“ชัยธวัช” เต้นแรง เรียกร้องขอคืนอำนาจ สถาปนารธน.

"ชัยธวัช" เต้นแรง เรียกร้องขอคืนอำนาจ สถาปนารธน.

นายชัยธวัช ตุลาธน หัวหน้าพรรคก้าวไกล โพสต์ภาพและข้อความผ่านเฟซบุ๊กเรื่อง “คืนอำนาจสถาปนา หาฉันทามติสังคมไทย สร้างรัฐธรรมนูญใหม่ของประชาชน” โดยระบุว่า หากเรามองย้อนไปในประวัติศาสตร์สังคม การเกิดขึ้นของรัฐธรรมนูญประชาธิปไตย เป็นปรากฏการณ์ที่คนในสังคมเขียนกติการ่วมกันขึ้นมาว่าพวกเราอยากได้สังคมแบบนี้ เราอยากอยู่ร่วมกันแบบนี้ และย่อมเป็นอำนาจของเราในการกำหนดกติกานี้ขึ้น ดังนั้นก่อนเริ่มต้นการถกเถียงใดๆ เกี่ยวกับรัฐธรรมนูญ ไม่ว่าจะเรื่องเราต้องการเนื้อหารัฐธรรมนูญแบบใด กระบวนการร่างจะเป็นเช่นไร ผมเห็นว่าเราต้องกลับมาเริ่มต้นที่คำถามสำคัญที่สุดลำดับแรกนั่นคือ “ใครควรเป็นผู้มีอำนาจสูงสุดในการสถาปนารัฐธรรมนูญของประเทศไทย”

 

พรรคก้าวไกลเชื่อว่า การมีรัฐธรรมนูญที่เกิดขึ้นจากอำนาจสถาปนาของประชาชนเป็นสิ่งสำคัญที่สุดของสังคมไทยในเวลานี้ การให้ประชาชนมีส่วนร่วมอย่างกว้างขวางในทุกๆ กระบวนการร่างรัฐธรรมนูญเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้ โดยเฉพาะหากเราคาดหวังให้รัฐธรรมนูญใหม่ช่วยนำพาสังคมไทยออกจากวิกฤติความขัดแย้งเรื่องรัฐธรรมนูญที่เป็นอยู่ทุกวันนี้ รัฐธรรมนูญที่พรรคก้าวไกลใฝ่ฝัน ต้องเป็นรัฐธรรมนูญที่ยืนยันว่าพวกเราทุกคน คือผู้มีศักยภาพในการออกแบบกติกาของสังคมเราเอง และมีสิทธิ์อันชอบธรรมที่จะสถาปนาก่อตั้งรูปแบบทางการเมืองที่ตนปรารถนาได้ รัฐธรรมนูญต้องไม่เป็นกฎระเบียบที่เกิดจากการอ้างอำนาจศักดิ์สิทธิ์ อำนาจทางศาสนา หรือการใช้กองทัพในการควบคุมอีกแล้ว

 

 

ข่าวที่น่าสนใจ

นายชัยธวัช ระบุต่อว่า การที่พรรคก้าวไกลเสนอให้มีการทำประชามติตั้งแต่ครั้งแรกก่อนเริ่มต้นกระบวนการ เพราะเราเห็นว่าเป็นวิธีการเดียวที่จะตอบว่า ฉันทามติของสังคมไทยในเวลานั้นเป็นอย่างไร อีกทั้งประเด็นที่ยังมีความคิดเห็นแตกต่างกันในสังคม ก็สามารถถามประชาชนอย่างตรงไปตรงมาในการทำประชามติ เพื่อหาข้อยุติในความเห็นที่แตกต่างกันตามกระบวนการประชาธิปไตย นอกจากนี้การทำประชามติจะเป็นการมอบความชอบธรรมทางการเมืองตามระบอบประชาธิปไตย ให้กระบวนการร่างรัฐธรรมนูญที่เราใฝ่ฝัน มีประชาชนเป็นหลังพิงอันมั่นคง

 

หัวหน้าพรรคก้าวไกล ย้ำอีกว่า การเลือกตั้งสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ หรือ สสร. โดยตรงจากประชาชนทั้งหมด นอกจากจะเป็นสิ่งยืนยันว่าอำนาจสถาปนารัฐธรรมนูญฉบับนี้จะมาจากประชาชนแล้ว ยังเป็นเสมือนพื้นที่พูดคุยอย่างเปิดกว้างของพลังทางความคิดต่างๆในสังคม เป็นพื้นที่เปิดให้ทุกความคิดรู้สึกว่าได้รับการโอบรับเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการ เนื่องจากที่ผ่านมาสังคมไทยอยู่ในความขัดแย้งอันยาวนาน มีปัญหาสำคัญคือเราไม่สามารถหาฉันทมติร่วมกันได้ว่าระบบระเบียบการเมืองแบบใดที่เรายอมรับจะอยู่ร่วมกันได้ ดังนั้นกระบวนการที่เปิดกว้าง จึงมีแนวโน้มนำไปสู่การออกแบบเนื้อหาในรัฐธรรมนูญที่สะท้อนความหลากหลายในสังคม และตอบโจทย์สภาพการณ์ปัญหาการเมืองไทยในปัจจุบันมากที่สุด

 

แม้สุดท้ายรัฐธรรมนูญจะมีหน้าตาไม่เหมือนกับความคิดของฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง 100% ซึ่งผมเห็นว่าเป็นไปไม่ได้อยู่แล้ว แต่กระบวนต้องที่ไม่มุ่งกีดกันฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งตั้งแต่แรกเริ่ม การให้ข้อถกเถียงต่างๆ ของแต่ละกลุ่มพลังสังคมเป็นที่ยุติในชั้นของ สสร.ที่มาจากการเลือกตั้ง จะการันตีได้ว่า รัฐธรรมนูญภายใต้กระบวนการนี้ ย่อมสอดคล้องกับความต้องการของประชาชนส่วนใหญ่ แต่ก็ยังคงใส่ใจคนส่วนน้อย และเป็นระบบการเมืองที่สะท้อนฉันทมติใหม่ของสังคมไทยอย่างแท้จริง

 

 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

"ทนายบอสพอล" เผยเป็นไปตามคาด "เอก สายไหม" ถูกจับ จ่อดำเนินคดีหมิ่นประมาท เรียกค่าเสียหาย 100 ล้าน
ศาลออกหมายจับ 'เจ๊หนิง' พร้อมสามีและหลาน ร่วมกันแจ้งความเท็จ 'ภรรยาบิ๊กโจ๊ก'
อิสราเอลถล่มเลบานอนดับครึ่งร้อย
หมายจับ ICC กระทบอิสราเอลอย่างไร
เปิดวิสัยทัศน์ประธานเครือข่ายธุรกิจ Bizclub นครราชสีมาคนใหม่ “กิม ฐิติพรรณ จันทร์ประทักษ์”
เกาหลีใต้ชี้รัสเซียส่งระบบป้องกันภัยทางอากาศให้เกาหลีเหนือ
สหรัฐเมินไฮเปอร์โซนิครัสเซียลั่นไม่หยุดหนุนยูเครน
เมียเอเย่นต์ค้ายาบ้า ร้องถูกตร.รีด 5 แสน แลกปล่อยตัว พ่วงเรียกเก็บเงินรายเดือน
สถาปนาเขตพื้นที่คุ้มครองฯ ชาติพันธุ์ชุมชนชาวเลโต๊ะบาหลิว
ผบ.ตร.สั่งสอบคลิปแก๊งต่างด้าว แสดงพฤติกรรมเย้ยกม. กำชับคุมเข้ม ใช้ยาแรง

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น