เด็กๆและเหล่าประชาชน ทั้งในเมืองราฟาห์ของปาเลสไตน์ และที่หน้าหน่วยงานเพื่อผู้ลี้ภัยชาวปาเสไตน์ของสหประชาชาติ (หรือ UNRWA) ในเมืองเบรุตของเลบานอน ได้ออกมารวมตัวกันเพื่อเดินขบวนเรียกร้องให้นานาประเทศ ยังคงไว้ซึ่งการสนับสนุน UNRWA ต่อไป หลังจากที่เกือบ 10 ชาติ สั่งระงับความช่วยเหลือจากข้อกล่าวหาของอิสราเอลที่ว่า มีเจ้าหน้าที่ภายใน ให้ความช่วยเหลือกลุ่มฮามาส
โดยที่เมืองราฟาห์นั้น นายราสเม อบูเลเนน ผู้จัดการประท้วงของเด็กๆ ในครั้งนี้ได้กล่าวว่า สงครามเริ่มขึ้นในเดือนตุลาคม ผู้คนไม่ได้เตรียมพร้อมสำหรับฤดูหนาว ฤดูหนาวจึงมาถึงโดยที่ผู้คนไม่มีเสื้อผ้า ดูไปที่เด็กๆ พวกเขาไม่มีรองเท้าด้วยซ้ำ เราจึงคิดที่จะจัดงานที่เรียบง่ายนี้ขึ้น เพื่อส่งเสียงของเราออกมา ผู้คนไม่ได้ถูกพลัดถิ่นเพียงครั้งเดียว แต่บางคนถูกพลัดถิ่นถึง 4 ครั้ง ตั้งแต่กาซาซิตี้ไปจนถึงใจกลางกาซา ถึงข่าน ยูนิส ถึงราฟาห์ และความช่วยเหลือที่มีก็ถือว่ายังไม่เพียงพอ ยังขาดแคลนอีกหลายอย่าง รวมถึงความปลอดภัยด้วย เด็กๆต้องนอนในเต็นท์ พอมีลมหรือการโจมตีทางอากาศ ที่มีมาได้ทุกเมื่อไม่มีการแยกแยะ เต็นท์ก็จะถูกทำลาย ที่นี่มีการสังหารหมู่, การกวาดล้าง, ความยากจน, ความอดอยาก, การว่างงาน, ของราคาแพงและยังขาดแคลนสินค้าด้วย
ขณะที่ในส่วนที่หน้าหน่วยงาน UNRWA ของเมืองเบรุตแห่งเลบานอน นายซามี ฮัมมุด ผู้ลี้ภัยชาวปาเลสไตน์ ได้กล่าวว่า เรามาเข้าร่วมชุมนุมในฐานะองค์กรชาวปาเลสไตน์, กองกำลังประชาชน, และภาคประชาสังคม ที่หน้าสำนักงาน UNRWA ในเลบานอน เพื่อยืนยันอีกครั้งถึงความผูกพันของเรา กับหน่วยงานของสหประชาชาติ ที่เกี่ยวข้องกับการให้ความช่วยเหลือ, การบรรเทาทุกข์, และการปฏิบัติการที่เกี่ยวข้องกับผู้ลี้ภัย
ด้านนายราฟัต อัล-มูรา สมาชิกของสำนักงานทางการเมืองของกลุ่มฮามาสในเลบานอน ก็ได้กล่าวว่า การตัดสินใจครั้งนี้ (การระงับความช่วยเหลือ UNRWA) ส่งผลกระทบต่อผู้ลี้ภัยชาวปาเลสไตน์จำนวน 6 ล้านคนที่อาศัยอยู่ในทั้งฉนวนกาซา เวสต์แบงก์, จอร์แดน, ซีเรีย, และเลบานอน และเปลี่ยนภาระจากที่ผู้ลี้ภัยจะได้รับความช่วยเหลือจาก UNRWA กลับกลายต้องเป็นรัฐบาลเข้ามาเป็นเจ้าภาพดูและ ซึ่งจะนำไปสู่เรื่องของการเมืองและเศรษฐกิจ รวมถึงวิกฤตการณ์ทางสังคมด้วย