นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย เดินทางมาแจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวน สน.บางเขต เพื่อดำเนินคดีกับ นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ เลขาธิการ นปช. นายสมบัติ บุญงามอนงค์ หรือ บก.ลายจุด และนายนายธนัตถ์ ธนากิจอำนวย หรือ ไฮโซลูกนัท ซึ่งร่วมกันจัดกิจกรรม Car Mob คอลเอาท์ เมื่อวันที่ 29 ส.ค. ที่ผ่านมา โดยมีฐานความผิดหลายข้อหา อันก่อให้เกิดผลกระทบต่อความมั่นคง และความสงบเรียบร้อยของบ้านเมือง
ส่วนการกระทำดังกล่าวได้นัดรวมตัวที่ถนนประเสริฐมนูญกิจ แยกเกษตร ก่อนที่จะเคลื่อนขบวนไปยัง จ.ปทุมธานี อันเป็นการกีดขวางทางสัญจรของประชาชน มีการปราศรัย ผ่านเครื่องขยายเสียง ซึ่งมีแนวร่วมส่งเสียง บีบแตรยานยนต์ ส่งเสียงโหวกเวก เป็นที่เบื่อหน่าย สร้างความเดือดร้อนรำคาญ และสร้างความเสียหายให้กับประชาชนและสาธารณะ เป็นพฤติการณ์ที่ไม่ย่ำเกรงกฎหมายของบ้านเมือง ไม่มีสำนึกรับผิดชอบต่อความเดือดร้อนของผู้อื่น แต่กลับมาเป็นแกนนำสร้างความปั่นป่วนให้บ้านเมือง อันเป็นการฝ่าฝืนกฎหมายหลายฉบับ
ขณะที่ การกระทำดังกล่าว มีหลายกระทงความผิดด้วยกัน อาทิ ความผิดฐานฝ่าฝืน มาตรา 9 แห่ง พ.ร.ก.ฉุกเฉิน 2548, ฝ่าฝืนประกาศหัวหน้าผู้รับผิดชอบในการแก้ไขสถานการณ์ในส่วนที่เกี่ยวกับความมั่นคง(ฉบับที่ 9) ลงวันที่ 3 ส.ค.64, ฝ่าฝืน หรือการกระทำใดๆ ซึ่งอาจก่อสภาวะที่ไม่ถูกสุขลักษณะ ที่เป็นเหตุให้เกิดโรคติดต่ออันตรายหรือโรคแพร่ระบาดออกไป ฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามคำสั่งของเจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อตาม ม.34(6) ของ พ.ร.บ.โรคติดต่อ 2558
ขณะเดียวกัน ยังฝ่าฝืนประมวลกฎหมายอาญา ม.116, ม.215 ฐานมั่วสุมกันตั้งแต่ 10 คนขึ้นไป หรือกระทำการอย่างหนึ่งอย่างใด ให้เกิดความวุ่นวายขึ้นในบ้านเมือง และเมื่อเจ้าพนักงานสั่งผู้ที่มั่วสุมให้เลิกไปแล้วไม่เลิก ตาม ม.216, ความผิดฐานกีดขวางการจราจร ตาม ม.43 ของพ.ร.บ.จราจรทางบก 2522, ความผิดฐานใช้เครื่องขยายเสียงโดยไม่ได้รับอนุญาต ตาม พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องขยายเสียงฯ 2493 และยังเป็นความผิด ตามประมวลกฎหมายอาญา ม.83 ในฐานะเป็นตัวการที่ร่วมกระทำความผิดกับบุคลลอื่นๆ ที่มาร่วมคาร์ม็อบคอลเอาท์ และความผิดอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องอีกหลายกระทง
สมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย จึงไม่อาจปล่อยให้กลุ่มบุคคลดังกล่าวย่ามใจในการจัดกิจกรรมในลักษณะปั่นป่วนสังคมดังกล่าวต่อไปอีกได้ จึงนำความพร้อมพยานหลักฐานมาแจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.บางเขน เพื่อดำเนินการสอบสวนเอาผิดและดำเนินคดีตามครรลองของกฎหมาย และส่งอัยการฟ้องศาลพิพากษาลงโทษขั้นสูงสุดอย่างเด็ดขาด เพื่อมิให้เป็นเยี่ยงอย่างต่อสังคมต่อไป