“รมช.สุรพงษ์” เผยเหตุรางจ่ายไฟฟ้า รถไฟฟ้าสายสีชมพูหลุดร่วง สั่งตรวจสอบเข้มตลอดเส้นทาง

รมช.สุรพงษ์ เผยเหตุเบื้องต้นรางจ่ายไฟฟ้าของรถไฟฟ้าสายสีชมพูหลุดร่วง พร้อมคาดเปิดให้บริการอีกครั้งพรุ่งนี้ (25 ธ.ค.66) เพียง 23 สถานี ระหว่างสถานีแจ้งวัฒนะ-ปากเกร็ด 28 -สถานีมีนบุรี ส่วนอีก 7 สถานี ปิดซ่อมบำรุงเบื้องต้น 7 วัน ระบุ NBM จะเป็นผู้รับผิดชอบค่าเสียหายทั้งหมด เข้มสั่งตรวจสอบรางนำไฟฟ้าสายสีชมพู – สีเหลือง ตลอดเส้นทาง

24 ธ.ค.66 นายสุรพงษ์ ปิยะโชติ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม พร้อมด้วยนางสาวณภัทรา กมลรักษา ผู้ช่วยเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม นายสรพงศ์ ไพฑูรย์พงษ์ รองปลัดกระทรวงคมนาคม ดร. พิเชฐ คุณาธรรมรักษ์ อธิบดีกรมการขนส่งทางราง (ขร.) นายภคพงศ์ ศิริกันทรมาศ ผู้ว่าการการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย ( รฟม.) นายสุรพงษ์ เลาหะอัญญา กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ร่วมลงพื้นที่กับบริษัท นอร์ทเทิร์น บางกอกโมโนเรล จำกัด (NBM) ผู้รับสัมปทานโครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพู ช่วงแคราย-มีนบุรี ระยะทาง 34.5 กิโลเมตร ในกรณีรางนำไฟฟ้า (Conductor rail) ที่เป็นรางจ่ายกระแสไฟฟ้าให้กับรถไฟฟ้าสายสีชมพูหลุดร่วงจากทางวิ่งลงชั้นพื้นถนน (ไม่ใช่รางรถไฟฟ้าที่รองรับล้อเหล็ก) และเกี่ยวสายไฟฟ้าบริเวณหน้าตลาดชลประทานได้รับความเสียหาย โดยเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้น เมื่อเวลา 04.45 น. ที่ผ่านมา บริเวณสถานีสามัคคี (PK04)

 

 

 

ข่าวที่น่าสนใจ

นายสุรพงษ์ ระบุว่า กรมการขนส่งทางรางได้ลำดับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ เริ่มต้นจากขบวนรถตรวจสอบความพร้อมเส้นทางก่อนเปิดให้บริการ (หมายเลข PM40) กำลังเคลื่อนที่เพื่อตรวจสอบเส้นทางเดินรถไฟฟ้าก่อนเวลาเปิดให้บริการ ซึ่งในขณะนั้นอยู่ระหว่างสถานีสนามบินน้ำ (PK03)กับสถานีแคราย(PK02) ฝั่งมุ่งหน้าไปศูนย์ราชการนนทบุรี (PK01) เกิดรางนำไฟฟ้าที่อยู่ด้านข้างคานทางวิ่ง (Guide Beam)ฝั่งด้านนอกหลุดร่วง ทำให้รถไฟฟ้าเกิดการเบรกฉุกเฉิน ดังนั้น จึงได้ทำการตัดกระแสไฟรางนำไฟฟ้าระหว่างสถานีแยกปากเกร็ด (PK06) ถึงสถานีศูนย์ราชการนนทบุรี (PK01)

 

 

 

โดยศูนย์ควบคุมการเดินรถไฟฟ้าได้แจ้งให้ทุกสถานีรับทราบแผนการเดินรถสำรอง พร้อมกับเร่งดำเนินการจัดการแก้ไขปัญหาดังกล่าว ทั้งการตัดไฟ การจัดการจราจร การตั้งเสาไฟฟ้า และสายไฟบริเวณดังกล่าว รวมทั้งประสานเจ้าหน้าที่เพื่อนำรถยนต์ที่เสียหายออกจากพื้นที่เกิดเหตุ หลังจากนั้นจะทำการถอดรางจ่ายไฟที่ร่วงลงมาวางบริเวณพื้นถนน เพื่อดำเนินการซ่อมแซมต่อไป

 

เบื้องต้นพบว่า สาเหตุที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ จากการรายงานเบื้องต้น คาดว่าเป็นผลจากการดึง sheet pile ของโครงการระบบสาธารณูปโภคบริเวณใกล้เคียงออกตามขั้นตอนก่อสร้างเมื่องานแล้วเสร็จ ทำให้ระดับของรางนำไฟฟ้าไม่อยู่ในตำแหน่งที่ถูกต้อง ส่งผลให้เมื่อมีตัวรับกระแสไฟฟ้าที่ติดกับตัวรถไปกระแทกส่งผลให้เกิดการขยับตัวราง และมีชิ้นส่วนที่หลุดติดกับล้อตัวขบวนรถไป ทำให้ไปเกี่ยวรางนำไฟฟ้า ขยับออกแล้วร่วงลงมาด้านล่าง ทำให้ลากรางจ่ายกระแสไฟฟ้าหลุดออกทั้งแนว ซึ่งเหตุการณ์ในครั้งนี้ มีรถยนต์ที่จอดใต้สถานีจำนวน 3 คัน ได้รับความเสียหาย แต่ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิตแต่อย่างใด และมีเสาไฟฟ้าล้ม กับโคมไฟใต้ทางรถไฟฟ้าเสียหาย โดย NBM จะเป็นผู้รับผิดชอบค่าเสียหายทั้งหมด

 

 

 

ทั้งนี้จากเหตุดังกล่าวส่งผลกระทบต่อการให้บริการเดินรถ จึงมีความจำเป็นต้องปิดให้บริการรถไฟฟ้ามหานคร สายสีชมพู (ช่วงระหว่างทดลองเดินรถไฟฟ้า) ทุกสถานีชั่วคราวในวันนี้ ตั้งแต่เวลา 12.00 น. เนื่องจากเกิดเหตุการณ์ รางจ่ายกระเเสไฟฟ้าร่วงหล่น เพื่อความปลอดภัย และการตรวจสอบหาสาเหตุโดยละเอียดหากมีความคืบหน้าจะแจ้งให้ทราบต่อไปและจะทยอยนำส่งผู้โดยสารที่ติดค้างอยู่ในระบบจนถึงปลายทางให้ครบทุกขบวน และเมื่อไม่มีผู้โดยสารตกค้างในระบบแล้วจะทำการปิดการให้บริการรถไฟฟ้าทุกสถานี

 

สำหรับการเปิดให้บริการ คาดว่าจะสามารถเปิดให้บริการอีกครั้งได้ในวันพรุ่งนี้ (25 ธ.ค.66) โดยเปิดให้บริการเดินรถเพียง 23 สถานี ระหว่างสถานีแจ้งวัฒนะ-ปากเกร็ด 28 (PK08) ถึง สถานีมีนบุรี (PK30) และในส่วนของสถานีศูนย์ราชการนนทบุรี (PK01) ถึงสถานีเลี่ยงเมืองปากเกร็ด (PK07) จะดำเนินการซ่อมบำรุงและติดตั้งรางนำไฟฟ้าประเมินเบื้องต้น 7 วัน และซึ่งต้องรอการประเมินการแก้ไขอีกครั้งว่าจะกระทบต่อการเปิดให้บริการเชิงพาณิชย์หรือไม่ ทั้งนี้ ขร. จะลงมาตรวจสอบความปลอดภัยและความพร้อมในการเปิดให้บริการก่อนอีกครั้ง เพื่อความมั่นใจ และกำชับให้มีการเดินขบวนรถตรวจสอบความพร้อมเส้นทางโดยวิ่งสำรวจตอนตี 4 ก่อนเปิดให้บริการทุกวัน เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับประชาชนผู้ใช้บริการรถไฟฟ้าสายสีชมพูถึงปลอดภัยตลอดการเดินทาง

 

 

นายสุรพงษ์ ระบุว่า โดยภายหลังจากเกิดเหตุการณ์ดังกล่าว ได้มีการหารือร่วมกันระหว่างกรมการขนส่งทางราง (ขร.), การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) และบริษัท นอร์ทเทิร์น บางกอกโมโนเรล จำกัด (NBM) ผู้รับสัมปทานโครงการฯ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทุกฝ่ายได้เร่งตรวจสอบหาสาเหตุทันที เบื้องต้นได้สั่งการให้บริษัท นอร์ทเทิร์น บางกอกโมโนเรล จำกัด (NBM) ผู้รับสัมปทานโครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพู ช่วงแคราย-มีนบุรี ตรวจสอบรางนำไฟฟ้าตลอดเส้นทาง รวมทั้งให้บริษัท อีสเทิร์น บางกอกโมโนเรล จำกัด (EBM) ผู้รับสัมปทานโครงการ รถไฟฟ้ามหานครสายสีเหลืองช่วงลาดพร้าว – สำโรง ระยะทาง 30.4 กม. จำนวน 23 สถานีตรวจสอบรางนำไฟฟ้าด้วย

 

 

จากเหตุการณ์ดังกล่าวที่เกิดขึ้น ขร.และทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไม่ได้นิ่งนอนใจ จึงได้ประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง กันพื้นที่ด้านความปลอดภัยให้แก่ประชาชน และดำเนินการตามมาตรการในการป้องกันเหตุ พร้อมตรวจสอบอย่างละเอียดเพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้อีก

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

"ทนายบอสพอล" เผยเป็นไปตามคาด "เอก สายไหม" ถูกจับ จ่อดำเนินคดีหมิ่นประมาท เรียกค่าเสียหาย 100 ล้าน
ศาลออกหมายจับ 'เจ๊หนิง' พร้อมสามีและหลาน ร่วมกันแจ้งความเท็จ 'ภรรยาบิ๊กโจ๊ก'
อิสราเอลถล่มเลบานอนดับครึ่งร้อย
หมายจับ ICC กระทบอิสราเอลอย่างไร
เปิดวิสัยทัศน์ประธานเครือข่ายธุรกิจ Bizclub นครราชสีมาคนใหม่ “กิม ฐิติพรรณ จันทร์ประทักษ์”
เกาหลีใต้ชี้รัสเซียส่งระบบป้องกันภัยทางอากาศให้เกาหลีเหนือ
สหรัฐเมินไฮเปอร์โซนิครัสเซียลั่นไม่หยุดหนุนยูเครน
เมียเอเย่นต์ค้ายาบ้า ร้องถูกตร.รีด 5 แสน แลกปล่อยตัว พ่วงเรียกเก็บเงินรายเดือน
สถาปนาเขตพื้นที่คุ้มครองฯ ชาติพันธุ์ชุมชนชาวเลโต๊ะบาหลิว
ผบ.ตร.สั่งสอบคลิปแก๊งต่างด้าว แสดงพฤติกรรมเย้ยกม. กำชับคุมเข้ม ใช้ยาแรง

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น