ดร.นิว ย้อนภาพครั้งสู้คดีธนาธร เทียบปิยบุตร ดิสเครดิตศาล เห็นชัดเก่งแต่ชี้นำ 3 นิ้ว

ดร.นิว ย้อนภาพครั้งสู้คดีธนาธร เทียบปิยบุตร ดิสเครดิตศาล เห็นชัดเก่งแต่ชี้นำ 3 นิ้ว

วันที่ 10 ม.ค. 67 ดร.ศุภณัฐ อภิญญาณ หรือ “ดร.นิว” นักวิจัยภายใต้สถาบันวิจัย MAST Center และ คณะวิศวกรรมชีวการแพทย์ University of Arkansas ประเทศสหรัฐอเมริกา โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก “Suphanat Aphinyan” ระบุว่า “ตอนผมโดนนายธนาธรฟ้อง ก็สู้คดีเงียบๆ ด้วยความเคารพต่อกระบวนการยุติธรรม จนชนะคดีแล้วจึงค่อยบอกกล่าวต่อสาธารณชน ส่วนการที่นายปิยบุตรออกมาร้องแรกแหกกระเชอหวังดิสเครดิต ด้อยค่า และกดดันกระบวนการยุติธรรม สะท้อนให้เห็นถึงความเป็นนักกฎหมายชั้นต่ำที่ไม่เคารพกฎหมาย เก่งแต่ชี้นำมวลชนแบบผิดๆ”

 

 

ข่าวที่น่าสนใจ

ซึ่งวานนี้(9 ม.ค.) ที่ผ่านมา นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการคณะก้าวหน้า เดินทางมาที่สำนักงานอัยการสูงสุด อาคารกรุงเทพใต้ ตามที่พนักงานสอบสวน สน.นางเลิ้งได้มีการนัดหมายเพื่อส่งสำนวนและส่งตัวให้พนักงานอัยการพิจารณาสั่งฟ้องต่อศาลต่อไป จากกรณีการจัดรายการ Clubhouse เมื่อปี 2564

โดยนายปิยบุตรได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนว่า เหตุผลที่จัดรายการในวันนั้น เนื่องจากตนเป็นนักวิชาการ และมีเจตนาที่อยากจะให้ความรู้กับประชาชน เพราะเกรงว่าจะทำให้ทั้งสองฝ่ายที่มีความเห็นทางการเมืองต่างกัน จะมีเหตุการณ์ที่รุนแรงมากขึ้นกว่าเดิม ซึ่งตนก็ได้ให้ความเห็นว่าการที่มีบุคคลไปเผาพระบรมฉายาลักษณ์ไม่เข้าข่ายความผิดมาตรา 112 แต่สามารถเอาผิดในฐานอื่นได้ ซึ่งตนก็ไม่เข้าใจว่า นายณฐพร โตประยูร อดีตที่ปรึกษาประธานผู้ตรวจการแผ่นดิน ไปฟ้องร้องตนเพื่ออะไร ก่อนจะถูกพนักงานสอบสวนดำเนินการส่งฟ้องตามหน้าที่

 

 

นอกจากนี้ นายปิยบุตร ยังได้แสดงความคิดเห็นอีกว่า ที่ผ่านมาตนตั้งข้อสังเกตมาตลอดกับระบบกฎหมายในประเทศไทย ทำไมพอเป็นคดีทางการเมือง พนักงานสอบสวนถึงไม่ใช้ดุลยพินิจในการแจ้งข้อกล่าวหา เพราะที่ผ่านมาก็ลงเอยด้วยศาลพิพากษายกฟ้องตลอด พนักงานสอบสวนควรมีดุลพินิจในการแจ้งข้อกล่าวหา ไม่เช่นนั้นจะเป็นการเปิดช่องว่าง ให้เกิดอาชีพ “นักร้อง” เกิดขึ้นมากกว่านี้ คนร้องก็กลุ่มเดิม คนถูกร้องก็กลุ่มเดิม สุดท้ายก็จบแบบเดิม ๆ มันทำให้เสียเวลาโดยใช่เหตุ

นาย ปิยบุตรกล่าวต่อไป ว่ากรณีที่เกิดขึ้นนี้ทำให้ตนฉุกคิดขึ้นมาได้ ว่ารัฐบาลชุดนี้ที่นำโดยพรรคเพื่อไทย เมื่อครั้งหาเสียงได้เคยประกาศเจตนารมณ์ชัดเจน แกนนำพรรคเพื่อไทยหลายคนเคยพูดไว้ว่า ม.112, ม.116 และกฎหมายที่ละเมิดเสรีภาพต่างๆ ไม่ต้องแก้ไขหรือยกเลิก แค่ใช้มาตรการทางการบริหารให้เกิดความยุติธรรมก็เพียงพอแล้ว แต่วันนี้รัฐบาลเข้ามาปฏิบัติหน้าที่ได้ 6 เดือนแล้ว กลับไม่เคยเห็นพูดเรื่องนี้ แม้จะมีนโยบายเรือธงที่มีข้อจำกัดหลายเรื่องจนไม่ได้ทำก็ยังเป็นเรื่องที่เข้าใจได้ แต่เรื่องที่ง่ายมากเช่นนี้ รัฐบาลสามารถสั่งพนักงานสอบสวนให้ปฏิบัติหน้าที่อย่างมีมาตรฐานเท่าเทียมกันในทุกคดีได้ หลายเรื่องไม่จำเป็นต้องสั่งฟ้องให้เสียเวลา ยังมีประชาชนมีอีกหลายคนที่ต้องเสียเวลาเพาะคดีแบบนี้ แล้วพอทำแบบนี้ก็เป็นการเปิดทางให้นักร้องหน้าเดิมกันทั้งนั้น มาร้องวนไปวนมากับคนกลุ่มเดิมๆ ด้วยข้อหาเรื่องเดิมๆ แล้วก็จบแบบเดิมๆ

 

 

 

“ถ้ามีโอกาสได้สัมภาษณ์นายกรัฐมนตรี รองนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีว่าการระทรวงยุติธรรม ช่วยถามทีว่าที่ประกาศกันไว้ว่าจะทำกระบวนการยุติธรรมโดยใช้วิธีการทางการบริหารเข้าไปจัดการ ท่านทำบ้างหรือยัง ผ่านมาเกิน 6 เดือนแล้วยังไม่เห็นเลยว่ารัฐบาลนี้คิดอ่านอย่างไรในเรื่องแบบนี้ ประชาชนจำนวนมากที่โดนแบบนี้เต็มไปหมดต้องรับภาระ แล้วบอกจะปรองดอง ก้าวข้ามความขัดแย้ง แต่เรื่องแบบนี้ยังมีอยู่เต็มไปหมดมันจะจบได้อย่างไร อย่างน้อยที่สุดไม่ยากเลย ไม่ต้องไปแก้กฎหมาย ยังไม่ต้องถึงขั้นกฎหมายนิรโทษกรรม เอาแค่ให้พนักงานสอบสวนใช้ดุลยพินิจกลั่นกรองหน่อย เรื่องไหนไม่เข้าเอาออกไปเลย จะได้ไม่เสียเวลา” ปิยบุตรกล่าว

สำหรับกรณีนี้ ต้องย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 3 มีนาคม 2564 ซึ่งนายปิยบุตรได้จัดรายการใน Clubhouse และแสดงความเห็นเรื่องการเผาพระบรมฉายาลักษณ์ ไม่เข้าองค์ประกอบความผิดตาม ม.112 และต่อมาได้ถูกนายณฐพร โตประยูร อดีตที่ปรึกษาประธานผู้ตรวจการแผ่นดิน เข้าร้องทุกข์กล่าวโทษ ก่อนจะถูกพนักงานสอบสวน สน.นางเลิ้ง แจ้งข้อกล่าวหา ฐานยุยงปลุกปั่นให้เกิดความวุ่นวายในบ้านเมือง ตามมาตรา ม.116 ซึ่งเจ้าตัวได้ให้การปฏิเสธ และขอต่อสู้คดี

โดยหลังขึ้นไปฟังคำสั่งอัยการเป็นเวลาประมาณ 20 นาที นายปิยบุตรได้ออกมาให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนอีกครั้งว่า พนักงานสอบสวนได้มีการแจ้งข้อกล่าวหาตน 2 ข้อกล่าวหา คือ ม.116 และ พ.ร.บ. คอมพิวเตอร์ ซึ่งวันนี้เป็นเพียงแค่ขั้นตอนที่พนักงานสอบสวน สน. นางเลิ้ง นัดตนมาส่งสำนวนและส่งตัวให้อัยการพิจารณาสั่งฟ้องเท่านั้น ซึ่งยังอยู่ระหว่างการที่อัยการตรวจสำนวนและพิจารณา พร้อมกับให้ตนมารายงานตัวกับสำนักงานอัยการสูงสุด อาคารกรุงเทพใต้ ในวันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2567

 

 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

สพฐ. จับมือผู้บริหารเขตพื้นที่ชายแดนใต้ ขับเคลื่อนนโยบายเชิงรุก ร่วมใจสร้างคุณภาพทุกห้องเรียน
"สรวงศ์" ลุยแก้ปัญหา "เกาะกูด" ดึงนทท.ต่างชาติ ระดับไฮเอนด์ กระตุ้นการท่องเที่ยวในพื้นที่
ส่องเงินรางวัล "โอปอล สุชาตา" หลังคว้ารองอันดับ 3 เวที Miss Universe 2024
เปิดจำนวนเงินรางวัล "Miss Universe 2024" หลังสาวงามเดนมาร์ก คว้ามงกุฎไปครอง
“บิ๊กโจ๊ก-เสรีพิศุทธ์” ให้การป.ป.ช. ลือสนั่น คดีช้้น 14 มีมูล จ่อเอาผิดกราวรูด
"กิตติรัตน์" เคลื่อนไหวแล้ว โพสต์ทุกเสียงค้านคือเครื่องเตือนใจ ให้ปฏิบัติดี
“รับน้องขึ้นดอย” นศ.โชว์สปิริตฝ่า “โค้งขุนกัณฑ์” พร้อมเพรียงสุดขนลุก!
เล่นผิดคนแล้ว “กัน จอมพลัง” ดับซ่าส์ “โล้นปีนเสา” แจ้งความจับคาผ้าเหลือง
"พิชัย" นำทีมเจรจา Google ขยายลงทุน คุย Walmart เปิดโอกาสสินค้าไทยวางขายเพิ่ม
สุดห่วง "สามี" วอนช่วยตามหา "ภรรยา" หายตัวปริศนา หลังเครียดสูญเงินลงทุน “ดิไอคอน” นับแสนบาท

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น