วันที่ 21 ม.ค.67 ผศ.ดร.อานนท์ ศักดิ์วรวิชญ์ อาจารย์ประจำคณะสถิติประยุกต์ สถาบันบัณฑิตพัฒน บริหารศาสตร์ (NIDA) โพสต์เฟซบุ๊ก วันก่อนคุยกับทูตของต่างประเทศที่ทำงานการข่าวในประเทศไทย ทูตห่วงว่าหากเกิดรัฐประหารในประเทศไทยจะกระเทือนความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ผมเลยกล่าวไปว่า หากเกิดรัฐประหาร นโยบายการต่างประเทศของไทยจะไม่เปลี่ยน ในทางตรงกันข้ามคณะรัฐประหารจะวิ่งเข้าหาชาติมหาอำนาจทุกชาติเพื่อแสวงหาการยอมรับจากนานาชาติ ซึ่งก็เป็นอย่างนี้มาตลอด ไทยเราดำเนินนโยบายต่างประเทศโดยเป็นมิตรไมตรีกับชาติมหาอำนาจทุกชาติ ไม่ว่าจะจีน สหรัฐอเมริกา รัสเซีย อย่างมีสมดุลมาโดยตลอด
ดร.อานนท์ เปิดใจคุยทูตตปท. ตอบสิ้นสงสัยรัฐประหาร ไม่กระทบดุลสัมพันธ์นานาชาติ เท่าก้าวไกลเป็นรัฐบาลพรรคเดียว
ข่าวที่น่าสนใจ
ผมเลยวิเคราะห์ให้ทูตต่างชาติที่ทำงานการข่าวฟังว่า สิ่งที่น่ากลัวคือหากพรรคก้าวไกลขึ้นมาเป็นรัฐบาลต่างหากที่จะกระทบดุลอำนาจของความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ พรรคก้าวไกลมีนโยบายการต่างประเทศที่สนับสนุนสหรัฐอเมริกาอย่างชัดเจน และค่อนข้างต่อต้านจีน ในขณะเดียวกันจีนเองก็แสดงท่าทีไม่พอใจกับนักการเมืองสายสีส้มมาหลายครั้งอย่างเปิดเผย หากพรรคก้าวไกลได้เป็นรัฐบาล ความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับอเมริกาจะแน่นแฟ้นขึ้นมาก ไทยจะเป็นประเทศที่เป็นมหามิตรกับสหรัฐอเมริกา และนโยบายการต่างประเทศของไทยจะตามสหรัฐอเมริกาอย่างใกล้ชิด น่าจะเป็นเช่นนั้น และความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับจีนอาจจะมีปัญหาและระหองระแหงได้ ไม่ต้องไปถึงว่ารัฐบาลไทยภายใต้การนำของพรรคก้าวไกล อาจจะทำเหมือนดูเออร์เต้ของฟิลิปปินส์ที่จะให้สหรัฐอเมริกาเข้ามาตั้งฐานทัพในประเทศไทย ซึ่งก็ไม่รู้ว่าถ้าพรรคก้าวไกลได้เป็นรัฐบาลพรรคเดียวเสียงข้างมากจะทำเช่นที่ว่านี้หรือไม่ และดุลอำนาจในเอเชียและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้จะเปลี่ยนไปมาก พม่านั้นจีนมีอิทธิพลสูงมากในเวลานี้ จีนมีอิทธิพลสูงมากในลาวและในกัมพูชา หากสหรัฐอเมริกาเข้ามามีอิทธิพลสูงมากในไทยเพราะพรรคก้าวไกลได้เป็นรัฐบาลเสียงข้างมากเพียงพรรคเดียว ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศต่างๆ ในกลุ่มอาเซียนจะเป็นเช่นไร ก็เป็นเรื่องที่น่าคิด
ผมสรุปปิดท้ายให้ทูตต่างชาติที่ทำการข่าวในประเทศไทยฟังว่า หากทหารทำรัฐประหารจริงในอนาคตอันใกล้ นโยบายการต่างประเทศจะแทบไม่เปลี่ยนไป ในทางตรงกันข้ามไทยอาจจะอลุ้มอล่วยมากยิ่งขึ้นเพื่อแสวงหาการยอมรับจากนานาชาติ แต่ถ้าพรรคก้าวไกลได้เป็นรัฐบาลเสียงข้างมากเพียงพรรคเดียว ดุลอำนาจของมหาอำนาจในความสัมพันธ์ระหว่างประเทศในภูมิภาคนี้จะเปลี่ยนแปลงไปอย่างสิ้นเชิง และจะส่งผลกระทบให้ประเทศต่างๆ ต้องปรับตัวอย่างรุนแรง และความไม่สงบอาจจะเกิดขึ้นในประเทศไทยและในภูมิภาคมากยิ่งขึ้น ทูตต่างชาติที่ทำงานด้านการข่าวสามคน ถึงกับเงียบไป คงไม่เคยวิเคราะห์ประเด็นนี้มาก่อน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง