วันนี้ ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน รายงานว่า ในวันพรุ่งนี้ 15 มกราคม 2567 เวลา 9.00 น. ศาลอาญากรุงเทพใต้ นัดฟังคำพิพากษาคดีของแกนนำม็อบราษฎร ประกอบด้วย นายอานนท์ นำภา จำเลยที่ 1, “ไมค์” ภาณุพงศ์ จาดนอก จำเลยที่ 2, “ไผ่” จตุภัทร์ บุญภัทรรักษา จำเลยที่ 3 และ “ครูใหญ่” อรรถพล บัวพัฒน์ จำเลยที่ 4 ในฐานความผิด 10 ข้อหา จากการชุมนุม 18พฤศจิกาไปราษฎรประสงค์ บริเวณสี่แยกราชประสงค์และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เมื่อวันที่ 18 พฤศจิกายน 2563 โดยมีการปาสี ขวดน้ำเข้าไปยังรั้วของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และฉีดพ่นสเปย์ตามรั้วกำแพง
จับตา พรุ่งนี้ศาลนัดตัดสินคดี 4 แกนนำ3 นิ้ว ป่วนสตช.
ข่าวที่น่าสนใจ
สำหรับเหตุในคดีนี้ต่อเนื่องมาจากการชุมนุม ‘ราษฎรล้อมสภา’ เมื่อวันที่ 17 พฤศจิกายน 2563 ที่หน้ารัฐสภา เกียกกาย ผู้ชุมนุมพยายามฝ่าแนวกั้นเข้าไปชุมนุมด้านหน้ารัฐสภา เพื่อเกาะติดการลงมติแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับประชาชน แต่ตลอดทั้งวันมีการเผชิญหน้ากับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ซึ่งปิดกั้นเส้นทางไม่ให้เข้าพื้นที่ และพยายามสลายการชุมนุมโดยการฉีดน้ำ รวมทั้งมีการปะทะกับมวลชนปกป้องสถาบันฯ ในช่วงดึกคืนดังกล่าวจึงนัดหมายชุมนุมในวันถัดมา เพื่อโต้ตอบและแสดงออกถึงความไม่พอใจ
การชุมนุมในครั้งนี้มีการดำเนินคดีแยกเป็นสองคดี ได้แก่ คดีที่ สน.ปทุมวัน และคดีที่ สน.ลุมพินี โดยอานนท์กับภาณุพงศ์ถูกดำเนินคดีทั้ง 2 สถานีตำรวจ ต่อมาเมื่อวันที่ 10 พฤศจิกายน 2564 สำนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีอาญากรุงเทพใต้ 4 ได้ยื่นฟ้องคดีนี้ต่อศาลอาญากรุงเทพใต้ใน 10 ข้อหา อาทิ
-ร่วมกันมั่วสุมตั้งแต่ 10 คนขึ้นไป โดยเป็นหัวหน้าหรือผู้สั่งการ ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 215 วรรคสาม มีอัตราโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 1 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
-ร่วมกันทำร้ายเจ้าพนักงาน ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
-ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 358 ร่วมกันทําให้เสียทรัพย์ มีอัตราโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 60,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
-ร่วมกันชุมนุมใดๆ โดยไม่เป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่กำหนดไว้ตามกฎหมายว่าด้วยการชุมนุมสาธารณะ อันเป็นการฝ่าฝืนข้อกำหนดที่ออกตามมาตรา 9 พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ มีอัตราโทษจำคุกไม่เกินสองปี หรือปรับไม่เกินสี่หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
-พ.ร.บ.การชุมนุมสาธารณะฯ ร่วมกันเป็นผู้จัดการชุมนุมสาธารณะโดยไม่แจ้งการชุมนุมต่อผู้รับแจ้งก่อนเริ่มการชุมนุมไม่น้อยกว่า 24 ชั่วโมง มีอัตราโทษปรับไม่เกิน 10,000 บาท
ข่าวที่เกี่ยวข้อง