ไม่นิ่งดูดาย ปลัดอาวุโส พร้อมนายก อบต.ไผ่ รุดช่วยเหลือครอบครัว “นางนิด ใสวัน” หลังลูกสาวออกมาวอนผ่านสื่อ แม่อายุ 54 ปี ยังไม่มีบัตร ปชช.

สุรินทร์ - ไม่นิ่งดูดาย ปลัดอาวุโส พร้อมนายก อบต.ไผ่ รุดช่วยเหลือครอบครัวนางนิด ใสวัน หลังลูกสาวออกมาวอนผ่านสื่อ แม่อายุ 54 ปี ยังไม่มีบัตรประชาชน หวังขอเป็นของขวัญปีใหม่ให้แม่

เมื่อเวลา 09.00 น.วันนี้ ( 27 ธันวาคม 2566 ) ดร.ดุษฎี ดวงใจ ปลัดอาวุโส อำเภอรัตนบุรี จ.สุรินทร์ ซึ่งได้รับมอบหมายจากนายอำเภอรัตนบุรี พร้อม นายนครินทร์ กองทุน นายก อบต.ไผ่ และหัวหน้ากลุ่มงานทะเบียนและบัตรอำเภอรัตนบุรี ได้เดินทางมายังบ้านเลขที่ 197 ม.13 ต.ไผ่ อ.รัตนบุรี จ.สุรินทร์ ซึ่งเป็นบ้านของ นางนิด ใสวัน อายุ 54 ปี เดิมบ้านเกิดอยู่ที่บ้านภูดิน ต.กระโพธิ์ อ.ท่าตูม จ.สุรินทร์ หลังทราบข่าวทางสื่อฯว่า น.ส.ธัญญารัตน์ ศาลางาม อายุ 28 ปี ลูกสาว ออกมาวอนผ่านสื่อว่า แม่อายุ 54 ปี แต่ยังไม่มีบัตรประชาชน หวังขอเป็นของขวัญปีใหม่ให้แม่ เนื่องจากที่ผ่านมาได้เคยไปติดต่อประสานงานทางอำเภอท่าตูมซึ่งเป็นภูมิลำเนาเดิมมาแล้วหลายครั้ง ซึ่งทางอำเภอก็บอกให้รอไปก่อนจนปัจจุบันก็ยังไม่รู้จะเป็นอย่างไร โดยผู้เป็นแม่เกิดที่บ้านภูดิน ต.กระโพธิ์ อ.ท่าตูม จ.สุรินทร์ มีพี่น้องร่วมกัน 4 คน เป็นชาย 3 คน และนางนิด ใสวัน เป็นคนสุดท้อง ปัจจุบันพ่อแม่ และพี่ชายเสียชีวิตไปหมดแล้ว ส่วนนางนิด ใสวัน กลายเป็นคนตกหล่น มาจากช่วงเกิดมาพ่อแม่ไม่ได้ไปแจ้งเกิดนั้นเอง ต่อมาได้แต่งงานกับนายบุญโฮม ศาลางาม จึงได้แยกจากพ่อแม่มาอาศัยกับสามี ที่บ้านไผ่ อ.รัตนบุรี มีบุตรด้วยกัน 2 คน ขณะที่ลูกสาวทั้งสองคนที่เกิดมาก็ต้องอาศัยชื่ออาแทนแม่ในการแจ้งเกิด จึงอยากมีบัตรประชาชนจะได้รับการช่วยเหลือจากรัฐบาลได้ จึงอยากวิงวอนสื่อมวลช่วยประสานงานหวังเป็นของขวัญปีใหม่ให้กับแม่ด้วย

เมื่อทราบดังนั้น จึงได้พากันเดินทางมาเพื่อสอบถามข้อเท็จจริงพร้อมรับปากจะให้การช่วยเหลือ ทั้งเรื่องการทำบัตรประชาชนและความเป็นอยู่ หลังจากได้เห็นสภาพบ้านที่อยู่อาศัย ซึ่งใช้ได้แต่เพียงชั้นล่าง เนื่องจากชั้นบนมีสภาพเก่าและผุพังแล้ว

 

 

 

 

 

ข่าวที่น่าสนใจ

ภาพหลังจากได้สอบถามนางนิด ใสวัน ดร.ดุษฎี ดวงใจ ปลัดอาวุโส ก็ได้กล่าวว่า ตนได้รับมอบหมายจากนายอำเภอรัตนบุรี หลังจากทราบข่าวที่สื่อมวนชนได้เสนอข่าว พี่น้องประชาชนในพื้นที่ ม.13 ตำบลไผ่ ไม่มีชื่อในทะเบียนบ้าน แล้วก็ได้รับความเดือนร้อนมาเป็นเวลาหลายปี ซึ่งเราก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ ท่านนายอำเภอก็ได้มอบหมายให้ตน มาพร้อมกับหัวหน้ากลุ่มงานทะเบียนและบัตรอำเภอรัตนบุรี และท่านนายกองค์การบริหารส่วนตำบลไผ่ ก็ได้มาดูสภาพในพื้นที่ พร้อมกับได้สอบถามนางนิด ใสวัน ซึ่งยังไม่มีชื่อในทะเบียนบ้าน ซึ่งได้เคยไปยื่นที่อำเภอเดิม ด้วยความที่ไม่เข้าใจว่าระเบียบสามารถยืนได้ ณ ที่ตัวเองมีภูมิลำเนาในปัจจุบัน ซึ่งหลังจากทราบข้อเท็จจริงแล้ว ก็สามารถเพิ่มชื่อได้ตามระเบียบสำนักทะเบียนกลาง พ.ศ.2535 ฉบับแก้ไขเพิ่มเติมข้อ 97 แล้วก็จะได้นำพยานที่น่าเชื่อถือไปเสนอต่อนายทะเบียน เพื่อสอบประกอบการเสนอเรื่องให้นายอำเภอพิจารณาอนุมัติเพื่อชื่อในทะเบียนบ้านตามระเบียบต่อไป ซึ่งก็ไม่น่าหนักใจ เพราะคุณป้าเองก็เป็นคนไทยอยู่แล้ว และก็มีพี่น้องที่อยู่อำเภอเดิม ซึ่งก็จะได้เชิญพี่น้องที่ร่วมสายโลหิตด้วยกันมาให้ปากคำ เพื่อยื่นเสมอเพิ่มชื่ออีกด้วย ส่วนที่ได้มาเห็นสภาพบ้านตอนนี้ ในอนาคตเราก็จะประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาช่วยปรับปรุงแก้ไขให้ดูดีขึ้น เพื่อคุณภาพชีวิตของพี่น้องประชาชนจะได้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นต่อไป

 

 

 

 

ด้าน นายนครินทร์ กองทุน นายก อบต.ไผ่ ได้กล่าวว่า ภายหลังจากทราบข่าวทางสื่อ ตนก็ได้ประสานไปยัง ดร.ดุษฎี ดวงใจ ปลัดอาวุโส ซึ่งท่านก็ได้บอกว่า เรื่องนี้สามารถดำเนินการได้ตามระเบียบ จึงได้นัดลงพื้นที่ด้วยกัน เพื่อออกมาเยี่ยมเยือนครอบครัวนางนิด ใสวัน ซึ่งหลังจากมาเห็นสภาพความเป็นอยู่แล้ว ตนก็จะพยายามหาทางช่วยเหลือตามอำนาจหน้าที่ แล้วก็จะหาทางปรับปรุงสภาพบ้านและบริเวณที่อยู่อาศัยตลอดจนการทำมาหากิน พร้อมกับจะได้ได้รายงานหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อจะเข้ามาช่วยเหลือแก้ไขต่อไป

 

 

 

 

ภายหลังจากได้ฟังปลัดอาวุโสและนายก อบต.ไผ่ กล่าว นางนิด ใสวัน ผู้เป็นแม่ และน.ส.ธัญญารัตน์ ศาลางาม อายุ 28 ปี ลูกสาว ถึกกับดีใจจนน้ำตาคลอ พร้อมกับยกมือไหว้กล่าวขอบคุณทุกคนที่ลงมาให้ความช่วยเหลือตนและครอบครัวในครั้งนี้

จากนั้นคณะก็ได้เดิมดูสภาพความเป็นอยู่ และตัวบ้านซึ่งมีสภาพเก่าและผุพัง โดยเฉพาะบ้านชั้นบนที่ไม่สามารถขึ้นไปพักอาศัยได้อีก ต้องพากันลงมาอาศัยอยู่ใต้ถุนบ้านทั้งครอบครัว 4 ชีวิต ในสภาพที่ต้องนำผ้ายางมาขึงไว้กันแดดและฝนสาดเท่านั้น โดยจะหาทางประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ลงมาให้ความช่วยเหลือต่อไปอีกด้วย.

 

 

 

 

 

 

 

ทีมข่าวภูมิภาค จ.สุรินทร์ รายงาน
เรียบเรียง / ชูชัย ดำรงสันติสุข ศูนย์ข่าวภูมิภาค TOP NEWS ภาคอีสาน

 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

"สธ." ยันพบชาวเมียนมา ป่วยอหิวาฯ รักษาฝั่งไทย 2 ราย อาการไม่รุนแรง
สุดทน "พ่อพิการ" ร้อง "กัน จอมพลัง" หลังถูกลูกทรพี ใช้จอบจามหัว-ทำร้ายร่างกาย จนนอน รพ.นับเดือน
สลด กระบะชนจยย.พลิกคว่ำตก "ดอยโป่งแยง" เชียงใหม่ เจ็บตายรวม 13 ราย
“สมศักดิ์” ยกนวดไทยเป็นมรดกชาติ สร้างมูลค่าเศรษฐกิจสุขภาพ เล็งพาหมอนวดโกอินเตอร์ โชว์ฝีมืองาน เวิลด์เอ็กซ์โปโอซาก้า ญี่ปุ่น
ห่ามาแล้ว! “แม่สอด” พบติดเชื้ออหิวาต์ เผยญาติฝั่งพม่าซื้อข้าวมากินด้วยกัน
ผกก.สภ.รัตนาธิเบศร์ สั่งตั้งคกก.สอบ "ตร.จราจร" รีดเงินแทนเขียนใบสั่ง
สตม. บุกทลายแก๊งคอลเซ็นเตอร์ กลางคอนโดหรูห้วยขวาง รวบ 6 คนจีน อึ้งเจอซิมการ์ด 2 แสนซิม
ครูบาอริยชาติ เชิญชวนพุทธศาสนิกชน ฉลองสมโภช 18 ปีวัดแสงแก้วโพธิญาณ และทำบุญฉลองอายุวัฒนมงคล 44 ปี
กกต.สั่งดำเนินคดีอาญา "ชวาล" ส.ส.พรรคประชาชน ยื่นบัญชีใช้จ่ายเท็จ โทษคุก-ตัดสิทธิเลือกตั้ง 5 ปี
จีนเตือนสหรัฐกำลังเล่นกับไฟหลังส่งอาวุธให้ไต้หวัน

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น