หลังจากศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ (หรือ ICJ) ได้พิจารณาคดีที่แอฟริกาใต้ยื่นฟ้องอิสราเอล ละเมิดอนุสัญญาฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ โดยทาง ICJ ได้สั่งให้อิสราเอลดำเนินการทุกมาตรการเพื่อไม่ให้เกิดการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ แต่ไม่ได้มีการสั่งให้หยุดแต่อย่างใดนั้น ได้ทำให้ชาวปาเลสไตน์ระบุว่า ศาลโลกทำให้พวกเขาผิดหวัง ที่ไม่มีคำสั่งให้ยุติการโจมตีของกองทัพอิสราเอลในฉนวนกาซา แต่การดำเนินคดีดังกล่าว ก็ถือเป็นชัยชนะซึ่งสร้างแรงบันดาลใจให้เกิดความหวังว่า จะมีความรับผิดชอบเกิดขึ้น
ข่าวที่น่าสนใจ
นายกรัฐมนตรีโมฮัมหมัด ชไตเยห์ แห่งปาเลสไตน์ ได้ออกมาระบุว่า ชาวปาเลสไตน์มีความคาดหวังว่า คำตัดสินดังกล่าว จะรวมถึงการหยุดยิงทันที แต่การตัดสินใจดังกล่าวก็ถือเป็นการยืนยันถึงการสิ้นสุดในยุคสมัยของอิสราเอล และทำให้อิสราเอลกลายเป็นอาชญากรสงคราม ขณะที่นายมุสตาฟา บาร์กูตี นักการเมืองชาวปาเลสไตน์ได้กล่าวว่า การยอมรับของ ICJ ต่อคดีนี้ หมายถึงการนำอิสราเอลขึ้นศาล ในข้อหาก่ออาชญากรรมเป็นครั้งแรก
ด้านประชาชนแห่งเมืองรามัลเลาะห์ ในเขตเวสต์แบงก์ของปาเลสไตน์ ได้ระบุว่า เป็นเรื่องที่ยอมรับไม่ได้ที่โลกยังคงนิ่งเงียบ กับการเฝ้าดูอยู่นานกว่า 112 วัน โดยไม่ได้ตัดสินใจให้มีการหยุดยิงทันที คำตัดสินดังกล่าวเป็นไฟเขียวให้อิสราเอล ทำสงครามกับฉนวนกาซาต่อไป ICJ จำเป็นต้องมีคำตัดสินที่เรียกร้องให้มีการหยุดยิงทันที เรามองโลกในแง่ดีกันมามาก แต่ตอนนี้เราไม่มีความสุข เรารู้สึกว่าศาลน่าจะเรียกร้องให้มีการหยุดยิงอย่างชัดเจน นอกเหนือไปจากการอำนวยความสะดวกในการให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม ในฉนวนกาซา
ขณะเดียวกัน ที่ศูนย์พักพิงสำหรับผู้พลัดถิ่นในเมืองราฟาร์ ทางตอนใต้ของฉนวนกาซา นายมุสตาฟา อิบราฮิม นักเคลื่อนไหวด้านสิทธิมนุษยชน ซึ่งปัจจุบันอาศัยอยู่ที่นี่กับสมาชิกครอบครัวอีก 7 คน ได้กล่าวว่า พวกเรา ผู้พลัดถิ่น ครอบครัวผู้สูญเสียทั้งบ้านและสมาชิก มีความต้องการที่จะเห็นศาล เรียกร้องให้มีการหยุดยิงทันที อย่างไรก็ดี สิ่งที่เกิดขึ้นก็ถือเป็นชัยชนะได้เช่นกัน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
