เมื่อวันที่ 22 ม.ค. 67 ทวิตเตอร์พรรคเพื่อไทย เผยแพร่ข้อมูลการตอบคำถาม 18 ข้อ เกี่ยวกับโครงการแลนด์บริดจ์ โดยนายดนุพร ปุณณกันต์ สส. บัญชีรายชื่อ และโฆษกพรรคเพื่อไทย ซึ่งมีรายละเอียด ดังนี้
เกี่ยวกับรายละเอียดโครงการ
1.โครงการแลนด์บริดจ์จะใช้ระยะเวลาในการขนส่งและงบประมาณเท่าไหร่
ตอบ : โครงการแลนด์บริดจ์ จะมีการบูรณาการรูปแบบการขนส่งเชื่อมโยงสองท่าเรือ และระบบขนส่งด้วยทางรถไฟและทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง ช่วยลดเวลาได้อย่างน้อยประมาณ 5 วัน โดยคาดว่าจะใช้งบประมาณรวมประมาณ 1 ล้านล้านบาท โดยเปิดให้เอกชนร่วมลงทุนกับภาครัฐ
2.อุตสาหกรรมที่จะพัฒนาเป็นอุตสาหกรรมประเภทใด
ตอบ : เป็นอุตสาหกรรมต่อเนื่องให้ประชาชนในพื้นที่ได้พัฒนาเพิ่มผลผลิตในพื้นที่ เช่น การแปรรูปยางพารา ปาล์มน้ำมัน อาหารทะเล ผลิตผลทางการเกษตรต่างๆ และหากอุตสาหกรรมใดที่จะส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมต้องมีการดำเนินการขออนุญาตตามที่กฎหมายกำหนด
3.สินค้าที่มาใช้บริการท่าเรือมีอะไรบ้าง มาจากที่ใด
ตอบ : สินค้ากลุ่มนำเข้า/ส่งออก จะมาจากทุกส่วนของประเทศ ไม่ว่าจะเป็นสินค้าเกษตร, ยางพารา, ปาล์ม, น้ำมัน, สินค้าฮาลาลโดยเน้นพัฒนาให้เป็นอุตสาหกรรมอาหารฮาลาลโลก, อุตสาหกรรม AI, และสินค้าผ่านแดน ที่มาจากการเชื่อม 2 ฝั่งทะเลและจีนตอนใต้
4.จะมีการสร้างโรงกลั่นน้ำมันหรือโรงแยกก๊าซหรือไม่
ตอบ : ในแผนพัฒนาโครงการ ไม่มี แต่หากเรือสินค้าที่เข้า-ออก มีความจำเป็นต้องเติมน้ำมัน ในผังแม่บทจะรองรับการก่อสร้างถังเก็บน้ำมันสำเร็จรูป ซึ่งเป็นหน้าที่ของผู้ประกอบการในอนาคต ที่ต้องขออนุญาตให้ถูกกฎหมายต่อไป
5.แลนด์บริดจ์เป็นโครงการขนาดใหญ่ที่มีความเกี่ยวข้องกับภาครัฐ ภาคธุรกิจหลายส่วน ทำให้เกิดความสับสนไม่ชัดเจน
ตอบ : แลนด์บริดจ์เป็นโครงการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านการคมนาคม หน่วยงานที่เกี่ยวข้องคือ สำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร, กรมทางหลวง และ การรถไฟแห่งประเทศไทย
เกี่ยวกับการดูแล รับฟัง เยียวยาประชาชน
6.จะแจ้งให้ชุมชนทราบก่อนจะมีการดำเนินการต่างๆ ในพื้นที่ เช่น การสำรวจพื้นที่ การปักหมุดที่ดิน หรือไม่
ตอบ : จะมีการแจ้งข้อมูลกิจกรรมต่างๆ ให้ผู้นำชุมชนในพื้นที่ได้รับทราบก่อนการดำเนินโครงการและกิจกรรมที่เกี่ยวข้อง
7.มาตรการในการชดเชยเยียวยากับผู้ได้รับผลกระทบ
ตอบ : โครงการจะแต่งตั้งคณะกรรมการกลาง เพื่อหาสาเหตุของปัญหา รวมทั้งการจัดการเรื่องการเยียวยา ซึ่งคณะกรรมการกลางมีตัวแทนมาจาก 3 ฝ่าย คือ เจ้าของโครงการ ภาครัฐ และภาคประชาชน