สำนักข่าวรอยเตอร์และ CNN รายงานโดยอ้างข้อมูลจากเจ้าหน้าที่สหรัฐที่ไม่เปิดเผยชื่อว่า รัฐบาลสหรัฐได้มีการส่งข้อความไปถึงนายฟูอัด ฮุสเซน รัฐมนตรีต่างประเทศของอิรักว่า สหรัฐยินดีที่จะเจรจาเกี่ยวกับเรื่องกองทหารของตัวเองในระยะต่อไป โดยจะร่วมหารือเกี่ยวกับลำดับเวลา เพื่อยุติการส่งกำลังทหารสหรัฐ ไปประจำการในอิรัก หลังจากที่ดำเนินการเรื่องนี้มานานนับสิบๆปี ขณะที่ฮุสเซนก็ได้กล่าวในเวลาต่อมาว่า ตนได้รับข้อความสำคัญจากทูตสหรัฐ ซึ่งในเรื่องนี้ จะต้องมีการศึกษาโดยนายกรัฐมนตรีและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่อไป
ทั้งนี้ อิรักยังคงมีทหารสหรัฐรักษาการอยู่ประมาณ 2,500 นาย ซึ่งเหลือจากการส่งกำลังประจำการ ตั้งแต่เมื่อครั้งต่อสู้กับกลุ่มไอเอส เมื่อปี 2014 โดยทหารเหล่านี้ รับหน้าที่ให้การเป็นที่ปรึกษาให้กับกองทหารอิรัก ซึ่งถึงแม้สหรัฐจะประกาศยุติปฏิบัติการสู้รบในปี 2021 แต่ทางกองทัพก็ยังคงปฏิบัติภารกิจติดอาวุธหลายสิบครั้ง ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา และส่วนใหญ่จะมุ่งเป้าไปที่กลุ่มติดอาวุธ ที่ได้รับการสนับสนุนจากอิหร่าน
CNN รายงานต่อว่า ส่วนหนึ่งของการหารือที่กำลังจะมีขึ้นนั่นคือ จะมุ่งเน้นไปที่ความสามารถในการยุติการมีอยู่ของกองทัพสหรัฐในอิรัก ว่าจะเป็นไปได้หรือไม่และจะเกิดขึ้นเมื่อใด ในขณะที่รอยเตอร์ก็รายงานว่า สหรัฐได้ผ่อนคลายจุดยืนในประเด็นนี้ และยกเลิกเงื่อนไขที่ก่อนหน้านี้ เคยระบุไว้ว่า สหรัฐจะถอนตัว ก็ต่อเมื่อการโจมตีโดยกองกำลังติดอาวุธ ที่ได้รับการสนับสนุนจากอิหร่านนั้น สิ้นสุดลง ซึ่งอย่างไรก็ดี ขณะนี้ในอิรัก ได้มีการเรียกร้องให้กองทหารสหรัฐ ออกนอกประเทศเร็วขึ้นแล้ว ด้วยการกำหนดกรอบเวลาที่ชัดเจนในการถอนตัว ซึ่งการเจรจากับสหรัฐนั้น อาจต้องใช้เวลาอยู่หลายเดือน
ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีโมฮัมเหม็ด ชีอา อัล-ซูดานี แห่งอิรัก ได้เคยกล่าวไว้เมื่อช่วงต้นเดือนที่ผ่านมาว่า ตนจะเริ่มกระบวนการ ยุติการมีอยู่ของกองกำลังพันธมิตรระหว่างประเทศในอิรักอย่างถาวรแล้ว โดยอัล-ซูดานี ได้ประณามการโจมตีทางอากาศของสหรัฐ ที่เกิดขึ้นในอิรักหลายครั้ง ในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งสหรัฐระบุว่า เป็นการโจมตีกลุ่มติดอาวุธที่อิหร่านสนับสนุน โดยอัล-ซูดานีได้ชี้ว่า การโจมตีดังกล่าว เป็นการคุกคามเสถียรภาพของภูมิภาค และสหรัฐกำลังบ่อนทำลายข้อตกลงในภาคส่วนต่างๆ ของความร่วมมือด้านความมั่นคงร่วมกัน จึงมีความจำเป็นที่จะต้องมีการปรับเปลี่ยนความสัมพันธ์ในอนาคตกับสหรัฐได้แล้ว