วันนี้ ( 30 ธ.ค.) เมื่อเวลา 11.00 น. ที่ผ่านมา นางสมพร หลาบโพธิ์ หรือ “ป้าแต๋น” พร้อมทนายความส่วนตัว ได้ตั้งโต๊ะแถลงขู่ฟ้องยูทูปเบอร์และสื่อ หากเสนอข่าวบิดเบือน โดย ทนายความได้อ่านแถลงการณ์ ระบุว่า หลังจากที่ศาลชั้นต้นได้มีคำพิพากษาคดีน้องชมพู่ ซึ่งคดีอยู่ในระหว่างอุทธรณ์และยังไม่ถึงที่สุด แต่มีบุคคลและสื่อจำนวนมากออกสื่อ สร้างความเสียหายให้กับ ลุงพล-ป้าแต๋น รวมถึงคนในครอบครัวและทีมทนายความ ดังนั้น ลุงพล ป้าแต๋น และทีมทนายความ จึงจะดำเนินคดีกับบุคคลและสื่อที่ทำให้เกิดความเสียหายทุกคนทั้งทางแพ่งและทางอาญาจนถึงที่สุด
“ป้าแต๋น” ควงทนายความ ขู่ฟ้องสื่อนำเสนอข่าวบิดเบือนให้ร้ายครอบครัว ตอบชัดปม “ผู้การแต้ม” ยื่นสรรพากรสอบภาษี
ข่าวที่น่าสนใจ
ภายหลัง อ่านคำแถลงการเสร็จสิ้น ป้าแต๋น ระบุว่า ตอนนี้ยังอยู่ในระหว่างการรวบรวมหลักฐาน ยังไม่ได้เจาะจงว่าจะเป็นสื่อใดหรือบุคคลใด พร้อมกับระบายว่า ตัวเองและครอบครัวถูกกระทำด้านความรู้สึกมานานแล้ว จึงอยากออกมารักษาสิทธิ์เพราะห่วงความรู้สึกลูก เนื่องจากลูกเริ่มเข้าสู่วัยรุ่น เล่นโซเชียลฯ มากขึ้น แม้ที่ผ่านมาลูกจะให้ให้กำลังใจบอกว่าไม่ได้คิดอะไร แต่ตนเองยอมรับว่ายังกังวล ซึ่งช่องไหนที่นำเสนอตามความจริงและเป็นกลางก็จะไม่ดำเนินคดี แต่หากช่องไหนมีการบิดเบือน นำเสนอเรื่องที่ไม่จริง ก็ต้องดำเนินการ เมื่อถามว่า เกี่ยวข้องกับผู้การแต้ม หรือรายการโหนกระแส หรือไม่ ป้าแต๋น ยืนยันว่า ไม่เกี่ยวไม่ใช่จุดเปลี่ยนที่ทำให้ตัดสินฟ้อง แต่มีบางสื่อที่เข้าข่าย แต่ต้องรอตรวจสอบก่อน หากหลังจากนี้พบว่า ยังนำเสนอข้อมูลไม่จริงที่สร้างความเสียหายก็จะดำเนินคดีทั้งหมด ส่วนกรณีที่ผู้การแต้ม ยื่นสรรพากรให้ตรวจสอบรายได้นั้น ป้าแต๋น ยืนยันพร้อมพิสูจน์ข้อเท็จจริง ไม่ได้กังวลอะไรเป็นสิทธิ์ของผู้การแต้มที่สามารถยื่นได้
ส่วนที่ตอนแรกแจ้งหมายข่าวว่าลุงพลจะมาแถลงข่าวด้วย แต่สุดท้ายไม่มานั้น ป้าแต๋น บอกว่า อยากให้ลุงพลพักผ่อนและงดออกสื่อช่วงนี้ ก่อนเพราะตั้งแต่ศาลชั้นต้นได้มีคำพิพากษาลุงพลก็ถูกโจมตีอย่างหนักโดยเฉพาะแพลทฟอร์มโซเชียลมีเดียทั้ง YouTube และ TikTok ที่มีการนำเสนอข้อมูลเท็จสร้างความเสียหายทั้งที่คดียังไม่ถึงที่สุด
ส่วนกรณีที่มีการกล่าวหาว่าป้าแต๋นปิดช่อง YouTube เพื่อเรียกร้องความสงสาร ยืนยันว่า ไม่ได้ปิดช่องเอง แต่ทางยูทูป อีเมลมาบอกว่า ละเมิดกฎชุมชนทำให้ปิดช่องไปแต่ตอนนี้ได้ยื่นอุทธรณ์ ไปแล้ว เพราะ YouTube ถือเป็นรายได้หลัก ซึ่งเมื่อมีปัญหาก็ต้องหารายได้ใหม่ ทั้งขายของและเปิดช่องใหม่ ซึ่งยังมีแฟนคลับที่ยังเชื่อใจกลับมาติดตามเหมือนเดิม ยืนยันไม่ได้แตกหักกับยูทูปเบอร์ ไม่มีปัญหาส่วนตัวกัน ต่างคนต่างแยกย้ายทำคอนเทนท์ในช่องของตัวเอง
ส่วนความคืบหน้าในการอุทธรณ์คดี ทนายความ บอกว่า ขณะนี้ยังรอคัดคำพิพากษาฉบับเต็มจากศาล โดยแนวทางการต่อสู้จะใช้หลักฐานเก่าในการอุทธรณ์
ข่าวที่เกี่ยวข้อง