ประธานาธิบดีโจ ไบเดน แห่งสหรัฐ ได้โพสต์ลง X ระบุว่า กองกำลังทหารสหรัฐได้โจมตีเป้าหมายในอิรักและซีเรีย โดยโจมตีไปที่ IRGC (กองกำลังพิทักษ์การปฏิวัติอิสลาม) และกองกำลังติดอาวุธในเครือ ที่ใช้ในการโจมตีกองกำลังสหรัฐ เราไม่ได้แสวงหาความขัดแย้งในตะวันออกกลางหรือที่อื่นใดในโลก แต่สำหรับทุกคนที่พยายามทำร้ายเรา เราจะตอบสนอง
ด้านกองบัญชาการกลางสหรัฐ ก็ออกแถลงการณ์ระบุว่า การโจมตีทางอากาศครั้งล่าสุดของสหรัฐ เริ่มขึ้นในวันเสาร์ เวลาประมาณเที่ยงคืนตามเวลาของอิรัก และโจมตีเป้าหมายไปมากกว่า 85 แห่ง ทั้งในซีเรียและอิรัก การโจมตีใช้เครื่องบินจำนวนมาก เช่นเครื่องบินทิ้งระเบิดพิสัยไกล ที่บินไปจากสหรัฐ ซึ่งทิ้งอาวุธยุทโธปกรณ์ที่แม่นยำไปกว่า 125 ลูกใส่เป้าหมาย โดยเป้าหมายเหล่านั้น มีทั้งศูนย์บัญชาการและควบคุม, แหล่งข่าวกรอง, คลังเก็บอาวุธ, และศูนย์ลอจิสติกของกองกำลังติดอาวุธ ที่ได้รับการสนับสนุนจากอิหร่าน
ทางกองกำลังได้ระบุต่อว่า การโจมตีเป็นการมุ่งเป้าไปที่กองกำลังคุดส์ ซึ่งเป็นหน่วยจารกรรมและเป็นกองกำลังกึ่งทหารจากต่างประเทศของ IRGC ที่เชี่ยวชาญด้านการรบแบบกองโจร และการรวบรวมข่าวกรองนอกอิหร่าน โดยกองกำลังนี้ มีอิทธิพลอย่างมากต่อกองกำลังติดอาวุธพันธมิตรทั่วตะวันออกกลาง ตั้งแต่เลบานอนไปจนถึงอิรัก และตั้งแต่เยเมนไปจนถึงซีเรีย กองกำลังดังกล่าวได้พยายามขับไล่กองกำลังสหรัฐให้ออกจากอิรัก นับตั้งแต่การรุกรานของสหรัฐในปี 2003
สำหรับการโจมตีดังกล่าวนี้ ถือเป็นการโจมตีครั้งแรก ในการตอบโต้ที่จะมีขึ้นไปอีกหลายระดับ เพื่อตอบโต้การโจมตีเมื่อสุดสัปดาห์ที่แล้ว ที่ดำเนินการโดยกลุ่มติดอาวุธ ที่ได้รับการสนับสนุนจากอิหร่าน โดยครั้งนั้น ทาวเวอร์ 22 ซึ่งเป็นฐานทัพสหรัฐในจอร์แดน ที่ตั้งอยู่ใกล้ชายแดนซีเรียและอิรัก ได้ถูกโจมตีด้วยโดรนจนทำให้ทหารสหรัฐเสียชีวิต 3 นาย และบาดเจ็บอีก 40 นาย ถือเป็นการโจมตีกองทหารสหรัฐครั้งแรก นับตั้งแต่สงครามอิสราเอลและฮามาสปะทุขึ้นในเดือนตุลาคม ทั้งนี้ แม้ว่าการโจมตีของสหรัฐ ไม่ได้มุ่งเป้าไปที่พื้นที่ใดๆ ในอิหร่าน แต่การโจมตีดังกล่าวมีแนวโน้มที่จะเพิ่มความตึงเครียดในตะวันออกกลาง ให้มากยิ่งขึ้น