วันที่ 12 ธ.ค.66 วารสารการเงินธนาคาร ร่วมกับ อาจารย์ประจำคณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ทำการจัดอันดับเศรษฐีหุ้นไทยติดต่อกันปีนี้เป็นปีที่ 30 โดยวัดจากผู้ถือหุ้นรายใหญ่ประเภทบุคคลธรรมดาในประเทศที่ถือหุ้นสูงสุด 10 อันดับแรก ของบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) และตลาดหลักทรัพย์ mai ตามการปิดสมุดทะเบียนผู้ถือหุ้นล่าสุดภายในวันที่ 30 กันยายน 2566
สำหรับผลการจัดอันดับเศรษฐีหุ้นไทยปี 2566 ใน วารสารการเงินธนาคาร ฉบับเดือนธันวาคม 2566 ปรากฏว่า แชมป์เศรษฐีหุ้นไทยปี 2566 ยังคงเป็นของ สารัชถ์ รัตนาวะดี กรรมการ รองประธานกรรมการ และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ หรือ GULF ซึ่งเป็นการครองแชมป์ติดต่อกันเป็นปีที่ 5 แล้ว โดยถือหุ้นมูลค่าสูงสุดเป็นอันดับ 1 รวม 190,828,06 ล้านบาท ลดลง 28,153.53 ล้านบาท หรือ 12.86%
นอกจาก สารัชถ์ จะถือหุ้น GULF สูงเป็นอันดับ 1 ในสัดส่วน 35.67% คิดเป็นมูลค่า 190,421.51 ล้านบาทแล้ว ในปีนี้ยังถือหุ้น บมจ.ไอ-เทล คอร์ปอเรชั่น (ITC) บริษัทในกลุ่มไทยยูเนี่ยนที่ทำธุรกิจผลิตอาหารสัตว์เลี้ยงส่งออกทั่วโลกอีก 0.67% มูลค่า 406.55 ล้านบาท
อย่างไรก็ตาม แม้ว่าปีนี้ความมั่งคั่งจะลดลงไป แต่ตลอด 5 ปีของการครองแชมป์เศรษฐีหุ้นไทย มูลค่าหุ้นที่สารัชถ์ถือครองก็อยู่ในระดับไม่ต่ำกว่า 1 แสนล้านบาท ทุกปี ซึ่งนับเป็นมูลค่าสูงสุดในทำเนียบเศรษฐีหุ้นไทยตั้งแต่ปี 2537 จนถึงปัจจุบัน
โดยในปี 2562 ซึ่งเป็นปีแรกที่ก้าวขึ้นครองแชมป์ สารัชถ์มีความมั่งคั่งรวม 120,959.99 ล้านบาท ต่อมาในปีที่ 2563 ความมั่งคั่งลดลงไปเล็กน้อยที่ 115,289.99 ล้านบาท ก่อนทะยานสู่ 173,099.73 ล้านบาท ในปี 2564 และพุ่งทะลุไปถึง 218,981.58 ล้านบาท ในปี 2565 จนล่าสุดลดลงมาที่ 190,828.06 ล้านบาท ในปี 2566
เศรษฐีหุ้นอันดับ 2 ได้แก่ นิติ โอสถานุเคราะห์ นักลงทุนรายใหญ่ ทายาทอาณาจักรโอสถสภา โดยถือครองหุ้นมูลค่ารวม 61,790.61 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 3,666.61 ล้านบาท หรือ 6.31% ซึ่งพอร์ตการลงทุนที่มีชื่อนิติเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ 10 อันดับแรกในปีนี้ยังคงอยู่ใน 8 บริษัท โดยถือหุ้นในสัดส่วนใกล้เคียงกับปีที่แล้ว
เศรษฐีหุ้นอันดับ 3 ได้แก่ นพ.ปราเสริฐ ปราสาททองโอสถ หรือ หมอเสริฐ เจ้าของกลุ่มโรงพยาบาลกรุงเทพ และสายการบินบางกอกแอร์เวย์ส โดยถือครองหุ้น บมจ.การบินกรุงเทพ (BA) และ บมจ.กรุงเทพดุสิตเวชการ (BDMS) มูลค่ารวม 57,001.68 ล้านบาท ลดลง 5,734 ล้านบาท หรือ 9.14%
เศรษฐีหุ้นอันดับ 4 ได้แก่ ปณิชา ดาว โดยยังคงเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่อันดับ 1 ของ บมจ.พีเอสจี คอร์ปอเรชั่น (PSG) ในสัดส่วน 80% รวมมูลค่าหุ้นที่ถือครอง 41,595.20 ล้านบาท ลดลง 40,035.38 ล้านบาท หรือ 49.04% สำหรับ PSG ได้มีกลุ่มทุนจาก สปป.ลาว นำโดย เดวิด แวน ดาว สามีของปณิชา ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ในบริษัท หลวงพระบาง พาวเวอร์ ในนาม บริษัท พีที จำกัดผู้เดียว (PTS) เจ้าของโรงไฟฟ้าพลังน้ำหลวงพระบาง ที่ สปป.ลาว เข้ามาเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่กลุ่มใหม่ในปี 2564
เศรษฐีอันดับ 5 ได้แก่ ปรมาภรณ์ ปราสาททองโอสถ ประธานกรรมการบริหาร และกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บมจ.กรุงเทพดุสิตเวชการ ทายาทหมอเสริฐ โดยยังคงถือหุ้น BDMS ในสัดส่วนที่ใกล้เคียงกับปีที่แล้วคือ 5.18% และถือหุ้น BA ในสัดส่วนเดิมที่ 6.49% ส่วน บมจ.เดอะ วัน เอ็นเตอร์ไพรส์ (ONEE) ปีนี้ได้ลดการถือหุ้นจาก 40.04% เหลือ 25.05% ส่งผลให้มีมูลค่าหุ้นที่ถือครองรวมทั้งสิ้น 26,634.59 ล้านบาท ลดลง 8,367.28 ล้านบาท หรือ 23.91%