นายมนัส โกศล ประธานสภาองค์การลูกจ้างพัฒนาแรงงานแห่งประเทศไทย (สพท.)และ ประธานเครือข่ายประกันสังคมคนทำงาน (คปค.) เปิดเผยว่าหากเปรียบเทียบสิทธิประโยชน์การรักษาพยาบาลและสวัสดิการต่าง ๆ ระหว่าง “ประกันสังคม” ของกระทรวงแรงงานกับ “บัตรทอง 30 บาทรักษาทุกที่” ของสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) กระทรวงสาธารณสุข เห็นว่า “ประกันสังคม” ให้สิทธิสวัสดิการครอบคลุมกว่า เนื่องจาก “ประกันสังคม” ไม่ได้ให้สิทธิรักษาสุขภาพเพียงอย่างเดียวเหมือน บัตรทอง 30 บาท
เนื่องจาก “ประกันสังคม” ยังมี “กองทุนเงินทดแทน” ตามมาตรา 33 สิทธิรับเงินทดแทนจ่ายค่ารักษาพยาบาลให้ลูกจ้าง หรือ กรณีเงินทดแทนการขาดรายได้สำหรับการหยุดงาน 50% ของค่าจ้าง ในกรณี ถูกเลิกจ้าง เป็นระยะเวลา 6 เดือน หรือ ได้รับเงินชดเชย 30% ของค่าจ้าง 3 เดือน ในกรณีลาออกจากงาน รวมถึงสิทธิประโยชน์ เงินบำนาญชราภาพ เงินบำนาญชราภาพ เป็นเงินที่จ่ายเป็นรายเดือนตลอดชีวิต เป็นต้น
นอกจากนี้ “ประกันสังคม” ให้สิทธิรักษาพยาบาลผู้ประกันตนสามารถเข้ารับการรักษาได้ทุกโรงพยาบาลโดยเฉพาะ “โรงพยาบาลเอกชน” อำนวยความสะดวกแก่ผู้ใช้แรงงาน ได้ใช้สิทธิใกล้สถานที่ทำงานและวันหยุดงาน เสาร์-อาทิตย์ สามารถไปใช้สิทธิได้โดยไม่ต้องลางาน นอกจากนี้ประกันสังคมยังมีการให้บริการแบบเคลื่อนที่ และปรับระบบให้สามารถใช้สิทธิได้ด้วยบัตรประชาชนใบเดียวเช่นเดียวกับ 30 บาท ขณะที่บัตรทอง 30 บาท ประชาชนสามารถใช้บัตรประชาชนใบเดียวรักษาได้ทุกที่จำเป็นต้องเข้าใช้บริการโรงพยาบาลระดับปฐมภูมิก่อน เช่น โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.) จากนั้นจึงส่งต่อไปโรงพยาบาลขนาดใหญ่
อย่างไรก็ตามกรณี มาตรา 33 ผู้ใช้แรงงานลาออกจากงาน และไม่ต้องการส่งประกันสังคมต่อจะเข้ามาตรา 39 สิทธิคุ้มครอง ประสบอันตรายหรือเจ็บป่วย , คลอดบุตร , ทุพพลภาพ , ตาย , สงเคราะห์บุตร และ ชราภาพ มีผู้ใช้สิทธิจำนวนกว่า 1.7 ล้านคน และ มาตรา 40 สิทธิคุ้มครอง ประสบอันตรายหรือเจ็บป่วย , คลอดบุตร , ทุพพลภาพ , ตาย , สงเคราะห์บุตร และ ชราภาพ มีผู้ใช้สิทธิจำนวนกว่า 10 กว่าล้านคน
