วันที่ 23 ม.ค.67 ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งว่า มีผู้เสียชีวิตทราบชื่อต่อมาคือ นายทินภัทร ภู่ยิ้ม อายุ 41 ปี อยู่บ้านเลขที่ 1/1 หมู่ 11 ต.ชนแดน อ.ชนแดน จ.เพชรบูรณ์ โดยญาติได้บริจาคอวัยวะให้แก่สภากาชาดไทย สามารถนำไปต่อชีวิตให้บุคคลอื่นได้อีกถึง 4 คน สภากาชาดไทย โดยโรงพยาบาลเพชรบูรณ์ ได้มอบประกาศเกียรติคุณและหรีดเคารพศพ ขณะนี้ญาติได้นำศพมาตั้งบำเพ็ญกุศลทางศาสนา ที่วัดคลองห้วยนา หมู่ 11 ต.ชนแดน ผู้สื่อข่าวจึงเดินทางไปตรวจสอบ พบว่า ญาติได้นำศพมาตั้งบำเพ็ญกุศลไว้ที่ศาลาวัดดังกล่าวและกำลังประกอบพิธีสวดพระอภิธรรมศพโดยมีญาติ ๆ และชาวบ้านมาร่วมฟังพระสวดจำนวนหนึ่ง นางสาวนิตยา ภู่ยิ้ม อายุ 38 ปี น้องสาวของผู้เสียชีวิต เปิดเผยว่า นายทินภัทร ภู่ยิ้ม เป็นหนุ่มโสดไม่มีครอบครัว อาศัยอยู่กับพ่อ โดยประกอบอาชีพเป็นลูกจ้างโรงงานแห่งหนึ่งในอำเภอชนแดน และพักอยู่กับเพื่อนๆ ที่ทำงานอยู่ในโรงงานเดียวกัน
กุศลครั้งใหญ่ หนุ่มสมองตายเสียชีวิต ญาติบริจาคอวัยวะมอบชีวิตใหม่ให้ผู้ป่วยที่รอคอย
ข่าวที่น่าสนใจ
ก่อนเสียชีวิตเมื่อวันที่ 21 ม.ค.2567 นายทินภัทร บอกเพื่อนๆ ว่ามีอาการปวดหัว จึงขอกลับไปนอนที่ห้องพัก กระทั่งเลิกงานเพื่อนกลับมาที่ห้องก็พบว่า นายทินภัทรได้นอนคว่ำหน้าสมดสติอยู่ภายในห้อง จึงรีบนำตัวส่งโรงพยาบาลชนแดนและส่งต่อมายังโรงพยาบาลเพชรบูรณ์ โดยแพทย์ได้พบว่า เส้นเลือดในสมองส่วนท้ายแตกทำให้มีเลือดคั่ง ส่งผลให้เกิดภาวะสมองตาย ซึ่งในทางการแพทย์ถือว่า เสียชีวิตแล้ว ตนและครอบครัวจึงปรึกษากันว่า จะบริจาคอวัยวะให้สภากาชาดไทย เพื่อนำไปช่วยเหลือผู้ป่วยรายอื่น เพราะตนและครอบครัวได้เห็นพ้องกันว่า อวัยวะของน้องชาย หากเผาทิ้งไปก็จะเปล่าประโยชน์ หากนำไปช่วยต่อชีวิตผู้อื่นได้ก็จะถือว่าเป็นกุศลอันยิ่งใหญ่ จึงแจ้งไปยังหมอที่รักษาว่า ต้องการบริจาคอวัยวะ ผลปรากฏว่า สามารถบริจาคไต 2 ข้าง กระจกตา 2 ข้าง โดยสามารถนำไปช่วยผู้ป่วยรายอื่นได้อีกถึง 4 ชีวิต และจากการบริจาคอวัยวะนี้เชื่อว่า ผลบุญในครั้งนี้จะส่งให้ดวงวิญญาณของน้องชายไปสู่สัมปรายภพและภพภูมิที่ดี
ด้านนางชไมพร ศรีทอง พยาบาลวิชาชีพ หัวหน้าศูนย์รับบริจาคอวัยวะโรงพยาบาลเพชรบูรณ์เปิดเผยว่าคนไข้รายนี้มาด้วยอาการมีเลือดออกในสมองส่วนท้าย ต่อมามีอาการสมองตายจึงแจ้งให้ญาติทราบ ซึ่งญาติก็ได้สอบถามและแจ้งความประสงค์ที่จะบริจาคอวัยวะของคนไข้เพื่อนำไปช่วยเหลือผู้อื่น
โรงพยาบาลเพชรบูรณ์ซึ่งที่ผ่านมาสามารถผ่าตัดได้เพียงกระจกตาเท่านั้น แต่ในครั้งนี้มีความพร้อมทั้งทางด้านเครื่องมือและแพทย์ผู้เชี่ยวชาญจึงสามารถผ่าตัดอวัยวะต่าง ๆ ที่ญาติตนไข้ประสงค์ที่จะบริจาค ซึ่งในครั้งนี้ถือว่าเป็นครั้งแรกที่สามารถผ่าตัดไตได้โดยได้ไต 2 ข้าง กระจกตา 2 ข้าง สามารถนำไปช่วยเหลือผู้ป่วยรายอื่นได้อีกถึง 4 รายด้วยกัน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง