จบลงด้วยดี กรณีหลวงพ่อไปรักษาตัว กลับมาพบกุฎิถูกรื้อเหลือแต่ตอ หลังนายก อบต.ไผ่ นำคณะเข้าชี้แจง

สุรินทร์ - จบลงด้วยดี กรณีหลวงพ่อไปรักษาตัว กลับมากุฎิถูกรื้อเหลือแต่ตอ หลังนายก อบต.ไผ่ นำคณะเข้าชี้แจง เหตุรื้อกุฎิและสิ่งปลูกสร้าง ภายในสำนักสงฆ์ป่าช้า บ้านสี่เหลี่ยม หมู่ 6 ต.ไผ่ อ.รัตนบุริ จ.สุรินทร์

สืบเนื่องจาก เมื่อวันที่ 13 ธ.ค.66 ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจาก พระครูปลัดหัสฬาร ปสันโน อายุ 52 ปี เจ้าสำนักสงฆ์ป่าช้าบ้านสี่เหลี่ยม หมู่ 6 ต.ไผ่ อ.รัตนบุริ จ.สุรินทร์ ว่าศาลากุฏิทรงจั่ว ขนาดความกว้างประมาณ 12 เมตร ยาวประมาร 16 เมตร ด้านในแบ่งเป็นกุฎิ 2 ห้องและมีพื้นที่โล่งไว้ประกอบพิธีสงฆ์และต้อนรับญาติโยม ถูกรื้อเสียหายโดยไม่ทราบสาเหตุ หลังตนเองป่วยเป็นโรคไต ต้องนอนรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลสุรินทร์และวัดในตัวเมืองสุรินทร์นานหลายเดือน พอกลับมาถึงวัดพบว่าศาลากุฏิหลังใหญ่ ถูกรื้อเสียหายทั้งหลัง เหลือแต่ตอให้เห็นดังกล่าว ซึ่งสำนักสงฆ์นี้ ตั้งอยู่ห่างจากหมู่บ้านสี่เหลี่ยมออกไปประมาณ 500 เมตร โดยที่สำนักสงฆ์ป่าช้า ไม่มีพระหรือเณรจำพรรษาอยู่ มีเพียงพระครูปลัดหัสฬาร ปสันโน เพียงรูปเดียวที่จำพรรษาอยู่ ตามข่าวที่ได้นำเสนอไปแล้วนั้น

 

 

 

 

ล่าสุด เมื่อเวลา 15.00 น. วันนี้ ( 14 ธ.ค. 2566 ) นายนครินทร์ กองทุน นายกองค์การบริหารส่วนตำบลไผ่ อ.รัตนบุรี ภายหลังจากทราบข่าว ก็ได้เรียกประชุมผู้เกี่ยวข้องในพื้นที่ เพื่อหาแนวทางแก้ไข เรื่องการรื้อกุฎิและสิ่งปลูกสร้างภายในสำนักสงฆ์ป่าช้าบ้านสี่เหลี่ยม หลังจากนั้นก็ได้นำคณะกรรมการบางส่วนพร้อมกับ นายบุญเชื่อม เชิดชาย ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 6 บ้านสี่เหลี่ยม เจ้าของพื้นที่เกิดเหตุ เดินทางไปยังที่พักของพระครูปลัดหัสฬาร ปสันโน ที่อยู่ไม่ไกลจากสำนักสงฆ์ป่าช้าบ้านสี่เหลี่ยม หมู่ 6 ต.ไผ่ อ.รัตนบุริ จ.สุรินทร์ เพื่อเข้าพบกับ พระครูปลัดหัสฬาร ปสันโน เจ้าสำนักสงฆ์ป่าช้าบ้านสี่เหลี่ยม เพื่อสอบถามเรื่องราว และชี้แจงข้อเท็จจริงเรื่องการรื้อกุฎิและสิ่งปลูกสร้างภายในสำนักสงฆ์ป่าช้า ให้ได้รับทราบ

 

 

 

 

 

ข่าวที่น่าสนใจ

โดย นายนครินทร์ กองทุน นายกองค์การบริหารส่วนตำบลไผ่ อ.รัตนบุรี ได้ชี้แจงว่า เรื่องดังกล่าวนี้ เริ่มต้นจากที่มีราษฎรร้องเรียนว่ามีผู้บุกรุกที่สาธารณประโยชน์ป่าช้าบ้านสี่เหลี่ยม ทางอำเภอจึงแจ้งมาที่ อบต.ไผ่ เมื่อวันที่ 21 ธันวาคม 2564 ให้ดำเนินแต่งตั้งคณะกรรมการพิจารณาข้อพิพาท เพื่อพิจารณาไกล่เกลี่ยข้อพิพาทกับพระครูปลัดหัสฬาร ปสันโน ผู้บุกรุกพื้นที่ป่าช้าสาธารณะประโยชน์ บ้านสี่เหลี่ยม ซี่งต่อมาทางองค์การบริหารส่วนตำบลไผ่ ก็ได้แต่งตั้งคณะกรรมการขึ้นมาไกล่เกลี่ย เมื่อวันที่ 8 กุมภาพันธุ์ 2565 ซึ่งการพิจารณาไกล่เกลี่ย พระครูปลัดหัสฬาร ปสันโน ผู้บุกรุก ได้ยินยอมออกนอกพื้นที่ ภายในวันที่ 20 พฤษภาคม 2565 โดยสิ่งก่อสร้าง อาคารต่างๆในสำนักสงฆ์ป่าช้า ได้มอบให้เป็นอุสรณ์ แก่ชุมชนในการใช้ประโยชน์ในอนาคตต่อไป

 

 

ต่อมา เมื่อวันที่ 21 สิงหาคม 2566 ทางชุมชนได้มีการประชามติเห็นชอบร่วมกันเห็นว่า ควรจะรื้อทำลายทิ้งสิ่งปลูกสร้าง และอาคารต่างๆในสำนักสงฆ์ป่าช้าเสีย เพราะถูกปล่อยรกร้างมานาน หากปล่อยไว้ จะกลายเป็นแหล่งมั่วสุมของวัยรุ่น และอาจเกิดอาชญากรรมในชุมชนได้ จึงได้หาผู้รับเหมามาดำเนินการรื้อถอนออกไป โดยได้นำเศษเหล็กต่างๆที่ได้จากการรื้อถอนไปขาย และนำได้เงินเข้าเป็นกองทุนหมู่บ้าน เพื่อใช้ในการพัฒนาชุมชนต่อไป ซึ่งในช่วงที่ทำการรื้อถอนนั้น เป็นช่วงที่พระครูปลัดหัสฬาร ปสันโน ได้ไปรักษาอาการป่วยอยู่โรงพยาบาลนานหลายเดือน ทำให้เมื่อพระครูปลัดหัสฬาร ปสันโน กลับมาที่วัดพบว่าสิ่งปลูกสร้างรวมทั้งกุฎิภายในสำนักสงฆ์ ได้ถูกรื้อทำลายทิ้งหมดเหลือแต่ต่อ จึงได้โวยวายร้องสื่อ เนื่องจากไม่ทราบว่าใครเป็นคนสั่งมารื้อถอน จึงได้เกิดเรื่องราวเป็นข่าวนี้ขึ้นมา

 

 

 

 

 

และภายหลังจากที่ท่าน พระครูปลัดหัสฬาร ปสันโน ได้รับทราบข้อเท็จจริงจาก นายนครินทร์ กองทุน นายกองค์การบริหารส่วนตำบลไผ่ อ.รัตนบุรี และ นายบุญเชื่อม เชิดชาย ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 6 ถึงสาเหตุที่ต้องทำการรื้อถอนทิ้ง พร้อมกับได้รับการกราบขอขมาถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้น ซึ่งไม่ได้ทำการบอกกล่าวกับท่านก่อนการรื้อถอน เนื่องจากเข้าใจว่าเมื่อท่านต้องออกไปจากสำนักสงฆ์ตามที่ผลพิจารณาไกล่เกลี่ยแล้ว สิ่งปลูกสร้างต่างๆสามารถรื้อถอนได้ ตามเสียงประชามติของชาวบ้านเมื่อมีเหตุจำเป็น จึงได้เกิดเรื่องราวครั้งนี้ขึ้น ซึ่งพระครูปลัดหัสฬาร ปสันโน ก็ไม่ได้ถือโกรธแต่อย่างใด พร้อมกล่าวให้อภัย โดยขอให้คงเหลือพระพุทธรูปที่ยังคงสภาพดีไว้เท่านั้น ซึ่งทุกฝ่ายต่างรับปาก และจากนี้ไปทางคณะกรรมการหมู่บ้าน ก็จะได้ร่วมกันพัฒนาพื้นที่สำนักสงฆ์ป่าช้าแห่งนี้ ให้เป็นป่าชุมชน โดยการนำพันธุ์ไม้ต่างๆมาปลูก เพี่อให้ชุมชนได้ใช้ประโยชน์ร่วมกันต่อไป .

 

 

 

 

ภาพ/ข่าว ชูชัย ดำรงสันติสุข ผู้สื่อข่าว จ.สุรินทร์

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

"ก.แรงงาน" เตรียมเปิดขึ้นทะเบียน "แรงงานต่างด้าว" รอบใหม่
เจาะ "MOU44" พื้นที่ทับซ้อนทางทะเลไทย-กัมพูชา "เกาะกูด" เป็นของใคร
"สมชัย" เผยเคยทำงานร่วม "กิตติรัตน์" ยอมรับเป็นคนเก่ง แต่เพราะเคยตามใจฝ่ายการเมืองทำประเทศชาติเสียหาย
ระทึก "รถทัวร์กรุงเทพฯ-เชียงแสน" ชน "รถพ่วง" พลิกคว่ำตกข้างทาง ผู้โดยสารบาดเจ็บอื้อ
"ศิริกัญญา" ปูดข่าว รบ.วางแผนยึดการบินไทย ส่ง 2 ผู้บริหารฟื้นฟู
โมเดลใหม่...ประมงสมุทรสงครามเปิดตัวกิจกรรม “สิบหยิบหนึ่ง” ปราบปลาหมอคางดำ จับมือเกษตรกรร่วมแก้ปัญหาในบ่อเลี้ยงเกษตรกรและแหล่งน้ำธรรมชาติ
"กองปราบฯ" รับโอนคดี "ซินแสชื่อดัง" หลอกผู้เสียหายสูญเงิน 66 ล้าน
กรมทรัพยากรน้ำบาดาล เขต 6 (ตรัง) ศึกษาดูงานด้านการพัฒนาแหล่งน้ำบาดาล
"นครราชสีมา" เสี่ยงภัยแล้ง 10 อำเภอ ชลประทานประกาศงดทำนาปรังทั้งจังหวัด
"อัจฉริยะ" แจงผลสอบ "อาหารเสริม Eighteen 18" พบมีเลข อย.ถูกต้อง

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น