“มาดามเดียร์” หลั่งน้ำตาเปิดใจ พลาดโอกาสชิงหัวหน้าปชป.

"มาดามเดียร์" หลั่งน้ำตาเปิดใจ พลาดโอกาสชิงหัวหน้าปชป.

วันที่ 9 ธ.ค. 66 ที่โรงแรมมิราเคิล แกรนด์ คอนเวนชั่น หลักสี่ กทม. ภายหลังทราบมติของที่ประชุม เรื่องการยกเว้นคุณสมบัติ ในการลงสมัครหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งที่ประชุมมีมติ 139 เสียง จาก 261 เสียง ถือว่าน้อยกว่า 3 ใน 4 ที่ต้องมี 195 เสียง ทำให้นางสาววทันยา บุนนาค หมดสิทธิ์ลงสมัครหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์

โดยทันทีที่ทราบมติที่ประชุม นางสาววทันยา ให้สัมภาษณ์เปิดใจทั้งน้ำตา กล่าวขอบคุณสมาชิกพรรคทุกคนที่รับรองชื่อของตน รวมถึงสมาชิกทั้ง 139 คน ที่สนับสนุนที่จะยกเว้นคุณสมบัติให้กับตนในการลงสมัครชิงหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์คนที่ 9

สิ่งที่ตนตั้งใจมาลงรับสมัครหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ตั้งใจมาด้วยอุดมการณ์ และความหวังที่เชื่อมั่นและศรัทธาในพรรคประชาธิปัตย์ในวันที่พรรคพ่ายแพ้การเลือกตั้ง เหลือ สส. แค่ 25 คน ทำให้ทุกคนหวาดหวั่นว่าอนาคตของพรรคจะเป็นเช่นไร

วันนี้พรรคกำลังยืนอยู่บนทางแพร่ง 2 ทาง ว่าจะเข้าสู่อำนาจ เพื่อใช้ระบบอุปถัมภ์ที่วันหนึ่งเมื่อไม่มีจะให้ หรือให้สักเท่าไหร่ก็ไม่พอ ก็ทำได้แค่หวังว่าประชาชนจะให้โอกาสเราอีกครั้ง หรือการใช้อุดมการณ์จิตวิญญาณของพรรคประชาธิปัตย์ในการทำงานซื่อตรงกับประชาชน ยึดหลักถูกต้องให้กับประชาชน เป็นหนทางที่เราทำได้สำเร็จ ทำให้ได้รับแรงศรัทธาจากประชาชนมาตลอด 77 ปี

 

 

ข่าวที่น่าสนใจ

และตนเองแม้จะเพิ่งมาทำงานกับพรรค ก็ทบทวนว่าสิ่งที่พรรคเคยทำมาในอดีต และความผิดพลาดที่เกิดขึ้น ไม่ได้เกิดขึ้นจาก จากปัญหาเรื่องโครงสร้างพรรค หรือปัญหาการทำงานภายในใดๆเลย แต่เพราะเราไม่สามารถสร้างอุดมการณ์สร้างจุดยืนทางการเมืองที่ชัดเจน เพื่อเป็นความหวังและทางเลือกให้กับประชาชน

ซึ่งวันที่ตนกลัวที่สุด คือวันที่ประชาธิปัตย์กำลังอยู่ยืนอยู่บน 2 ทางแพร่งนี้ ว่าประชาธิปัตย์จะกลับมาฟื้นฟูอุดมการณ์ได้สำเร็จ หรือประชาธิปัตย์ กำลังจะเปลี่ยนไปแล้ว ตนจึงขอเลือกตัดสินใจที่จะลงมือทำ ในสิ่งที่ตนเชื่อว่าเป็นทางรอดทางเดียวของพรรค คือการรท้อฟื้นจิตวิญญาณที่ยึดมั่นในอุดมการณ์และจิตวิญญาณที่บริสุทธิ์ ที่หัวหน้าพรรคทั้ง 8 คนได้ทำมาโดยตลอด ซึ่งนั่นคือทางรอดทางเดียวของพรรคประชาธิปัตย์

 

 

อย่างไรก็ตามตนไม่อยากตัดสินว่าสิ่งที่เกิดขึ้นในวันนี้ เป็นเพราะระบบอุปถัมภ์หรือไม่ แต่ตนเชื่อมั่นว่าทางรอดทางเดียวของพรรคประชาธิปัตย์ คือการรื้อฟื้นอุดมการณ์เท่านั้น และตนหวังว่าการเปลี่ยนแปลงจะเกิดขึ้น และก็ได้แต่หวังว่าเพื่อนสมาชิกทุกคนจะเห็นเช่นเดียวกัน แต่วันนี้สิ่งที่เกิดขึ้นมันทำให้เห็นแล้วว่า สิ่งที่เราหวังว่าประชาชนจะกลับมาศรัทธาพรรคประชาธิปัตย์อีกครั้ง วันนี้แสงแห่งความหวัง แสงแห่งการเปลี่ยนแปลง มันไม่เกิดขึ้นแล้ว เราจะหวังแสงแห่งศรัทธาจากประชาชนกลับคืนมาได้อย่างไร

 

 

 

โดยหลังจากนี้ขอประเมินและทบทวนว่าทิศทางพรรคหลังจากนี้จะเป็นอย่างไร แนวทางการทำงานของตน เลือกทำงานกับพรรคการเมืองที่อุดมการณ์ตรงกัน แต่หากอุดมการณ์ไม่ตรงกัน ก็คงเป็นเรื่องของเราที่ต้องพิจารณาตนเอง ว่ายังสมควรที่จะทำงานกับพรรคต่อหรือไม่

 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

คึกคักสุดๆ แห่เที่ยวตามรอย "ลิซ่า" ในซีรีส์ The White Lotus 3 ทำยอดจองโรงแรมเกาะสมุยพุ่ง
ผู้ลี้ภัยแอลจีเรียไล่แทงตำรวจในฝรั่งเศส
เต่าทะเลกว่า 6 แสนตัวแห่วางไข่ที่ชายหาดอินเดีย
ฮามาสปล่อย 6 ตัวประกันสุดท้ายภายใต้ข้อตกลงเฟสแรก
‘Super AI Engineer Season 5’ รวมพลังรัฐ-เอกชน-ประชาสังคม ปั้นบุคลากร AI เสริมขีดความสามารถแข่งขันไทย
"ดร.ปณิธาน" ยกพัทยาโมเดล แก้ปัญหา "ชาวอิสราเอล" ล้นเมืองปาย แนะหน่วยมั่นคงบังคับใช้กม.ใกล้ชิด
"อดีตสว.สมชาย" แฉโพย ฮั้วเลือกสว. ชี้เป็นหลักฐาน ดีเอสไอ เร่งนำลากไส้ตัวการใหญ่
‘ทักษิณ’ ปลื้มลงพื้นที่นราธิวาส ในรอบ 19 ปี ปชช.รอต้อนรับ
นายกฯ รับรายงาน ตร.ไทย-กัมพูชา ร่วมมือทลายแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ฝั่งปอยเปต ช่วยเหยื่อคนไทยนับร้อย หลุดพ้น
“เทพไท” เชื่อ 44 อดีตสส.ก้าวไกล ลงชื่อรื้อ แก้ 112 ถูกตัดสิทธิ์ กระทบหนักยิ่งกว่าถูกยุบพรรค

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น