ตั้งวงกินเหล้าก่อนกระหน่ำแทงในงานศพขี่จักรยานหนี พบเสียชีวิตข้างถนน

หนุ่มใหญ่วัย 53 นั่งดื่มเหล้าขาวกับคนจร บนศาลาข้างเมรุเผาศพของทางวัด หลังเมาได้ที่เกิดพูดจาไม่เข้าหูใส่กัน หนุ่มคนจรคว้ามีดออกมากระหน่ำแทง หนุ่มใหญ่ถึง 5 แผล ก่อนที่หนุ่มใหญ่จะรีบขี่รถจักรยานหนีตายกลับบ้านพัก แต่ก็สิ้นลมระหว่างทาง ส่วนมือแทงหลังก่อเหตุเดินหนีไปขอความช่วยเหลือวัดใกล้เคียง แต่สุดท้ายถูกซ้อนแผน พากลับมาให้เจ้าหน้าตำรวจควบคุมตัว

เวลาประมาณ 18.00 น. วันที่ ( 24 ม.ค.67 ) ร.ต.อ.ปรัชญา นุรารักษ์ รอง.สว.(สอบสวน)สภ.บ้านโพธิ์ รับแจ้งเหตุมีคนถูกแทงเสียชีวิตนอนตายข้างถนนสายลาดบัว หลังโรงเรียนวัดลาดบัว ม.4 ต.คลองขุด อ.บ้านโพธิ์ จ.ฉะเชิงเทรา จึงรายงานให้ พ.ต.ท.ธีรณัฏฐ์ สังขะวิไล รอง.ผกก.ป.สภ.บ้านโพธิ์ พร้อมประสาน พฐ. และเจ้าหน้าที่กู้ภัยฉะเชิงเทรา ร่วมเดินทางตรวจสอบที่เกิดเหตุ  ที่เกิดเหตุจุดแรกบริเวณศาลาข้างเมรุเผาศพ วัดลาดบัว ซึ่งเป็นจุดทำร้ายแทงกัน เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน พบกองเลือดหลายจุดบนศาลา ก่อนจะรับทราบข้อมูลว่าผู้เสียชีวิตโดนแทงบริเวณจุดนี้ และขี่รถจักรยานหนีตาย ไปตายอยู่ถนนสายลาดบัว หลังโรงเรียนวัดลาดบัว ส่วนผู้ก่อเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถควบคุมตัวได้ในเวลาต่อมา จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้เดินทางไปยังจุดที่พบศพ บริเวณข้างทางพบร่างผู้เสียชีวิต ทราบชื่อต่อมาคือนายรังสรรค์ บุญมี อายุ 53 ปี หรือตาแหง๋ ถูกอาวุธมีดแทงบริเวณสีข้างซ้าย หน้าอก ขาขวา และเหนือหัวเข่าขวา รวม 5 แผล นอนเสียชีวิต ใกล้ๆกับรถจักรยานของผู้ตาย จากการตรวจสอบทราบว่าผู้ก่อเหตุ เป็นชายเร่ร่อน ที่เพิ่งจะมาอาศัยขอนอนอยู่ที่วัดได้ไม่นาน ทราบชื่อต่อมาคือนายสุพจน์ เตียวหยิน อายุ 50 ปี หรืออ้วน หลังก่อเหตุได้เดินหลบหนีไป ก่อนจะถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจซ้อนแผนควบคุมตัวได้ในที่สุด และนำตัวไปสอบสวนเพิ่มเติมที่สถานีตำรวจภูธรบ้านโพธิ์

ข่าวที่น่าสนใจ

นายบรรจง เจริญรัตน์ อายุ 48 ปี ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 4 ต.คลองขุด เปิดเผยว่า ขณะเกิดเหตุช่วงเย็นวันนี้ ที่วัดมีงานศพที่เผาอยู่ข้างเมรุ หลังจากแขกที่มาภายในงานทยอยกลับกันหมดแล้ว นายอ้วน มือแทง ได้นั่งกินข้าวอยู่บนศาลาข้างเมรุ ซึ่งเป็นที่ประจำ ที่มักนั่งกินเหล้าอยู่กับ ตาแหง๋ นายอ้วน มือแทง เพิ่งจะมาขอพักอาศัยอยู่ที่นัดได้ไม่นาน และมักตั้งวงดื่มเหล้าขาวกับตาแหง๋ ตอนเกิดเหตุไม่มีใครอยู่ในเหตุการณ์จึงไม่รู้สามารถที่ทั้งสองทะเลาะกัน แต่คาดว่าทั้งสองหน้าจะอยู่ในอาการมึนเมา พูดจาไม่เข้าหูกัน นายอ้วน จึงชักมีดออกมากระหน่ำแทง ตาแหง๋ ตอนนั้นตาแหง๋ ยังไม่เสียชีวิต จึงรีบขี่รถจักรยานหนีตายเพื่อกลับบ้านพัก ก่อนจะนั่งค่อมรถจักรยานอยู่ข้างถนนสายลาดบัว ทางที่กลับบ้านตาแง๋ ส่วนนายอ้วน หลังก่อเหตุก็ได้เดินหนีไปที่วัดราษฏร์ศรัทธาธรรม ห่างจากวัดลาดบัว ประมาณ 5 กิโลเมตร เพื่อไปขอพักอาศัยที่วัดแห่งนั้น แต่ทางวัดไม่อนุญาตให้พัก จึงสอบถามว่าบ้านอยู่ที่ไหน จะให้คนขับรถที่วัดพาไปส่ง โดยนายอ้วน ได้บอกว่าบ้านอยู่แถววัดทดราษฏร์เจริญมณีฤทธิ์ ต.บางไผ่ อ.เมืองฉะเชิงเทรา ซึ่งขณะที่คนขับรถของวัดราษฏร์ฯ กำลังขับรถไปส่งนายอ้วน ก็ได้รับทราบข้อมูลจากการประชาสัมพันธ์ระหว่างหมู่บ้าน ว่ามีคนร้ายแทงคนในวัดเสียชีวิต ขณะนี้กำลังหลบหนีอยู่ ซึ่งรูปพรรณคนร้ายคือนายอ้วน ที่อยู่ในรถ คนขับรถจึงได้ออกอุบายว่าลืมของไว้ที่วัด จะขอวกรถกลับไปเอา ซึ่งขณะนั้นได้ประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจเอาไว้แล้ว เมื่อรถวนกลับเข้ามาในวัด เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงเข้าไปควบคุมตัว นายอ้วน มือแทงได้สำเร็จ

นางวันเพ็ญ พุ่มเจริญ อายุ 61 ปี แม่ค้าร้านขายของชำข้างจุดพบศพ เปิดเผยว่า ตาแหง๋ ผู้ตายมักจะไปกินข้าว ตั้งวงกินเหล้าขาวที่วัดอยู่เป็นประจำ ขณะเกิดเหตุช่วงเวลาประมาณ 5 โมงกว่า เห็นผู้ตายขี่รถจักรยานผ่านหน้าร้านของตนไป จนมีคนตะโกนบอก ว่าตาแหง๋รถล้ม เมื่อวิ่งออกมาจากร้านก็เห็นตาแหง๋ นั่งค่อมรถจักรยานอยู่ จึงได้ช่วยกันนำตาแหง๋ ลงมาจากรถเอามานอนข้างทาง ก่อนจะเข็นจักรยานแอบ และโทรศัพท์แจ้งเจ้าหน้าที่กู้ภัยให้มาช่วยเหลือเพราะคิดว่าเลือดที่ไหลออกมาเกิดดจากแผลรถล้ม จนมาทราบจากผู้ใหญ้บ้านว่าตาแหง๋ ถูกนายอ้วน หนุ่มพเนจรที่เพิ่งมาอาศัยอยู่ที่วัดแทง จนเสียชีวิต เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ส่งร่างนายรังสรรค์ หรือตาแหง๋ ไปผ่าชันสูตรอย่างละเอียด ที่นิติเวช โรงพยาบาลตำรวจ ก่อนจะมอบร่างให้ญาติผู้เสียชีวิต นำไปประกอบพิธีทางศาสนา ส่วนนายสุพจน์ หรือนายอ้วน มือแทง เจ้าหน้าที่จะได้ทำการสอบสวนอย่างละเอียดอีกครั้ง ถึงสาเหตุของการก่อเหตุ ก่อนดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

 

ภาพ/ข่าว ก้องเกียรติ พุทธิรังสิมาภรณ์ ผู้สื่อข่าว ประจำ จ.ฉะเชิงเทรา

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

“เอกภพ” ได้ประกันตัว ปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา ปมให้ข้อมูลเท็จดิไอคอน จ่อฟ้องกลับ
สามเชฟดังร่วมรังสรรค์เมนูเพื่อการกุศลทางการแพทย์
"ทนายบอสพอล" เผยเป็นไปตามคาด "เอก สายไหม" ถูกจับ จ่อดำเนินคดีหมิ่นประมาท เรียกค่าเสียหาย 100 ล้าน
ศาลออกหมายจับ 'เจ๊หนิง' พร้อมสามีและหลาน ร่วมกันแจ้งความเท็จ 'ภรรยาบิ๊กโจ๊ก'
อิสราเอลถล่มเลบานอนดับครึ่งร้อย
หมายจับ ICC กระทบอิสราเอลอย่างไร
เปิดวิสัยทัศน์ประธานเครือข่ายธุรกิจ Bizclub นครราชสีมาคนใหม่ “กิม ฐิติพรรณ จันทร์ประทักษ์”
เกาหลีใต้ชี้รัสเซียส่งระบบป้องกันภัยทางอากาศให้เกาหลีเหนือ
สหรัฐเมินไฮเปอร์โซนิครัสเซียลั่นไม่หยุดหนุนยูเครน
เมียเอเย่นต์ค้ายาบ้า ร้องถูกตร.รีด 5 แสน แลกปล่อยตัว พ่วงเรียกเก็บเงินรายเดือน

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น