จับสัญญาณ “ก้าวไกล” เอาคืนทิ้งทวนก่อนยุบพรรค จับมือพรรคฝ่ายค้านถล่มจุดอ่อน “รัฐบาล” เงินดิจิทัล-คนชั้น 14

จับสัญญาณ "ก้าวไกล" เอาคืนทิ้งทวนก่อนยุบพรรค จับมือพรรคฝ่ายค้านถล่มจุดอ่อน "รัฐบาล" เงินดิจิทัล-คนชั้น 14

นึกว่าวันที่ 1 ก.พ. 2567 จะเป็นดินเนอร์นัดฉลองล่วงหน้าจะได้เปิดแชมเปญฉลอง เพราะก่อนหน้านี้นายพริษฐ์ วัชรสินธุ โฆษกพรรคก้าวไกล ป่าวประกาศอย่างคึกโครมว่า พรรคก้าวไกล เป็นเจ้าภาพนัดรับประทานอาหารเย็นกระชับมิตรกับแกนนำพรรคร่วมฝ่ายค้าน แต่คงดันเก็งข้อสอบผิดไม่คิดว่า ศาลรัฐธรรมนูญ จะกล้าฟันพรรคก้าวไกลไม่แคร์ “กระแสส้มฟีเวอร์” ยิ่งยุบพรรคก้าวไกล พรรคก้าวไกลยิ่งเติบโต ตามสิบเกิดแสน เลือกตั้งครั้งหน้า ชนะแลนด์สไลด์ตามคำขู่ของเจ้าสำนัก 3 นิ้ว ปิยบุตร แสงกนกกุล 1 ในคณะก้าวหน้า แต่ผลของคำวินิจเมื่อวันที่ 31 ม.ค.ที่ผ่านมา ได้จุดชนวนระเบิดเวลา “พรรคก้าวไกล” ลุ้นระทึกรอวันที่ศาลรัฐธรรมนูญลงดาบ 2 ยุบพรรคอีกครั้ง

 

 

 

 

ข่าวที่น่าสนใจ

แม้ว่าบรรยากาศดินเนอร์ บรรยากาศเป็นไปอย่างชื่นมื่น แกนนำแต่ละพรรคมาร่วมกันอย่างพร้อมหน้าพร้อมตา อาทิ นายชัยธวัช ตุลาธน หัวหน้าพรรคก้าวไกล และผู้นำฝ่ายค้าน ,นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคก้าวไกล ,นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร สส.พรรคก้าวไกล ,คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ หัวหน้าพรรคไทยสร้างไทย ,นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ,นายชัยชนะ เดชเดโช รองหัวหน้าและพรรคประชาธิปัตย์ และ นายกัณวีร์ สืบแสง สส.พรรคเป็นธรรม

 

 

ดูท่าทีพรรคก้าวไกลจะอ่อนน้อมถ่อมตนผิดปกติ นายชัยธวัช ถึงขนาดชวนจัดเวทีฝ่ายค้านสัญจร 4 ภาคเดินสายทั่วประเทศประเดิมบุกถิ่นเมืองหลวงคนเสื้อแดง หรือ กล่องดวงใจ “พรรคเพื่อไทย” ด้านบิ๊กเนมพรรคสีฟ้าพากันหยอดหวานกลับ ฝ่ายค้านมีเอกภาพและเป้าหมายการทำงานของเราวันนี้ ก็พูดตั้งแต่วันที่ประชุมวันแรกว่า ดูที่สาระการทำงานโดยเอาประโยชน์ของพี่น้องประชาชนเป็นหลัก แล้วหลังจากนี้คงทำงานร่วมกันและมีกิจกรรมร่วมกัน ซึ่งการกินข้าวร่วมกันถือเป็นปกติของสังคมไทยบางเรื่องไม่จำเป็นต้องจบในห้องประชุมจบที่โต๊ะกินข้าวก็ได้แล้ว

 

อย่างไรก็ตามรับทราบกันเป็นอย่างดีว่า ปชป. ยุค “เฉลิมชัย” ในทางการเมืองถูกมองว่าเป็นพรรครอเสียมร่วมรัฐบาล เนื่องจาก 16 ส.ส.ก๊วนงูเห่าใต้อาณัติของ “เฉลิมชัย” โหวตสนับสนุน นายเศรษฐา ทวีสิน เป็นนายกรัฐมนตรี คนที่ 30 ดังนั้นหากวันหนึ่งก่อนวันอภิปรายไม่ไว้วางใจ คนชั้น 14 ปรับ ครม. ขึ้นมา อาจประเคนเก้าอี้รัฐมนตรีดึงมาร่วมรัฐบาล ลอยแพพรรคก้าวไกล แต่กว่าจะถึงวันนั้น พรรคก้าวไกล อาจจะถูกยุบพรรคไปแล้วด้วยซ้ำ

 

ขณะที่ “พรรคไทยสร้างไทย” ของ “คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธ์” ในขณะนี้อาจกล่าวได้ว่าอยู่ในขั้นอาการสาหัส เพราะดันเกิดปรากฎการณ์ “งูเห่า” 3 ส.ส.ไทยสร้างไทย” ประกอบด้วย 1.นางสุภาพร สลับศรี ส.ส.ยโสธร 2.นายหรั่ง ธุรพล ส.ส.อุดรธานี และ 3.นายอดิศักดิ์ แก้วมุงคุณทรัพย์ ส.ส.อุดรธานี โหวตสวนมติพรรคไปโหวตสนับสนุน งบประมาณปี 67 รัฐบาลเศรษฐา ทำให้ คุณหญิงสุดารัตน์ ยัวะจัดเพราะเคยทิ้งบอมบ์ถล่มรัฐบาล “เศรษฐา” ว่าจัดงบประมาณปี 67 ไม่ตรงปก

 

ดังนั้นนับถอยหลังจากนี้ไปก่อนยุบพรรค “ก้าวไกล” เร่งสปีดจัดหนักรัฐบาลอย่างแน่นอนอย่างน้อย 2 เรื่องที่เป็นจุดอ่อนของรัฐบาล คือ นโยบายแจกเงินดิจิทัลวอเล็ต กับ เรื่องคนชั้น 14 โดยเฉพาะเรื่องเงินดิจิทัล “น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล” ในฐานะ “ขุนคลังเงา” จองกฐินล่วงหน้า คัดค้านรัฐบาลรออกพ.ร.บ.เงินกู้ 5 แสนล้านบาท มีความสุ่มเสี่ยงจริงๆ เหมือนกับกรณีพ.ร.บ.เงินกู้ 2 ล้านล้านบาท อย่างชัดเจน ที่ถูกศาลรัฐธรรมนูญตีตกว่าไม่มีความจำเป็นเร่งด่วน ดังนั้น รัฐบาลพรรคเพื่อไทยจะอ้างว่าไม่รู้ไม่ได้ ตั้งข้อสังเกตว่า การที่รัฐบาลเลือกทางนี้ เพราะไม่ต้องการให้โครงการนี้สำเร็จ แต่ต้องการให้เข้าทางนักร้องต่างๆ เพื่อหาทางลงให้สวยงามของโครงการที่มาถึงทางตันโดยสมบูรณ์แล้ว ไม่ได้เห็นด้วยกับการร้องศาลรัฐธรรมนูญเรื่องนี้ แต่ขอให้รัฐบาลได้แสดงความรับผิดชอบทางการเมืองโดยการให้กฤษฎีกาตีความ รัฐบาลเองน่าจะเห็นแล้วว่าไม่มีทางที่จะไปได้จริงๆ ทางเลือกนี้เป็นการหาทางลงมากกว่าที่จะเดินหน้าโครงการนี้ หรือ เรื่องคนชั้น 14 ก็มีขาประจำของ พรรคก้าวไกล รอถล่มอยู่ โดยเฉพาะ “ชัยธวัช” ที่ถูกปรามาสว่า เพราะผู้นำจิตวิญญาณแอบมีดีลลับกัน จึงไม่กล้าแตะคนชั้น 14 จากนี้ไปจากเดิมที่เคยออมมือไม่กล้าแตะคนชั้น 14 จะมือหนักถล่มไม่ยั้งหรือไม่

หรือสถานการณ์การเมืองจะรุนแรงตามจิตนาการไปไกลของ นายเทพไท เสนพงศ์ อดีต สส.นครศรีธรรมราช ที่โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า เมื่อวันที่ 2 ก.พ.ว่า ระวัง ! ขวาพิฆาตซ้าย คืนชีพ ? ว่า ทำให้นึกถึงการเมืองในอดีต ที่มีการต่อสู้กัน ระหว่างชนชั้นปกครอง กับขบวนการนักศึกษา ประชาชน หรือที่เรียกกันว่าฝ่ายขวากับฝ่ายซ้ายจนมีการปลุกระดม เข่นฆ่า ทำลายล้างกัน ถึงขั้นมีวาทกรรมว่า ฆ่าคอมมิวนิสต์ไม่บาป หรือที่เรียกกันว่า ขวาพิฆาตซ้าย ไม่ต่างกัน เพียงแต่ยุคสมัยแตกต่างกัน ระหว่างยุคอนาล็อก กับยุคดิจิตอลในปัจจุบัน แต่พื้นฐานความคิดยังคงเหมือนเดิม พวกขวาสุดโต่งกับซ้ายสุดขั้ว มีการต่อสู้ทางความคิด ห่ำหั่นทางการเมืองเหมือนเดิม แต่จะเป็นจริงอย่างคำทำนาย แม่น หรือ เดา คงต้องจับตาดูกันต่อไป

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

สลด กระบะชนจยย.พลิกคว่ำตก "ดอยโป่งแยง" เชียงใหม่ เจ็บตายรวม 13 ราย
“สมศักดิ์” ยกนวดไทยเป็นมรดกชาติ สร้างมูลค่าเศรษฐกิจสุขภาพ เล็งพาหมอนวดโกอินเตอร์ โชว์ฝีมืองาน เวิลด์เอ็กซ์โปโอซาก้า ญี่ปุ่น
ห่ามาแล้ว! “แม่สอด” พบติดเชื้ออหิวาต์ เผยญาติฝั่งพม่าซื้อข้าวมากินด้วยกัน
ผกก.สภ.รัตนาธิเบศร์ สั่งตั้งคกก.สอบ "ตร.จราจร" รีดเงินแทนเขียนใบสั่ง
สตม. บุกทลายแก๊งคอลเซ็นเตอร์ กลางคอนโดหรูห้วยขวาง รวบ 6 คนจีน อึ้งเจอซิมการ์ด 2 แสนซิม
ครูบาอริยชาติ เชิญชวนพุทธศาสนิกชน ฉลองสมโภช 18 ปีวัดแสงแก้วโพธิญาณ และทำบุญฉลองอายุวัฒนมงคล 44 ปี
กกต.สั่งดำเนินคดีอาญา "ชวาล" ส.ส.พรรคประชาชน ยื่นบัญชีใช้จ่ายเท็จ โทษคุก-ตัดสิทธิเลือกตั้ง 5 ปี
จีนเตือนสหรัฐกำลังเล่นกับไฟหลังส่งอาวุธให้ไต้หวัน
อิลอน มัสก์วิจารณ์แรงผู้นำเยอรมันเหตุโจมตีตลาดคริสต์มาส
ซาอุฯเคยเตือนเยอรมนีเรื่องคนร้ายโจมตีตลาดคริสต์มาส

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น