เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 21 ธ.ค. ที่อาคารปฏิบัติการ องค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่ ต.ช้างเผือก อ.เมือง จ.เชียงใหม่ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย ฟังบรรยายสรุป และรับฟังความคิดเห็นจากภาคส่วนต่างๆ ณ ศูนย์บัญชาการป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่า หมอกควัน และฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 จ.เชียงใหม่ โดยหน่วยงานภาครัฐในพื้นที่ได้บรรยายสรุปภาพรวมปัญหาต่างๆ รวมถึงรายงานคุณภาพอากาศประจำวันให้ รมว.มหาดไทย รับทราบ ซึ่งพบว่าวันนี้ (21 ธ.ค.) คุณภาพอากาศในพื้นที่ จ.เชียงใหม่ มีสีเขียวซี่งถือว่าดี ขณะเดียวกัน นายชัชวาลย์ ทองดีเลิศ ประธานสภาลมหายใจเชียงใหม่ ในฐานะเครือข่ายภาคประชาชนที่เข้าร่วมประชุม ได้สะท้อนปัญหาฝุ่นควันพิษที่เกิดจากการเผาไหม้ในพื้นที่ จ.เชียงใหม่ พร้อมทั้งของบประมาณ 80 ล้านบาท ในการแก้ปัญหาดังกล่าว
“อนุทิน” รับฟังความเห็นภาครัฐ - ปชช. ปัญหาฝุ่นPM2.5 พื้นที่เชียงใหม่ เผย “นายกฯ”ให้ความสำคัญมากเพราะเป็นเมืองเศรษฐกิจ ย้ำเน้นความตั้งใจของผู้ปฏิบัติ ไม่ใช่ KPI กดดัน รับยุคนี้พรรคร่วมรัฐบาลต้องช่วยทำงาน ไม่มีเตะเจาะยาง
ข่าวที่น่าสนใจ
จากนั้น รมว.มหาดไทย กล่าวว่า ทางจังหวัดตั้งให้วอร์รูมป้องกันฝุ่น PM2.5 ที่อบจ.เชียงใหม่ แสดงให้เห็นถึงความตั้งใจที่ยะแก้ปัญหาดังกล่าว วันนี้ตนตั้งใจมาคุยเรื่องฝุ่นโดยเฉพาะ ตนอยู่ในคณะรัฐมนตรี (ครม.) 2 ชุดต่อเนื่อง พบว่า PM2.5 เป็นภัยต่อความมั่นคงของชาติ เป็นภัยต่อเศรษฐกิจ และเป็นภัยคุกคามด้านสุขภาพประชาชน เราจึงต้องร่วมกันกำจัดลดความรุนแรงปัญหาเรื่องฝุ่นให้ได้มากที่สุด ตนเข้าใจว่าบางส่วนมาจากธรรมชาติ แต่เราต้องโฟกัสในสิ่งที่เราควบคุมได้ ตนถือว่าแม้เพิ่งมาทำงานตรงนี้ได้ 3 เดือน แต่เมื่อมารับผิดชอบภารกิจนี้ก็ถือว่ามาถูกทาง ที่พบว่าสาเหตุหลักส่วนใหญ่มาจากมนุษย์ มีเพียงข้อเดียวจากธรรมชาติ คือมาจากเพื่อนบ้าน ซึ่งเราต้องใช้วิธีเจรจา
“เราควรแก้ไขในสิ่งที่เราควบคุมได้จะดีกว่า เมื่อเกิดจากมนุษย์เราก็ต้องแก้ด้วยมนุษย์ เรามีความตั้งใจร่วมกันแก้ปัญหาที่ต้นเหตุ ผมมั่นใจว่าปัญหา PM2.5 หากแก้ปลายเหตุจะไม่เป็นผล แต่จะเป็นลิงแก้แห ดังนั้น เราต้องหาปัญหาให้ถูกจุด แล้วดูว่าจะนำงบส่วนไหนมาแก้ตรงจุดนี้ แต่เชื่อว่าผมจะช่วยท่านแก้ปัญหาได้ และถ้าเราเข้าใจตรงกันว่า PM2.5 คือปัญหาของพวกเรา ก็ถึงเวลาที่เราต้องร่วมกันตั้งใจแก้ไข” นายอนุทิน กล่าว
นายอนุทิน กล่าวต่อว่า สำหรับตน จ.เชียงใหม่คือพื้นที่สำคัญของแกนนำพรรคร่วมรัฐบาล การเมืองสมัยก่อนอาจเจาะยางกันไม่ให้มีผลงาน แต่สมัยนี้ไม่ใช่แล้ว การเมืองน้ำเน่าแบบเตะเจาะยางกันหายไปเยอะ ไม่อย่างนั้นตอนนี้ผมต้องไม่อยู่ที่นี่แล้ว แต่ต้องอยู่ จ.บุรีรัมย์ อุทัยธานี ปราจีนบุรี แต่ที่เรามาวันนี้เพราะเรามีความตั้งใจมองภาพรวมปัญหาประเทศ
จากนั้น นายอนุทิน ได้ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนว่า ปัญหาฝุ่น PM2.5 ได้ให้ฝ่ายปกครองขอความร่วมมือประชาชน ว่าควรเผาได้ไม่เกินเท่าไหร่ พร้อมทั้งนำเทคโนโลยีมาช่วย ซึ่งไม่ใช่เฉพาะเรื่องของกระทรวงมหาดไทยเพียงเท่านั้น เราพยายามใช้ทุกองคาพยพที่มีอยู่ เพื่อจัดการปัญหาในเรื่องนี้ ส่วนจะนำ KPI หรือตัวชี้วัด เข้ามาวัดผลงานผู้ว่าราชการจังหวัดด้วยหรือไม่นั้น นายอนุทิน กล่าวว่า เราเอาเป้าหมาย ให้เรียบร้อยก่อน ก่อน หากเอาเป้าหมายไปกดดัน บอกว่าไม่ทำแล้วผมจะสั่งย้าย หากทำแล้วไม่สำเร็จก็ถูกย้ายก็ไม่ทำซะเลยดีกว่า ไม่มีประโยชน์ ขอให้ดูที่เจตนารมณ์ และตนให้กำลังใจกับผู้ปฏิบัติงาน และขอให้ดูที่เจตนารมณ์ดูความตั้งใจที่จะทำงานให้สำเร็จ หากทุกคนใช้ความทุ่มเทและความตั้งใจร่วมมือการทำงาน งานของรัฐบาลก็จะสำเร็จไปได้
“จ.เชียงใหม่ไม่ต้องห่วง นายกฯสั่งการทุกวัน เนื่องจากเชียงใหม่เป็นเมืองเศรษฐกิจที่หากไม่นับกรุงเทพฯก็ถือว่าเป็นเมืองที่สำคัญที่สุดเป็นทั้งเมืองท่องเที่ยวและเมืองเศรษฐกิจขนาดใหญ่ หากเเก้ปัญหาได้ ก็สามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวคุ้มค่าการลงทุน คุณภาพชีวิตของทุกคนก็จะดีขึ้น และส่งผลต่อจังหวัดข้างเคียง ลำพูน พะเยา เชียงราย ซึ่งส่งผลดี ทั่วทั้งภาค สร้างโอกาสทางเศรษฐกิจ เรื่องนี้ตนยืนยันว่า นายกรัฐมนตรีเน้นย้ำมาเสมอ” นายอนุทิน กล่าว จากนั้น นายอนุทิน และคณะ ได้ขึ้นเฮอลิคอปเตอร์ ตรวจสภาพอากาศในพื้นที่อำเภอแม่แตง จังหวัดเชียงใหม่
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
-