G7ออกแถลงการณ์ร่วม จี้คณะมนตรีความมั่นคงยูเอ็นตอบโต้การทดสอบยิงขีปนาวุธสุดห่ามของเกาหลีเหนือ
หลังจากเมื่อวันจันทร์ เกาหลีเหนือได้ทดสอบยิงขีปนาวุธข้ามทวีป (ICBM) ที่ทันสมัยที่สุด ซึ่งมีศักยภาพยิงได้ไกลไปถึงสหรัฐ และเกาหลีเหนือระบุว่า ผู้นำ คิม จอง อึน ได้ชมการปล่อยขีปนาวุธดังกล่าว พร้อมขู่สหรัฐ ให้ระวังไม่ตัดสินใจผิดพลาด ในการ กระชับความสัมพันธ์ทางทหารกับเกาหลีใต้ ซึ่งเกาหลีเหนือถือว่าเป็นการยั่วยุนั้น
เมื่อวานนี้กลุ่มชาติมหาอำนาจ G7 ได้ออกมาชี้ว่า ประชาคมระหว่างประเทศจำเป็นต้องมีการตอบโต้ที่มั่นคงและเป็นเอกภาพต่อการพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์และการยิงขีปนาวุธ ที่ประมาทเลินเล่อของเกาหลีเหนือ
โดยในแถลงการณ์ที่ออกโดยรัฐมนตรีต่างประเทศ G7ระบุว่า การยิงขีปนาวุธดังกล่าว เป็นการกระทำที่ประมาทเลินเล่อ ซ้ำแล้วซ้ำเล่าของเกาหลีเหนือ จึงจำเป็นที่ประชาคมระหว่างประเทศ โดยเฉพาะคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ จะต้องตอบสนองด้วยการตอบโต้ที่รวดเร็ว เป็นเอกภาพ และแข็งแกร่ง
ทั้งนี้ที่ผ่านมา คณะมนตรีความมั่นคงได้ลงมติหลายฉบับ เรียกร้องให้เกาหลีเหนือยุติโครงการนิวเคลียร์และขีปนาวุธนับตั้งแต่ทำการทดสอบนิวเคลียร์ครั้งแรกในปี 2549 แต่จีนและรัสเซีย หุ้นส่วนที่ใกล้ชิดที่สุดของเกาหลีเหนือ ต่างใช้อำนาจวีโตในคณะมนตรีความมั่นคง เพื่อคัดค้านการคว่ำบาตรเกาหลีเหนือที่เข้มงวดยิ่งขึ้น
ด้านความเคลื่อนไหวตอบโต้ล่าสุด ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ และสหรัฐ ได้เปิดความร่วมมือสามฝ่าย ในการเปิดใช้งานระบบ เพื่อแบ่งปันข้อมูลแบบเรียลไทม์เกี่ยวกับการปล่อยขีปนาวุธของเกาหลีเหนือ ซึ่งได้รับการตกลงร่วมกันในการประชุมสุดยอดระหว่างผู้นำทั้งสามประเทศเมื่อเดือนสิงหาคม
อีกทั้ง สหรัฐยังกล่าวด้วยว่า จากการพูดคุยทางโทรศัพท์กับผู้แทนจากญี่ปุ่นและเกาหลีใต้เมื่อวันอังคาร ทั้งสามเห็นพ้องประณามการทดสอบขีปนาวุธดังกล่าวว่า เป็นการบ่อนทำลายสันติภาพและเสถียรภาพในภูมิภาคและโลก
ในแถลงการณ์ กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐระบุว่า พันธมิตรทั้ง 3 ต่างพยายามปฏิบัติตามมติของคณะมนตรีความมั่นคงอย่างเต็มที่ และยังเรียกร้องให้เกาหลีเหนือกลับไปสู่การมีส่วนร่วมทางการทูต ซึ่งเกาหลีเหนือยังคงยืนกรานว่าไม่มีความสนใจที่จะเข้าร่วม