แคลร์ โอ นีล รัฐมนตรีมหาดไทยออสเตรเลีย ระบุในแถลงการณ์ว่า รัฐบาลยกเลิกโครงการให้วีซ่านักลงทุนรายสำคัญ หรือ SIV หรือที่มักเรียกกันว่า โกลเดน วีซ่า อันเป็นส่วนหนึ่งของการปรับเปลี่ยนระบบการเข้าเมืองครั้งใหญ่ ซึ่งเห็นได้ชัดว่า ตลอดหลายปีที่ผ่านมา วีซ่าประเภทนี้ ไม่ได้ส่งมอบสิ่งที่ประเทศและเศรษฐกิจต้องการจากระบบเข้าเมือง
โกลเดน วีซ่า เป็นวีซ่าที่ให้สิทธิพำนักในประเทศนาน 5 ปี แก่ชาวต่างชาติที่ลงทุน 5 ล้านดอลลาร์ออสเตรเลียขึ้นไป โดยหวังจะช่วยดึงดูดการลงทุน และกระตุ้นนวัตกรรม โดยผู้ยื่นขอไม่จำเป็นต้องเรียนหรือพูดภาษาอังกฤษ และไม่มีเกณฑ์เรื่องอายุ นับจากเริ่มนำมาใช้ในปี 2555 ออสเตรเลียอนุมัติโกลเดนวีซ่าหลายพันราย โดย 85% เป็นผู้ยื่นขอวีซ่าจากจีน
วีซ่าแบบเดียวกันนี้ เผชิญกระแสวิจารณ์จากทั่วโลก ท่ามกลางข้อกล่าวหาว่า ถูกมหาเศรษฐีนำไปใช้ในทางที่ผิด และไม่ได้สร้างประโยชน์กับประเทศนั้น ๆ อย่างที่คาดหวัง โดยเฉพาะประเด็นสำคัญที่ว่า เงินทุนที่นำเข้าไป มักไปลงที่อสังหาริมทรัพย์ หรือสินทรัพย์ทางการเงิน แทนที่จะไปลงในภาคการผลิตของเศรษฐกิจ นอกจากนี้ ยังอาจเปิดช่องให้กับเจ้าหน้าที่ต่างชาติและสมาชิกแก๊งอาชญากรรม ที่แสวงหาที่เก็บเงินสกปรกในประเทศพัฒนาแล้ว
เมื่อเดือนที่แล้ว รัฐบาลพรรคแรงงานของออสเตรเลีย เผยยุทธศาสตร์การรับคนเข้าเมืองใหม่ที่ออกแบบมาเพื่อลดจำนวนคนเข้าเมือง ให้กลับไปอยู่ระดับก่อนหน้าโควิด-19 โดยจะเข้มงวดเรื่องวีซ่านักเรียนมากขึ้น และมุ่งเน้นการออกวีซ่าให้กับ ผู้อพยพมีฝีมือ เติมเต็มช่องว่างทางทางเศรษฐกิจ ผลการประเมินพบว่า วีซ่าที่มุ่งเน้นกลุ่มคนงานมีความรู้ความสามารถและนวัตกรรม จะช่วยดึงดูดผู้ประกอบการ นักลงทุน และนักวิจัยระดับโลก ขับเคลื่อนการเติบโตในภาคสำคัญ ทั้งยังมีส่วนสนับสนุนเศรษฐกิจ มากกว่าผู้ที่ใช้เงินซื้อวีซ่าเข้าประเทศ กว่า 3 แสนดอลลาร์
ภาพ pixabay