หลังจากที่รัสเซียร้องขอคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ จัดประชุมด่วน เพื่อหารือเกี่ยวกับการที่สหรัฐและอังกฤษ โจมตีกลุ่มฮูติทางอากาศ ล่าสุดในการประชุมที่มีฝรั่งเศสเป็นประธานในปัจจุบัน นางลินดา โธมัส-กรีนฟิลด์ เอกอัครราชทูตสหรัฐประจำสหประชาชาติได้กล่าวว่า ไม่ว่าเรือจะชักธงชาติสหรัฐ หรือธงของประเทศอื่น ไม่ว่าคุณจะลงคะแนนให้มติของสัปดาห์นี้หรืองดออกเสียง ตราบใดที่เรือลำใดลำหนึ่งของเรายังอ่อนแอ เรือทุกลำของเราก็มีความเสี่ยง
ขณะที่นางบาร์บารา วูดวาร์ด เอกอัครราชทูตสหราชอาณาจักรประจำสหประชาชาติ ก็กล่าวว่า เราได้ดำเนินการที่ทั้งจำกัด, จำเป็น, และได้สัดส่วน ในการป้องกันตนเองควบคู่ไปกับสหรัฐ รวมถึงจากการสนับสนุนที่แม้ไม่ได้ปฏิบัติการด้วยก็ตาม ของเนเธอร์แลนด์, แคนาดา บาห์เรน, และออสเตรเลีย กองทัพอากาศของสหราชอาณาจักรได้ดำเนินการโจมตีแบบกำหนดเป้าหมาย ต่อสิ่งอำนวยความสะดวกทางทหารที่กลุ่มฮูติ กลุ่มกบฏในเยเมนใช้ ซึ่งปฏิบัติการนี้ใช้ความระมัดระวังเป็นพิเศษ เพื่อลดความเสี่ยงต่อพลเรือนอยู่แล้ว
ด้านนายวาซิลี เนเบนเซีย เอกอัคราชทูตของรัสเซียแห่งสหประชาชาติ ผู้ที่ทำการร้องขอให้มีการประชุมด่วนได้กล่าวว่า พันธมิตรต่างทำการโจมตีครั้งใหญ่ในดินแดนเยเมน ไม่ใช่แค่การโจมตีกลุ่มบางกลุ่มภายในประเทศ แต่เป็นการโจมตีกลุ่ม ประชาชนของประเทศโดยรวม ด้วยการใช้เครื่องบิน เรือรบ และเรือดำน้ำ ทั้งนี้ สหรัฐและพันธมิตร ไม่ได้รับอนุญาตให้กระทำตามอำเภอใจแบบที่กำลังดำเนินการในเยเมนตอนนี้ มตินี้เต็มไปด้วยความเสี่ยงที่จะเกิดสงครามเต็มรูปแบบ ไม่เพียงแต่ในประเทศเท่านั้น แต่เป็นทั่วทั้งภูมิภาค
ขณะเดียวกัน สำนักข่าว AFP ก็ได้เผยแพร่ความเห็นของรองศาสตราจารย์ ดร. เมลานี การ์สัน ผู้เชี่ยวชาญด้านความมั่นคงระหว่างประเทศ และการแก้ไขข้อขัดแย้ง University College London โดยดร.การ์สันระบุว่า ไม่ใช่แค่สหรัฐและสหราชอาณาจักรเท่านั้น ที่ดำเนินการ แต่ยังได้รับการสนับสนุนทั้งจากออสเตรเลีย, เนเธอร์แลนด์, บาห์เรน, และแคนาดา ดังนั้น สหรัฐและสหราชอาณาจักร ไม่ได้ดำเนินการตามลำพัง โดยการโจมตีก็ถูกออกแบบมาเพื่อส่งข้อความที่หนักแน่น โดยเฉพาะกับอิหร่านว่า การมีอยู่ของสหราชอาณาจักรและสหรัฐในทะเลแดง เป็นความพยายามที่มุ่งมั่น ในการรับรองความปลอดภัยให้กับการขนส่งของทั่วโลก