ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 11.40 น. วันที่ 3 ก.ย. ที่รัฐสภา ในระหว่างการประชุมสภาผู้แทนราษฎร เพื่อพิจารณาญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นรายบุคคล เป็นวันที่ 4 นายศรัณย์วุฒิ ศรัณย์เกตุ ส.ส.อุตรดิตถ์ พรรคเพื่อไทย ได้พยายามจะลุกขึ้นเพื่อขออภิปรายหลายครั้ง โดยนายชวน หลีกภัย ประธานสภาฯ ทำหน้าที่ประธานการประชุม กล่าวว่า รายชื่อผู้อภิปรายที่ส่งมามีปัญหาเรื่องรายชื่อของนายศรัณย์วุฒิ ซึ่งยังไม่ได้มีการส่งชื่อมา และทางผู้นำฝ่ายค้านแจ้งยืนยันรายชื่อตามที่วิปฝ่ายค้านได้นำเสนอประธานสภาฯ ดังนั้นนายศรัณย์วุฒิ ต้องไปทำความเข้าใจกับผู้ควบคุมเสียงฝ่ายค้าน ตนไม่สามารถไปบังคับเขาได้ ขอให้ไปคุยกัน ตนไม่อยากให้ทุกพรรคมีความขัดแย้งกัน
ด้านนายศรัณย์วุฒิ กล่าวว่า จริงๆ ไม่ควรปิดกั้น เพราะเป็นเอกสิทธิ์ของส.ส. ตนก็มีเวลาของพรรคเพื่อชาติเหลือ ตามที่เขาได้มอบอำนาจและส่งหนังสือไปถึงประธานสภาฯ แล้ว ถ้าพรรคเพื่อไทยไม่ให้อภิปราย ตนเสียดายอุดมการณ์ วันนี้ตนทำหน้าที่เพื่อปวงชนชาวไทยและใช้เวลาน้อยมากจากพรรคเพื่อชาติ ดังนั้นขอให้เอกสิทธิ์ ทั้งที่เวลาของพรรคฝ่ายค้านเหลือเยอะมากจนสามารถอภิปรายพร่ำเพรื่อได้ แล้วถ้าตนไปหารือกับผู้ควบคุมเสียงฝ่ายค้านแล้วเขาไม่อนุญาตจะต้องทำอย่างไร ไม่เช่นนั้นสภาฯแห่งนี้ก็ไม่มีความศักดิ์สิทธิ์ ตนจะพูดถึงสิ่งที่ทำให้ประเทศชาติเสียหาย แต่พรรคเพื่อไทยปิดกั้นแบบนี้ ถามว่าอุดมการณ์จะเหลือหรือ ตนเจ็บปวดมาก และทำการบ้านมา เอกสารเต็มไปหมด พร้อมอภิปราย ฝากบอกคนไทยว่าตนถูกปิดกั้นไม่ได้ถูกอภิปราย แม้ว่าทำการบ้านมาอย่างนี้ นี่คืออุดมการณ์พรรคเพื่อไทย ความจริงพรรคเพื่อไทยให้เวลาตน 1 ชั่วโมง แล้วจู่ๆก็มาตัดเวลาตน แม้ว่าก่อนหน้านั้นจะให้ไปพรีเซ้นต์ว่าจะพูดเรื่องอะไร ตนก็ยอม แต่แบบนี้มันกดดันส.ส.มากเกินไป ล่วงลูกไปหมดเลย คนที่เรีกยตนไปพรีเซ้นต์เชื่อว่าหากมาลงส.ส.ก็จะสอบตกกันหมด จึงขอฟ้องคนไทยทั้งประเทศว่าพรรคเพื่อไทยทำกับตนแบบนี้
ด้านนายสมคิด เชื้อคง ส.ส.อุบลราชธานี พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า กรณีรายชื่อผู้อภิปราย เราได้มาเท่าไหร่ก็เท่านั้น ตนเข้าใจและเห็นใจ แต่พรรคเพื่อไทยไม่ได้กีดกัน ทุกอย่างจัดไปตามเวลาที่มี พรรคเพื่อไทยมีคนเก่งทั้งนั้น หลายคนเสนอชื่อมาก็ไม่ได้อภิปรายก็มี