(24 ธ.ค.) ที่มัสยิดกลางจังหวัดนครศรีธรรมราช นายเอกชัย ดารากัย ประธานคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดนครศรีธรรมราช ได้มีการประชุมคณะกรรมการชุดใหม่นัดแรก จากนั้นได้มีนายกริยา กิจจารักษ์ รองประธานคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดนครศรีธรรมราช ได้แถลงถึงเรื่อง พ.ร.บ.การสมรสเท่าเทียม ว่าผู้นำศาสนาอิสลามทั่วประเทศโดยเฉพาะอย่างยิ่งบรรดาองค์กรศาสนาอิสลามในประเทศไทยตั้งแต่จุฬาราชมนตรี คณะกรรมการกลางอิสลามแห่งประเทศไทย คณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดและอิหม่ามประจำมัสยิดได้ทราบข่าวมารยะหนึ่งแล้วว่ารัฐบาลกำลังจะดำเนินการเกี่ยวกับเรื่อง พ.ร.บ.การสมรสเท่าเทียม ซึ่งเราบรรดาผู้นำศาสนาอิสลามในประเทศไทยก็เป็นห่วงและกังวลว่ากม.เกี่ยวกับ พ.ร.บ.ฉบับนี้มันมีความขัดแย้งกับบทบัญญัติของศาสนาอิสลามอย่างชัดเจน
ศาสนาอิสลามได้บัญญัติไว้กว่า1400กว่าปีว่า การแต่งงานหรือการสมรสมีได้เฉพาะผู้หญิงกับผู้ชายเท่านั้น ส่วนจะเป็นสมรสเท่าเทียมแล้วก็มาให้โอกาสหรือว่าไปกำหนดใน พ.ร.บ.ฉบับนี้ว่าผู้หญิงก็แต่งงานกับผู้หญิงกันได้ ผู้ชายชอบผู้ชายก็แต่งงานกันได้สมรสเท่าเทียมตามกม.สากลของโลก แต่ พ.ร.บ.ฉบับนี้มันมีผลกระทบต่อบทบัญญัติของศาสนาอิสลามอย่างชัดเจนคืออิสลามบัญญั้ติไว้เป็นสิ่งต้องห้ามสำหรับการแต่งงานระหว่างบุคคลเพศเดียวกัน
ข่าวที่น่าสนใจ
ซึ่งท่านจุฬาราชมนตรีในอดีตตอน พ.ร.บ.กัญชาว่ากัญชาเป็นสิ่งทำลายสมองของมนุษย์ กินดื่มเข้าไปแล้วมันก็มีปัญหาทางสมองเลยออกแถลงการร์สมัยนั้นว่ากัญชาเป็นสิ่งต้องห้ามสำหรับในบทบัญญัติของศาสนาอิสลาม เหมือนกับยาบ้าทั้งหมดที่เกิดขึ้นในประเทศไทยนั้นเป็นสิ่งต้องห้ามทั้งสิ้น
ฉะนั้นกฎหมายฉบับนี้ผมเองในฐานะคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดนครศรีธรรมราช ท่านประธานกรรมการอิสลามประจังหวัดในวันนี้ก็ได้ถือโอกาสสื่อสารไปยังพี่น้องประชาชน สำหรับในส่วนของศาสนิกอื่นผมไม่ก้าวล่วง แต่สำหรับบทบัญญัติของศาสนาอิสลามนั้นถือว่าเป็นสิ่งต้องห้าม ฉะนั้นในวันนี้ก็อยากเรียกร้องนำเสนอไปยังรัฐบาลหรือกรรมาธิการวิสามัญที่กำลังพิจารณาอยู่ในขณะนี้ว่าเราจะหาแนวทางนี้เพื่อจะหาทางนี้เพื่อแก้ปัญหาในสังคมมุสลิมในประเทศไทยอย่างไรส่วนศาสนิกอื่นก็เป็นสิทธิของศาสนาอื่น แต่สำหรับศาสนาอิสลามนั้นถือว่าเป็นสิ่งต้องห้าม จึงขอให้รัฐบาลหรือกรรมาธิการของสภาผู้แทนราษฎรได้พิจารณาถึงประเด็นนี้เป็นประเด็นสำคัญ เพราะจะมีปัญหาถึงข้อกม.ให้กับผู้นำศาสนา โดยเฉพาะอิหม่ามประจำมัสยิด ประธานกรรมการอิสลามประจำจังหวัดหรือกรรมการกลางอิสลามแห่งประเทศไทยก็ต้องคิดถึงเรื่องนี้เพราะเป็นสิ่งต้องห้ามในบทบัญญัติของศาสนาอิสลาม ส่วนกม.จะออกอย่างไรก็ให้กรรมาธิการช่วยหาทางออกให้กับพี่น้องมุสลิมที่ปฏิบัติการตามหลักศาสนาอิสลามด้วย ชาติไทยจะอยู่ดำรงอยู่ได้จากชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ แต่ตอนนี้เมื่อศาสนามันถูกกระทบอย่างนี้ ประเทศชาติจะอยู่อย่างไร ฉะนั้นเราต้องรักษาศาสนาของแต่ละศาสนาไว้เพื่ออยู่คู่กับบ้านเมืองต่อไป ตนไม่ได้คัดค้านแต่ต้องหาทางออกให้กับเราด้วย
ไพฑูรย์ อินทศิลา/นครศรีธรรมราช
24 ธ.ค. 2566
ข่าวที่เกี่ยวข้อง