วันที่4 ก.ย. 2564 ที่รัฐสภา นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล เปิดเผยภายหลังการลงมติไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีเป็นรายบุคคล ว่า รู้สึกผิดหวังกับผลที่ออกมา เสียดายที่ระบบรัฐสภาไม่ได้ยึดโยงกับความเป็นจริงของประชาชน เสียดายโอกาสของ ส.ส. ในการถอดสลักที่เป็นอุปสรรคในการแก้ปัญหา อย่างไรก็ตามผลที่ออกมาถ้าดูตัวเลขนายกรัฐมนตรี ได้รับความไว้วางใจได้เป็นอันดับรองบ๊วย ประกอบกับความวุ่นวายที่เกิดขึ้นในช่วงอภิปราย สะท้อนว่าเกิดปัญหาในความชอบธรรม และความเป็นผู้นำ และคิดว่ามีโอกาสนำไปสู่การยุบสภาได้ในเร็ววันนี้ และนายกรัฐมนตรีควรพิจารณาตัวเอง เพราะทั้งหมดสะท้อนถึงความชอบธรรมในรัฐบาล ส่วนการทำงานต่อไปของพรรคหลังจากนี้ จะเป็นการโรยเกลือ หลังกรีดบาดแผลในการอภิปรายไม่ไว้วาง คือ การยื่นให้องค์กรอิสระตรวจสอบดำเนินการต่อไป และจะเดินหน้ารักษาผลประโยชน์ให้กับประชาชน
นายพิธา ยังมองว่า แม้การอภิปรายไม่ไว้วางใจครั้งนี้จะไม่ประสบผลสำเร็จ แต่คิดว่ามีประโยชน์ในการควบคุมสังคมได้ดีเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะตัวเลขผู้ติดเชื้อลดลง การฉีดวัคซีนคืบหน้าไปมาก และมีความเป็นไปได้ที่จะเลิกซื้อวัคซีนซิโนแวค เนื่องจาก CEO ของบริษัทผลิตซิโนแวคก็บอกว่าประสิทธิภาพอาจจะต้านกับเชื้อโควิดไม่ได้ แต่กำลังพัฒนาอยู่
ส่วนกระแสข่าวการจ่ายเงินให้ ส.ส. แลกโหวตไว้วางใจ ถ้าเป็นความจริง ยิ่งตอกย้ำความไม่ลงรอย และความไม่เป็นเสถียรภาพของประชาชน แม้ข้อมูลที่นำมาอภิปรายจะหนักแน่นแค่ไหน แต่ไม่สามารถโน้มน้าวเสียงของสภาได้ ก็คงต้องใช้เวลา ส่วนการลงโทษงูเห่า ว่า พรรคจะไม่ให้ในสิ่งที่ต้องการ จะดองงูต่อไป