างอยู่ที่เงื่อนไขและความเป็นไปได้ ถ้าร่วมรัฐบาลเกิดประโยชน์ ก็เป็นไปได้ “

 

 

ข่าวที่น่าสนใจ

“จากกรณีที่เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ท่านชวน หลีกภัย ออกมาให้สัมภาษณ์ว่า ไม่แปลกใจที่ 21 สส. ดัน ”เฉลิมชัย” เป็นหัวหน้าพรรค เพราะ “เฉลิมชัย” อุปถัมป์ สส.เหล่านี้มาตลอด เรื่องนี้ผมคิดว่าเป็นเรื่องปกติ เพราะท่านเฉลิมชัย ดูแลทุกคนเท่าเทียม ผลักดันให้ทุกคนมีพื้นที่ในการเลือกตั้ง และต้องรับผิดชอบผู้สมัครทุกคนอยู่แล้ว”

“ประชาธิปัตย์ พรรคต้องใหญ่กว่าตัวบุคคล พรรคเราเป็นประชาธิปไตย ส่วนเราทุกคนที่เป็นสมาชิกก็ต้องมีวินัยในการอยู่ร่วมกัน การเลือกตั้งพรรคครั้งก่อน ผมเลือก “ท่านพีระพันธุ์” แต่ “ท่านจุรินทร์” ได้เป็นหัวหน้าพรรค ซึ่งผมก็ยอมรับมติพรรค เคารพกติกา และได้ทำงานร่วมกับท่านจุรินทร์ มาโดยตลอด แต่เมื่อถามว่า ในพรรคมีกระบวนการล้ม “ท่านจุรินทร์” จริงมั้ย บอกได้เลยว่าจริง นั้นอาจเพราะไปฟังกระแสภายนอกว่า “ท่านจุรินทร์”​ ไม่ได้รับความนิยม

 

 

“การเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมา ประชาธิปัตย์ได้ สส. 25 คน ไม่ได้เป็นเรื่องที่ตกต่ำสุด เพราะในอดีตได้น้อยกว่านี้ ก็มีมาแล้ว อย่าลืมว่าการเมือง เป็นเรื่องกระแส เรื่องจังหวะและโอกาส หลายครั้งคนก็เทมาเลือกประชาธิปัตย์ เพราะคนในพรรคช่วยกู้ วิกฤตในยุคนั้นๆก็มีมาก

“ถ้าท่านเฉลิมชัย ตัดสินใจลงสมัครเลือกตั้งเอง บอกได้เลยว่า “มาดามเดียร์” น่าจะเหนื่อย และถ้า ผมลงชิงกับเดียร์ ผมก็ได้เปรียบกว่า แต่ถ้าถามว่า “มาดามเดียร์” จะมีโอกาสผ่านกติกามั้ย? ต้องย้อนกลับมาดูกฎเกณฑ์ของพรรคด้วย ข้อนึงเว้นวรรคข้อบังคับได้ แต่ทั้งหมดขึ้นอยู่ที่สมาชิกพรรคคนอื่นๆ

 

 

“การประชุมพรรค 2 ครั้ง ผมได้รับเลือกเสนอชื่อตลอด ถ้าวันนี้ ต้องถอยให้ “ท่านเฉลิมชัย” ผมก็ไม่ได้น้อยใจ ผมตั้งใจเข้ามาเป็นคนกลาง ประสานรอยร้าว ถามว่าสิ่งที่ “มาดามเดียร์” พูดไว้ ว่าอยากจะทำอะไร ก็ดีหมด แต่เราต้องกวาดบ้านเราให้สะอาดก่อน ไม่ใช่คนในบ้านทะเลาะกัน แล้วไปอาสาทำอะไรนอกบ้าน ผมเคยคิดว่า ถ้าผมได้รับเลือกเป็นหัวหน้าพรรค ผมจะตั้งมาดามเดียร์ เป็นรองหัวหน้าพรรค เพราะมาดามเดียร์ เป็นคนรุ่นใหม่ที่มีความชัดเจน แต่การเป็นผู้นำ อาจจะต้องรอเวลา

“การที่กระแสสังคมออกมาโจมตีเรื่องที่ “ท่านเฉลิมชัย”​ ไม่รักษาคำพูด มันไม่ใช่นะ เพราะเจตนามันไม่ใช่อย่างนั้น ท่านตั้งใจมาเพื่อทำภารกิจชั่วคราวเพื่อแก้ปัญหาให้พรรค แล้วจะไป เพราะตอนนี้ท่านยังเป็นสมาชิกพรรค อยากเห็นพรรคเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดี”

 

 

 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

สลด กระบะชนจยย.พลิกคว่ำตก "ดอยโป่งแยง" เชียงใหม่ เจ็บตายรวม 13 ราย
“สมศักดิ์” ยกนวดไทยเป็นมรดกชาติ สร้างมูลค่าเศรษฐกิจสุขภาพ เล็งพาหมอนวดโกอินเตอร์ โชว์ฝีมืองาน เวิลด์เอ็กซ์โปโอซาก้า ญี่ปุ่น
ห่ามาแล้ว! “แม่สอด” พบติดเชื้ออหิวาต์ เผยญาติฝั่งพม่าซื้อข้าวมากินด้วยกัน
ผกก.สภ.รัตนาธิเบศร์ สั่งตั้งคกก.สอบ "ตร.จราจร" รีดเงินแทนเขียนใบสั่ง
สตม. บุกทลายแก๊งคอลเซ็นเตอร์ กลางคอนโดหรูห้วยขวาง รวบ 6 คนจีน อึ้งเจอซิมการ์ด 2 แสนซิม
ครูบาอริยชาติ เชิญชวนพุทธศาสนิกชน ฉลองสมโภช 18 ปีวัดแสงแก้วโพธิญาณ และทำบุญฉลองอายุวัฒนมงคล 44 ปี
กกต.สั่งดำเนินคดีอาญา "ชวาล" ส.ส.พรรคประชาชน ยื่นบัญชีใช้จ่ายเท็จ โทษคุก-ตัดสิทธิเลือกตั้ง 5 ปี
จีนเตือนสหรัฐกำลังเล่นกับไฟหลังส่งอาวุธให้ไต้หวัน
อิลอน มัสก์วิจารณ์แรงผู้นำเยอรมันเหตุโจมตีตลาดคริสต์มาส
ซาอุฯเคยเตือนเยอรมนีเรื่องคนร้ายโจมตีตลาดคริสต์มาส

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น