ข้อเรียกร้องถอนทหารอินเดียของ ประธานาธิบดี โมฮัมเหม็ด มู-อิซ-ซู แห่งมัลดีฟส์ ถูกถ่ายทอดในที่ประชุมเจ้าหน้าที่ระดับสูงสองฝ่าย ที่จัดขึ้นในกรุงมาเล เมืองหลวงมัลดีฟส์ เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา (14 มกราคม) นายอับดุลเลาะห์ นาซิม อิบรอฮีม เลขาธิการสำนักงานประธานาธิบดี กล่าวว่า ทหารอินเดียไม่สามารถอยู่ในมัลดีฟส์ได้ นี่คือนโยบายของรัฐบาลชุดนี้
มูอิซซู ชนะเลือกตั้งในเดือนพฤศจิกายน โดยชูประเด็น “อินเดียออกไป” สวนทางกับผู้นำคนก่อน ๆ ที่สานต่อนโยบายโปรอินเดียตลอดมา โดยเขามองว่าอิทธิพลที่มากเกินไปของรัฐบาลนิวเดลี คือภัยคุกคามต่ออธิปไตย และรับปากจะขับทหารอินเดียออกจากแผ่นดิน
อินเดียมีทหารราว 77 นาย และหน่วยแพทย์ 12 คน ประจำในมัสดีฟส์ ประเทศหมู่เกาะเล็ก ๆ ในมหาสมุทรอินเดีย นัยว่า เพื่อดูแลอุปกรณ์ทางทหารที่มอบให้แก่มัลดีฟส์ และช่วยเหลือกิจการมนุษยธรรมในภูมิภาค อุปกรณ์ทางทหารคือเฮลิคอปเตอร์ 2 ลำ และเครื่องบิน ดอร์เนียร์ ส่วนใหญ่ใช้ตรวจการณ์ทางทะเล ภารกิจค้นหา กู้ภัยและเคลื่อนย้ายชาวบ้านบนเกาะห่างไกลที่ต้องการความช่วยเหลือทางการแพทย์ เฮลิคอปเตอร์และลูกเรือชุดแรก เริ่มเข้าไปปฏิบัติการในมัลดีฟส์ ในปี 2553
การประชุมระหว่างมัลดีฟส์กับอินเดีย มีขึ้น 1 วันหลังจาก มูอิซซู กลับจากเยือนจีนอย่างเป็นืทางการ และได้พบปะกับประธานาธิบดีสี จิ้นผิง สองฝ่ายเห็นพ้องยกระดับความสัมพันธ์ สู่หุ้นส่วนความร่วมมือทางยุทธศาสตร์
ก่อนไปเยือนจีนไม่กี่วัน เกิดความระหองระแหงระหว่างสองประเทศ หลังจากรัฐมนตรีช่วยมัลดีฟส์ 3 คน แสดงความเห็นเชิงเหยียดหยามนายกรัฐมนตรี นเรนทรา โมดี บนโซเชียลมีเดีย ชาวอินเดียไม่พอใจ พากันเรียกร้องบอยคอยเที่ยวมัลดีฟส์จนติดเทรนด์
แต่เมื่อกลับจากปักกิ่ง มูอิซซู เพิ่มความชัดเจนขึ้นอีกว่าพร้อมเลิกพึ่งพาอินเดีย ด้วยการบอกว่าจะนำเข้าอาหารและบริการรักษาพยาบาลจากต่างประเทศ โดยเตรียมแผนไว้แล้วว่าจะนำเข้าอาหารจากตุรกี นำเข้ายาจากยุโรป และสหรัฐ และชาวมัลดีฟส์ที่อยู่ในโครงการประกันสุขภาพของรัฐ สามารถไปรักษาที่ดูไบและประเทศไทยได้ ณ ปัจจุบัน ชาวมัลดีฟส์ส่วนใหญ่ไปใช้บริการโรงพยาบาลในอินเดียและศรีลังกา ประธานาธิบดีมัลดีฟส์ประกาศด้วยว่า เราไม่ใช่ประเทศที่อยู่หลังบ้านของอีกประเทศ เราคือประเทศเอกราช ก่อนทิ้งท้ายว่า เราอาจเป็นประเทศเล็ก แต่ไม่ใช่ใบอนุญาตให้ใครมารังแก
ถ้อยแถลงของ มูอิซซู คือการตอบโต้กระแสบนสื่อสังคมออนไลน์อินเดีย ที่เรียกร้องบอยคอตมัลดีฟส์ นักวิเคราะห์มองว่า นี่คือความเห็นแข็งกร้าวที่สุดนับจากมูอิซซูรับตำแหน่ง และบ่งบอกว่า นโยบายต่างประเทศของมัลดีฟส์ จะเดินไปในทางที่ไม่มีอินเดียเป็นศูนย์กลาง
อาลี อาซิม ผู้นำอาวุโสของพรรคประชาธิปไตยในมัลดีฟส์ บอกกับบีบีซี ว่า คนจำนวนมากเชื่อว่าแผนลดพึ่งพาอาหารและยานำเข้าจากอินเดีย ไม่น่าจะทำได้ในทางปฏิบัติ อาหารจะนำเข้าจากที่ใดก็ได้ในโลกรวมถึงตุรกี แต่ค่าขนส่งจะแพงกว่านำเข้าจากอินเดียอย่างมาก
(จีนกับอินเดีย แข่งอิทธิพลเหนือมัลดีฟส์ เพราะตำแหน่งที่ตั้งทางยุทธศาสตร์ มัลดีฟส์ตั้งอยู่ในเส้นทางเดินเรือพลุกพล่านที่สุดแห่งหนึ่งในมหาสมุทรอินเดีย เป็นเส้นทางที่จีนใช้นำเข้าน้ำมันเกือบ 80% ขณะที่อินเดีย ก็ไม่ต้องการให้ทหารจีนเข้าไปในภูมิภาคหลังบ้านตัวเอง เพราะจะถือเป็นภัยคุกคามเช่นกัน)