จากเหตุการณ์เมื่อวันที่ 20 ธันวาคม 2566 ช่วงเวลาประมาณ 16.20 น. สถานีตำรวจภูธรเมืองฉะเชิงเทราได้รับแจ้งเหตุว่ามีบุคคลคลุ้มคลั่งเข้ามาภายในโรงเรียนวัดประตูน้ำท่าไข่ อำเภอเมือง จังหวัดฉะเชิงเทรา จึงได้ประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจรถจักรยานยนต์ให้เข้าทำการตรวจสอบ ซึ่งจากการสอบถามครูที่ประจำอยู่ที่หน้าประตูโรงเรียนได้เล่าให้ฟังว่า ชายดังกล่าวได้ดินปะปนมากับกลุ่มผู้ปกครองในช่วงที่โรงเรียนเลิก และเปิดประตูให้ผู้ปกครองมารับบุตรหลาน ซึ่งชายดังกล่าวอายุประมาณ 35-40 ปี นุ่งกางเกงขาสั้นตัวเดียว ไม่ใส่เสื้อและรองเท้า ส่วนที่ตัวมีรอยสักทั่วทั้งตัว เดินเข้ามาหาครูแล้วพูดอะไรบางอย่างที่จับใจความไม่ค่อยได้ รู้เพียงแค่ว่ามาตามหาลูก เพราะถูกทำร้ายโดยผู้เป็นแม่ เพื่อจะชวนกันเข้าป่า พอคุณครูที่ประจำอยู่ที่ประตูได้ฟังดังนั้นก็เริ่มรู้สึกถึงความไม่ปกติ และความไม่ปลอดภัยของนักเรียน จึงได้เรียกนักเรียนรวมพลไปยังจุดที่ปลอดภัย ตามที่ได้เคยซักซ้อมแผนเผชิญเหตุเอาไว้ ในขณะที่ชายปริศนาคนดังกล่าวได้อาศัยจังหวะนั้นเดินหายเข้าไปภายในห้องน้ำของทางโรงเรียน ก่อนจะส่งเสียงโวยวายอยู่เพียงคนเดียวลั่นห้องน้ำ ทางกลุ่มครูจึงได้พยายามพูดจาดีๆ เพื่อผักดันให้ออกนอกโรงเรียนไปก่อนเพื่อความปลอดภัย พร้อมประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจให้เข้ามาให้การช่วยเหลือ
หนุ่มปริศนามีพฤติกรรมหลอน อ้างลูกตัวเองถูกทำร้ายร่างกาย แอบเดินเข้ามาภายในโรงเรียนช่วงที่โรงเรียนเลิก ในลักษณะไม่สวมใส่เสื้อ และรองเท้า มีเพียงกางเกงขาสั้นตัวเดียว แอบเข้าไปภายในห้องน้ำของทางโรงเรียน ก่อนจะส่งเสียงโวยวายอยู่ภายในห้องน้ำคนเดียว ด้านคุณครูเห็นพฤติกรรมไม่น่าจะใช่ผู้ปกครอง ตัดสินใจรวมพลเด็กนักเรียนไปยังที่ปลอดภัย และทำการผักดันชายปริศนาให้ออกจากโรงเรียนพร้อมประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าตรวจสอบ
ข่าวที่น่าสนใจ
ซึ่งชายดังกล่าวไปเดินออกไปนอนเล่นตรงศาลาวัดที่อยู่ใกล้เคียงกับโรงเรียน โดยในขณะนั้นได้มีหนุ่มพลเมืองดีซึ่งขี่รถจักรยานยนต์มาหาซื้อของกินที่หน้าโรงเรียน พอทราบข่าวว่ามีบุคคลที่มีลักษณะคล้ายคนมึนเมา เข้าไปโวยวายภายในโรงเรียน และเป็นคนที่ตนเองเหมือนจะเคยรู้จัก จึงได้ขี่รถจักรยานยนต์เข้าไปพูดคุยกับชายปริศนาคนดังกล่าว ก่อนจะอาสาพาชายปริศนาให้นั่งซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์ของตนเอง เพื่อนำตัวออกไปให้ห่างจากจุดใกล้เคียงโรงเรียน เพื่อให้ครูสามารถปล่อยนักเรียนกลับบ้านได้ตามปกติ ด้านนายแดน ศรีชนะวัฒน์ ผู้อำนวยการโรงเรียนวัดประตูน้ำท่าไข่ เปิดเผยกับผู้สื่อข่าววันนี้ว่า ทางโรงเรียนได้มีมาตรการป้องกันภัยคุกคามในลักษณะนี้ไว้แล้ว โดยครูทุกคนจะคอยเฝ้าสังเกตการณ์พฤติกรรมของที่จะมาติดต่อราชการหรือมารักนักเรียนที่โรงเรียน ซึ่งโดยปกติแล้วทางโรงเรียนจะมีเวลาเปิดและเวลาปิดประตูโรงเรียนที่ชัดเจน ใครจะเข้าจะออกต้องได้รับอนุญาตจากครู ส่วนในช่วงที่ประตูโรงเรียนเปิดในตอนเช้าและเย็น ก็จะมีครูทำหน้าที่เฝ้าตรงประตูเพื่อขอรับและส่งเด็กนักเรียนทุกคน
ซึ่งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในครั้งนี้โชคดีที่ครูอยู่ตรงนั้นและสังเกตุเห็นพฤติกรรมที่ไม่ปกติของชายดังกล่าว จึงสามารถควบคุมสถานการณ์ได้ จึงอยากฝากเตือนเด็กๆ นักเรียนทุกคน ขณะเดินทางมาโรงเรียนหรือเดินทางกลับบ้าน หากพบบุคคลที่มีพฤติกรรมน่าสงสัย ให้พยายามเดินออกห่าง แล้วรีบเดินไปขอความช่วยเหลือจากผู้ใหญ่คนอื่นที่อยู่ในบริเวณนั้นทันที และฝากเจ้าหน้าที่ตำรวจช่วยเร่งตรวจสอบชายปริศนาคนดังกล่าวเพราะหวั่นนักเรียนจะไม่ปลอดภัย โดยเบื้องต้นทางด้านผู้อำนวยการโรงเรียนวัดประตูน้ำท่าไข่ ได้รายงานให้สำนักงานเขตพื้นที่การประถมศึกษาได้ทราบเรื่องแล้ว พร้อมกับได้เข้าแจ้งความลงบันทึกประจำวันเอาไว้แล้วที่สถานีตำรวจภูธรเมืองฉะเชิงเทรา
ข่าวที่เกี่ยวข้อง