นักเคลื่อนไหวและคนรักสัตว์ราว 300 คน ออกมาชุมนุมกันที่หน้า ปลาซา เม็กซิโก สนามสู้วัวกระทิงใหญ่สุดในโลก กลางกรุงเม็กซิโก ซิตี้ เมืองหลวงของเม็กซิโก ในวันอาทิตย์ (28 มกราคม)ตามเวลาท้องถิ่น ก่อนการสู้วัวกระทิงจะกลับมาเริ่มขึ้นอีกครั้ง หลังพักไปนานกว่า 1 ปีครึ่ง นักเคลื่อนไหวบางคนตะโกนว่า “ฆาตกร” “สนามแข่งจงพินาศ” อีกส่วนตีกลอง หรือยืนถือป้ายมีข้อความแรงๆว่า “สู้วัวกระทิงคือพวกซาดิสม์” หรือ “ซาดิสม์ในคราบวัฒนธรรม กีฬาและประเพณี” การประท้วงส่วนใหญ่เป็นไปโดยสงบ แต่มีบางช่วงที่เกิดความตึงเครียด เมื่อผู้ประท้วงปาขวดน้ำและก้อนหินใส่ตำรวจ
ขณะที่ด้านในสนามความจุ 5 หมื่นที่นั่ง บรรยากาศเต็มไปด้วยความครึกครื้น โฆเซลีโต อาดาเม มาทาดอร์ชื่อดังเดินเข้าสู่สนามคนแรก ฝูงชนส่งเสียงเชียร์กระหึ่มต้อนรับการกลับมาของ “เฟียสตา บราวา” คำสเปนที่แปลว่าการสู้วัวกระทิง บ้างตะโกนว่า เสรีภาพจงเจริญ ขณะที่ วัวกระทิง 6 ตัวที่ถูกส่งมาแข่งในวันอาทิตย์ ถูกฆ่าตายทั้งหมด
การสู้วัวกระทิง ยังอนุญาตให้จัดขึ้นในรัฐส่วนใหญ่ของเม็กซิโก ส่วนในเมืองหลวง เม็กซิโกซิตี้ การต่อสู้ทางกฎหมายพลิกไปพลิกมา เมื่อเดือนพฤษภาคม 2565 ศาลในเม็กซิโกซิตี้ มีคำสั่งให้ยุติกิจกรรมสู้วัวกระทิง ที่ปลาซา เม็กซิโก ตามที่องค์กรพลเรือนแห่งหนึ่งร้องขอให้ออกคำสั่งคุ้มครองชั่วคราว ระหว่างการพิจารณาคำร้องที่ขอให้ยกเลิกถาวร ฐานละเมิดสวัสดิภาพสัตว์และสิทธิในการมีสภาพแวดล้อมที่ดีของประชาชน แต่การจัดสู้วัวกระทิงกลับมาจัดได้อีกครั้งในวันอาทิตย์ที่ 28 มกราคม เนื่องจากศาลสูง เพิกถอนคำสั่งระงับเมื่อเดือนธันวาคม 2566 ในระหว่างที่การพิจารณาคดียังไม่ได้ข้อยุติว่า การสู้วัวกระทบสวัสดิภาพสัตว์อย่างไรหรือไม่
เกษตรกรเลี้ยงสัตว์ นักธุรกิจและผู้สนับสนุน ยืนยันว่าการสั่งห้ามสู้วัวกระทิง กระทบสิทธิของพวกเขาเช่นกัน และทำให้คนหลายหมื่นในแวดวงเสี่ยงตกงาน พร้อมอ้างว่ากิจกรรมนี้สร้างรายได้ให้ประเทศ 400 ล้านดอลลาร์สหรัฐต่อปี ด้านสมาคมผู้เพาะพันธุ์วัวกระทิงในเม็กซิโกประเมินว่าการสู้วัวกระทิง สร้างงานโดยตรง 8 หมื่นตำแหน่ง งานทางอ้อมอีก 1 แสน 4 หมื่น 6,000 ตำแหน่ง