เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (15 ธ.ค.) สำนักงานการเคหะและพัฒนาเมืองสหรัฐ หรือ HUD เผยแพร่รายงานการนับจำนวนคนไร้บ้านประจำปี 653,104 คน ในเดือนมกราคม นับเป็นจำนวนสูงที่สุดตั้งแต่เริ่มใช้ระบบเก็บสถิติคนไร้บ้านในปัจจุบันเมื่อปี 2550 และเพิ่มขึ้นจากปีก่อน 12% โดยมีสาเหตุจากปัญหาเงินเฟ้อ ที่พักอาศัยขาดแคลน และมาตรการคุ้มครองการถูกไล่ที่ ที่นำมาใช้ช่วงโควิด-19 หมดอายุแล้ว
รายงานระบุว่า คนไร้บ้านครั้งแรก มีอัตราเพิ่มอย่างไม่เคยปรากฏมาก่อน ที่ 25% สาเหตุจากค่าเช่าที่พักอาศัยแพง และโครงการควบคุมค่าเช่าอย่างที่เคยมีในยุคโควิด หายไป สถิติยังพบว่า มีประชากรไร้บ้านเกือบ 1 ใน 3 หรือราว31% ที่ไม่มีที่พักอาศัยเป็นเวลายาวนาน
คนไร้บ้านเพิ่มขึ้นในทุกกลุ่มประชากรภาพรวม แต่กลุ่มที่ได้รับผลกระทบหนักสุดคือครอบครัวที่มีลูกหรือมีเด็ก คิดเป็น 15.5% ของคนไร้บ้าน HUD ยอมรับว่า ที่พักอาศัยให้เช่า ขาดแคลนอย่างผิดปกติในปี 2565 โครงการก่อสร้างที่รัฐบาลสนับสนุน ช่วยคลี่คลายปัญหาได้บ้าง แต่วิกฤติราคาที่จับต้องไม่ได้ ยังคงอยู่ ค่าเช่าเฉลี่ยช่วงปี 2544-2565 ปรับตามเงินเฟ้อ เพิ่มขึ้น 18.8% แต่รายได้เพิ่มขึ้นเฉลี่ยแค่ 4.3% รายงานที่บริษัทมูดีส์ เผยแพร่ก่อนหน้าพบเช่นกันว่า ครัวเรือนรายได้ปานกลาง มีภาระค่าเช่าเกือบ 30% ของรายได้