ตร.เปิดสาเหตุ นักเรียนแทงเพื่อนม.2 เสียชีวิต จ่อนำตัวส่งศาลเยาวชน

ตำรวจ สน.คลองตัน เผยชนวนเหตุ นร.แทงกันดับ เหตุท้าทายไปมา

ตำรวจ สน.คลองตัน เผยชนวนเหตุที่ทำให้เยาวชนคนหนึ่งก่อเหตุใช้มีดแทงเยาวชนอีกคน โดยสาเหตุมาจากพูดจาท้าทายกันไปมา และยังไม่พบข้อมูลว่า เยาวชนที่ก่อเหตุเป็นเด็กพิเศษหรือไม่ โดยเตรียมนำตัวส่งศาลเยาวชนในพรุ่งนี้

พ.ต.อ.วชิรากรณ์ วงบุญ ผู้กำกับการ สน.คลองตัน เปิดเผยภายหลังสอบปากคำพ่อแม่เยาวชนและตัวของเยาวชนที่ก่อเหตุเบื้องต้นว่า กรณีที่มีการตั้งข้อสังเกตว่า เยาวชนคนนี้เป็นเด็กพิเศษหรือไม่นั้น จากการพูดคุยสอบถามกับตัวเยาวชนผู้ก่อเหตุด้วยตัวเอง ยังไม่พบว่า มีลักษณะเป็นเด็กพิเศษ ยังพูดคุยรู้เรื่องปกติ ส่วนพ่อแม่เด็ก ไม่ได้ให้ข้อมูลว่า เป็นเด็กพิเศษ ส่วนเรื่องการบูลลี่ยังไม่ได้สอบปากคำ ส่วนสาเหตุในการลงมือก่อเหตุนั้น ตัวเยาวชนได้อ้างว่า มีการท้าทายกันไปมา แต่จะท้าทายกันเรื่องอะไรนั้น ตำรวจยังสอบปากคำไม่จบสิ้น

ข่าวที่น่าสนใจ

และกรณีที่เพื่อนร่วมชั้นให้ข้อมูลว่า เยาวชนผู้ก่อเหตุเป็นคนเก็บกด หรือมักโดนกลั่นแกล้งเป็นประจำ ยังไม่มีข้อมูลยืนยันชัดเจน ซึ่งต้องรอผู้เชี่ยวชาญมาร่วมสอบปากคำและตรวจสอบสภาพจิตใจต่อไป ขณะนี้ ทางเจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อหาเยาวชนที่ก่อเหตุในข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาและพกพาอาวุธมีด โดยหลังสอบปากคำจะส่งตัวเยาวชนไปตรวจสอบหาอาการทางจิต และในวันพรุ่งนี้จะส่งตัวไปยังศาลเยาวชนและครอบครัวกลาง

ต่อมาทางคุณแม่ของน้องเยาวชนที่ถูกแทงจนเสียชีวิต ได้เดินทางมาที่ สน.คลองตัน โดยตัวของคุณแม่ยังอยู่ในอาการโศกเศร้าที่ต้องสูญเสียลูกชาย และมีอาการคล้ายจะเป็นลมเดินไม่ไหว สื่อมวลชนพยายามเข้าไปสอบถามคุณแม่ ซึ่งได้บอกว่า ลูกชายไม่เคยพูดถึงเยาวชนที่ก่อเหตุ และลูกชายไม่เคยไม่เคยมีปัญหากับใครในโรงเรียน เมื่อเช้าก็เพิ่งเดินทางไปส่งน้องที่โรงเรียนตามปกติ ตัวน้องไม่มีปัญหากับใคร แต่มารู้อีกทีคุณครูที่โรงเรียนโทรศัพท์มาบอกว่า น้องมีอาการไม่ดีและเสียเลือดมาก จนมาทราบว่าลูกชายเสียชีวิตแล้ว

มีรายงานเพิ่มเติมว่า บรรดาผู้ปกครองที่มารอรับบุตรหลาน ส่วนใหญ่ไม่มีความมั่นใจถึงมาตรการการรักษาความปลอดภัยและมาตรการการป้องกันเหตุทะเลาะวิวาทของนักเรียน โดยเฉพาะกลุ่มเด็กหัวโจกที่มักจะก่อเรื่องในโรงเรียนอยู่เป็นประจำที่มีการคบหากับรุ่นพี่ที่จบไปแล้ว ซึ่งรุ่นพี่มักจะชักชวนให้รุ่นน้องในโรงเรียนกระทำสิ่งที่ผิดกฎหมาย หรือพกพาสิ่งของผิดกฎหมายเข้ามาในโรงเรียน โดยผู้ปกครองส่วนใหญ่เอือมระอา แต่ก็ไม่สามารถทำอะไรได้

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

"อดีตสว.สมชาย" แฉโพย ฮั้วเลือกสว. ชี้เป็นหลักฐาน ดีเอสไอ เร่งนำลากไส้ตัวการใหญ่
‘ทักษิณ’ ปลื้มลงพื้นที่นราธิวาส ในรอบ 19 ปี ปชช.รอต้อนรับ
นายกฯ รับรายงาน ตร.ไทย-กัมพูชา ร่วมมือทลายแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ฝั่งปอยเปต ช่วยเหยื่อคนไทยนับร้อย หลุดพ้น
“เทพไท” เชื่อ 44 อดีตสส.ก้าวไกล ลงชื่อรื้อ แก้ 112 ถูกตัดสิทธิ์ กระทบหนักยิ่งกว่าถูกยุบพรรค
"หม่องชิต ตู่" ส่งกำลังทหารกว่า 150 นาย คุมเข้มเคเคปาร์ค จับหัวหน้าแก๊งคอลเซนเตอร์ กวาดต้อน 450 เหยื่อต่างชาติ
ใต้ป่วนต่อเนื่อง คนร้ายลอบวางบึ้มหน้าร้านสะดวกซื้อ บันนังสตา ตร.เจ็บ 7 นาย-ชาวบ้านอีก 4 เช้านี้บึ้มรถยนต์อีก หน้าห้างสนามบินนราฯ
พรรคไทยก้าวหน้า แถลงขอโทษปชช. แจงคดี “สส.ปูอัด” ขอรอผ่านชั้นอัยการ ก่อนตัดสินใจขับพ้นพรรค
"นิด้าโพล" คนไทยส่วนใหญ่ เชื่อ "เพื่อไทย-ภูมิใจไทย" ขัดแย้งจริง แต่เคลียร์จบได้
มาแน่ เช็กรายชื่อ 39 จังหวัด รับมือพายุฝนถล่ม ลมแรง กทม.โดนด้วย ร้อนสุด 37 องศา
"ตม." งัดข้อมูลซัด "โรม" หน้าหงาย ระบบ Biometrics บันทึกข้อมูลทุกคน ระบบ PIBICS คุมคนต่างด้าว

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น