ความคืบหน้าคดีการจับกุม นายศรีสุวรรณ จรรยา ผู้นำองค์กรรักชาติ รักแผ่นดิน หรือ นักเคลื่อนไหวชื่อดัง พร้อมเงินสดที่เก็บเอาในบ้านพัก 1 ล้านบาท , นายยศวริศ ชูกล่อม หรือเจ๋ง ดอกจิก ประธานกลุ่มรวมใจรักชาติ หนึ่งในคณะทำงานเขตราชการที่ 11 และอดีตผู้สมัครสส.หญิงคนหนึ่ง เมื่อวันที่ 26 ม.ค.67 ในคดีที่ถูกอธิบดีคนหนึ่ง กล่าวหาว่า ร่วมกันข่มขู่เรียกเงินจำนวน 3 ล้านบาท ก่อนจะเจรจาต่อรองเหลือเพียง 1.5 ล้านบาท เพื่อแลกการยุติเรื่องร้องเรียน เมื่อวันที่ 26 ม.ค.67 ที่ผ่านมา โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจ ให้ประกันตัวผู้ต้องหาทั้ง 3 คนไปในวงเงินคนละ 400,000 บาทนั้น
เปิดใจ ภรรยาบิ๊กกรมการข้าว เผยเครียดทุกข์มานาน หลังถูกก๊วน "ศรีสุวรรณ" ตบทรัพย์รีดเงิน
ข่าวที่น่าสนใจ
ล่าสุด เมื่อวันที่ 27 ม.ค. นางธัญญรัตน์ ไชยศิริคุณากร อายุ 49 ปี ภรรยาของนายณัฏฐกิตติ์ ของทิพย์ อธิบดีกรมการข้าว ผู้เสียหายในคดี เปิดเผยเกี่ยวกับกรณีที่เกิดขึ้นว่า นับตั้งแต่สามีเข้ามารับตำแหน่งอธิบดีกรมการข้าว ก็ถูกกลุ่มผู้ต้องหาร้องเรียนมาโดยตลอด เกือบทุกเรื่องที่เกี่ยวกับกรมการข้าว ทั้งๆที่เคยชี้แจงไปแล้วว่า เรื่องที่ร้องเรียนเหล่านั้นไม่เป็นความจริง จึงรู้สึกว่าไม่ยุติธรรม
นางธัญญรัตน์ กล่าวต่อไปว่า แม้สามีตนจะพยายามชี้แจงอธิบายข้อเท็จจริงให้กลุ่มของนายศรีสุวรรณทราบ พร้อมยินดีให้ตรวจสอบ แต่ก็ไม่เป็นผล เพราะกลุ่มผู้ก่อเหตุ ยังคงพยายามพูดเกลี่ยกล่อมให้ยอมจ่ายเงินเพื่อแลกกับการยุติการร้องเรียนเช่นเดิม โดยอ้างเหตุผลว่า “ยอมจ่ายๆไปจะดีกว่า จะเป็นเรื่องจริงหรือเรื่องเท็จไม่ใช่สาระสำคัญ กว่าจะตรวจสอบพิสูจน์ความจริงได้ใช้เวลาประมาณ 2-3 ปี ถึงตอนนั้นก็กลายเป็นข่าวเผยแพร่ตามสื่อต่างๆเสื่อมเสียชื่อเสียงไปแล้ว มันไม่คุ้มหรอก คุณนายยอมจ่ายๆไปเถอะทุกอย่างจะได้จบ อย่างน้อยก็ถือว่าเอาไว้เป็นพวกกัน”
“ส่วนตัวเชื่อว่า มีการทำกันเป็นขบวนการ เพราะในข่วงที่มีการเจรจาต่อรองเงินกัน พวกเขามักจะพูดเสมอว่า ลดราคาให้ได้เท่านี้จริงๆ เพราะทีมงานมีหลายคนต้องไปแบ่งกัน ทั้งทีมส่งข่าว ทีมทำเอกสาร และอีกหลายๆทีม คุณนายไม่ต้องรู้รายละเอียดพวกนี้หรอก แค่จ่ายเงินมาส่วนที่เหลือจะจัดการเคลียร์เอง นอกจากนี้ ยังมีการยกตัวอย่างเคสก่อนๆของบุคคลอื่นในอดีตมาขู่ในลักษณะทำนองว่า ถ้าจ่ายเงินให้ก็จบปัญหา จึงเชื่อว่านอกจากสามีเราแล้วน่าจะยังมีบุคคลอื่นถูกกระทำในลักษณะเช่นเดียวกันอีก” ภรรยาอธิบดีกรมการข้าวระบุ
นางธัญญรัตน์ กล่าวทิ้งท้ายว่า ตลอดระละเวลาที่เกิดเรื่องขึ้น รู้สึกเป็นทุกข์ และเครียดมาโดยตลอด ไม่รู้จะทำอย่างไร เพราะไม่เคยเจออะไรแบบนี้ จนกระทั่งมาฉุกคิดได้ว่า เมื่อเราไม่ผิดทำไมไม่ลุกขึ้นมาสู้ เพื่อปกป้องศักดิ์ศรีของตนเอง หรือสู้ให้คนอื่นรู้ว่าความจริงยังมีอยู่ อีกทั้งหากปล่อยให้มีคนแบบนี้อยู่ในสังคมต่อไป แล้วประเทศชาติจะเดินหน้าต่อไปอย่างไร จึงทำให้ตนมีพลังตัดสินใจลุกขึ้นมาต่อสู้จนนำมาสู่ความจริงที่ปรากฎในวันนี้.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง