นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน กล่าวชี้แจงต่อที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร ถึงประเด็น การปรับค่าจ้างขั้นต่ำว่า ผมขอขอบคุณสมาชิกสภาผู้ทรงเกียรติ ที่ได้ติดตามเรื่องของงบประมาณของกระทรวงแรงงาน ที่ท่านได้มีข้อแนะนำที่ดีในหลายเรื่อง ซึ่งตัวผมเองจะได้นำสิ่งที่ท่านได้แนะนำมาไปปรับและหารือกับข้าราชการกระทรวงแรงงานเพื่อปรับใช้และพัฒนาเพื่อให้ทันสมัยต่อไป ส่วนกรณีที่ได้มีการพูดถึงค่าแรงขั้นต่ำว่า มีการพิจารณาค่าแรงขั้นน้อยจนเกินไป ซึ่งในเรื่องนี้ผมได้นำเรียนท่านนายกรัฐมนตรีแล้วว่า คณะกรรมการไตรภาคีได้มีการประชุม และลงมติ 2 ครั้งด้วยกัน ครั้งแรกผมได้ตั้งข้อสังเกตว่าเนื่องจากได้มีการนำข้อมูลในปี 2563 และปี 2564 ซึ่งเป็นช่วงที่ทั่วโลกต่างได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ซึ่งแน่นอนว่าในช่วงนั้นอัตราค่าเงินเฟ้อติดลบ เศรษฐกิจล่มสลาย จึงได้มีการประชุมครั้งที่ 2 ซึ่งไตรภาคีก็ยังยืนยันเหมือนเดิม ผมจึงได้นำเข้าคณะรัฐมนตรีเพื่อรับทราบ และได้ประกาศใช้เมื่อวันที่ 1 มกราคมที่ผ่านมา
นายพิพัฒน์ กล่าวต่อว่า ผมได้หารือกับปลัดกระทรวงแรงงานว่าในกรณีดังกล่าวเป็นการประกาศพิจารณารายจังหวัดซึ่งเป็นรูปแบบที่ไม่ทันสมัย ซึ่งขณะนี้ประเทศไทยเรามีความทันสมัยมากกว่าในอดีต ซึ่งจะมีการหารือกันอีกครั้งในวันที่ 17 มกราคมนี้ว่าภายในอีก 2-3 เดือนข้างหน้าเราจะพิจารณาค่าแรงขั้นต่ำกันอีกครั้งหนึ่ง ว่าเราจะมีมูลฐานหรือข้อมูลอะไรเพิ่มเติม ซึ่งผมได้ให้หลักการตามที่ท่านนายกรัฐมนตรีได้ให้ข้อแนะนำว่า ให้ลงในรายละเอียดถึงระดับตำบล อำเภอ หรือรายเทศบาล และลงไปในรายละเอียดถึงสาขาอาชีพ ว่าอาชีพไหนควรจะมีค่าแรงขึ้นไปถึง 400 บาท และในพื้นที่ไหน จังหวัดใด