“เอกชัย หงส์กังวาน” ออกจากเรือนจำ วิจารณ์ยุติธรรมตัดสินผิด แขวะศาลรธน. เร่งเร้าสภาฯออกพ.ร.บ.นิรโทษกรรม คดี 112

"เอกชัย หงส์กังวาน" ออกจากเรือนจำ วิจารณ์ยุติธรรมตัดสินผิด แขวะศาลรธน. เร่งเร้าสภาฯออกพ.ร.บ.นิรโทษกรรม คดี 112

เมื่อวันที่ 4 ก.พ. 2567 เวลาประมาณ 8.45 น. ที่ผ่านมา “นายเอกชัย หงส์กังวาน” นักกิจกรรมทางการเมือง และเป็นผู้ต้องขังที่ถูกพิพากษาจำคุก 1 ปี กรณีโพสต์ข้อความเล่าประสบการการณ์เรื่องเพศสัมพันธ์ในเรือนจำ เมื่อปี 2560 ซึ่งครบกำหนดโทษและได้รับการปล่อยตัวออกจากโรงพยาบาลราชทัณฑ์

 

 

 

 

บรรยากาศในวันนี้ ที่หน้าโรงพยาบาลราชทัณฑ์ มีเพื่อนสนิทของนายเอกชัย อาทิ น.ส.ปัญญารัตน์ นันทภูษิตานนท์ สส.นนทบุรี น.ส.ณัฏฐธิดา มีวังปลา หรือ แหวน พยาบาลอาสา นายโชคชัย ไพบูลย์รัชตะ นายแซม สาแมท และสมาชิกกลุ่ม 24 มิถุนาประชาธิปไตย เดินทางมารอต้อนรับและร่วมแสดงความยินดีด้วยการมอบช่อดอกกุหลาบสีแดง-สีขาว สวมกอดกันอย่างชื่นมื่น

 

นายเอกชัย ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนภายหลังจากการได้รับอิสรภาพ ว่า ตนโดนคดีอาญามา 30 คดี ตอนนี้จบสิ้นแล้ว 17 คดี มีอยู่ในชั้นอุทธรณ์ 2 คดี รอสืบพยาน 1 คดี และอีก 10 คดีที่อยู่ในรอการส่งฟ้อง

สำหรับในคดีนี้ที่ตนได้รับการปล่อยตัวมา ซึ่งตนคิดว่าเป็นคดีที่ตนไม่รับความเป็นธรรมมากที่สุดหลายประการ ตนถูกกล่าวหาว่ากระทำความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ มาตรา 14(4) ฐานนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ใด ๆ ที่มีลักษณะอันลามก ซึ่งข้อความที่โจทก์หยิบยกมาฟ้องเป็นเนื้อหาที่เอกชัยบอกเล่าเกี่ยวกับประสบการณ์ในเรือนจำ รวมไปถึงประเด็นเรื่องเพศสัมพันธ์ในเรือนจำชาย ที่ตนเคยประสบมาระหว่างถูกคุมขังในเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ โดยบอกเล่าเป็นซีรีส์ทั้งหมด 14 ตอน โดยข้อความที่ถูกกล่าวหาปรากฏในตอนที่ 9 และศาลอาญา ได้เห็นว่าตนมีความผิด พิพากษาจำคุก 1 ปี ซึ่งการฟ้องนั้นประกอบกับที่ตนเคลื่อนไหวเรื่องนาฬิกาของพลเอกประวิตร ตนโพสต์ไปตั้งเกือบปีแล้ว ทำไมถึงเอามาฟ้องตน ซึ่งตำรวจชุดแรกได้มีการสั่งไม่ฟ้องตน แต่พอปลายปี 2561 ตนมาเคลื่อนไหวกรณี พลเอกอภิรัชต์ คงสมพงษ์ อดีต ผบ.ทบ.ที่ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนว่าจะมีการรัฐประหารไหม และพลเอกอภิรัชต์ตอบว่า ถ้าการเมืองไม่เป็นเหตุให้เกิดความวุ่นวาย ก็ไม่มี ซึ่งตนกับนายโชคชัยเห็นว่าการพูดดังกล่าว เข้าข่าย ม.113 จึงได้ไปแจ้งความ ซึ่งกรณีดังกล่าวทำให้ปอท. ตั้งคณะพนักงานสอบสวนชุดใหม่มาและสั่งฟ้องตนในคดีนี้

ข่าวที่น่าสนใจ

ต่อมา เมื่อวันที่ 19 เม.ย. 2565 ภายหลังยื่นอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์มีคำพิพากษายืน ตามศาลชั้นต้น ให้ลงโทษจำคุก 1 ปี ไม่รอลงอาญา ทำให้ตนต้องถูกคุมขังอยู่ในเรือนจำ โดยไม่ได้รับการประกันตัวในระหว่างฎีกาอยู่หลายครั้ง รวมถูกขังเป็นระยะเวลากว่า 154 วัน ซึ่งภายหลังได้รับการประกันตัวในการยื่นประกันครั้งที่ 6 เมื่อวันที่ 19 ก.ย. 2565

ก่อนที่วันที่ 6 ก.ค. 2566 ในนัดฟังคำพิพากษาศาลฎีกา ก็ได้พิพากษายืนเช่นกัน มีใจความสำคัญระบุว่า การโพสต์ใช้ถ้อยคำกล่าวถึงการมีเพศสัมพันธ์ของจำเลยกับนักโทษชายอื่นในระหว่างต้องขังคดีอื่นในเรือนจำอย่างโจ่งแจ้ง เป็นการผิดวิสัยของวิญญูชนผู้รู้ผิดชอบตามปกติพึงปฏิบัติ เป็นข้อความที่ไม่สุภาพ เข้าข่ายลามกอนาจาร และมีลักษณะยั่วยุกามอารมณ์

ผลคำพิพากษาดังกล่าวทำให้ตนต้องเข้าไปอยู่ในเรือนจำอีกครั้ง ท่ามกลางคำถามถึง การคำนวณโทษจำคุก ที่ไม่เป็นไปตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 54 ตามบทบัญญัติศาลอาจเลือกใช้การคำนวณโทษได้สองวิธี วิธีที่ 1 เพิ่มโทษก่อน แล้วจึงค่อยลดโทษจากผลที่เพิ่ม หากศาลคำนวณตามวิธีนี้ ก่อนเพิ่มหรือลดโทษเอกชัยจะมีโทษจำคุก 1 ปี เมื่อเพิ่มโทษหนึ่งในสามจะมีโทษจำคุก 1 ปี 4 เดือน จึงค่อยนำผลลัพธ์นี้มาลดโทษลงหนึ่งในสาม เท่ากับว่าเอกชัยจะมีโทษจำคุกหลังลดโทษ 10 เดือน 20 วัน

วิธีที่ 2 ไม่เพิ่มและไม่ลดโทษ (วิธีที่ศาลใช้) หากศาลคำนวณตามวิธีนี้ ส่วนของการเพิ่มโทษและการลดโทษที่เท่ากันนี้จะหายกันไป ไม่เพิ่มและไม่ลดโทษ เท่ากับว่าเอกชัยจะมีโทษจำคุกคงเดิมตามที่พิพากษาคือ 1 ปี

นายเอกชัย กล่าวต่อว่า พอตนเข้ามาจำคุกที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ ประมาณ 2 เดือนก็ป่วย มีอาการตัวเหลือง ตาเหลือง ถูกส่งตัวมาที่โรงพยาบาลราชทัณฑ์ เมื่อทำ CT Scan ปรากฏว่าเป็นฝี และถูกส่งตัวไปรักษาต่อที่โรงพยาบาลราชวิถี ซึ่งวันนี้เมื่อถูกปล่อยตัวแล้วก็ยังต้องไปตามหมอนัดในเดือนหน้า จากอาการป่วยดังกล่าวตนจึงได้ขอใช้สิทธิ์พักโทษ ปรากฏว่าทางเรือนจำให้เหตุผลว่าชั้นนักโทษของตนยังไม่ได้ ซึ่งเกณฑ์การพักโทษต้องเป็นนักโทษชั้นกลาง โดยเรือนจำจะนับชั้นนักโทษเมื่อคดีเด็ดขาด

นายเอกชัย กล่าวต่อว่า วันนี้ที่รับการปล่อยตัวมา ตนถือว่าตัวเองเป็นนักโทษทางการเมืองคนแรกของปีนี้ที่ได้ออกจากเรือนจำ ตอนนี้ยังมีผู้ต้องขังทางการเมืองอีกหลายสิบคนอยู่ในเรือนจำ ทั้งคดีเด็ดขาดและคดีที่ยังไม่เด็ดขาด ตนขอฝากถึงพรรคการเมือง โดยเฉพาะพรรคเพื่อไทย ที่เป็นแกนนำรัฐบาล และพรรคก้าวไกล ที่ได้ สส. มากกว่า 150 คน ส่วนหนึ่งที่ทั้ง 2 พรรคได้ก้าวเข้าสู่สภาอย่างสง่างาม เพราะการต่อสู้ของพี่น้องประชาชน ดังนั้นตนขอฝากถึงพรรคการเมืองว่า อย่าลืมและทอดทิ้งพวกเขา โดยเฉพาะการผลักดัน ร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม

นายเอกชัย กล่าวต่อว่า “ในความเห็นของตน ตนอยากให้นิรโทษกรรมประชาชน ที่เป็นเหยื่อทางการเมือง หรือ คดี ม.112 และไม่เห็นด้วยที่จะนิรโทษกรรมเจ้าหน้าที่รัฐ ที่เกี่ยวข้องกับการสังหารหมู่ประชาชน ไม่ว่าจะเป็นช่วงปี 2553 หรือ ตำรวจ คฝ.ที่สลายการชุมนุมกลุ่มทะลุแก๊ส”

“ทั้งนี้จากกรณีศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยเรื่องการแก้ไขหรือยกเลิกมาตรา 112 เป็นการล้มล้างการปกครอง ตนอยากจะถามศาลรัฐธรรมนูญว่า การที่คุณวินิจฉัยเรื่องดังกล่าว 2 ครั้ง จากกรณีที่ตนไปยื่นเมื่อปี 2556 กับนายสมยศ พฤกษาเกษมสุข ร่วมกันร้องศาลรัฐธรรมนูญว่ากฎหมายมาตรา 112 ขัดต่อรัฐธรรมนูญ 2560 เนื่องจากพวกตนเห็นว่าโทษจำคุก 3-15 ปีสูงเกินไป ซึ่งศาลรัฐธรรมนูญก็ได้มีคำวินิจฉัยว่าเป็นโทษที่เหมาะสมแล้ว และจากกรณีล่าสุด เมื่อวันที่ 31 ม.ค. 2567 ศาลรัฐธรรมนูญก็ได้วินิจฉัยว่าการแก้ไขหรือยกเลิก ม.112 เป็นการล้มล้างการปกครอง ตนจึงอยากถามว่าการวินิจฉัยดังกล่าว โดยอ้างถึงรัฐธรรมนูญที่มาจากการรัฐประหาร ทั้ง 2 ฉบับนั้น คุณปกป้องใคร ปกป้องประชาชน หรือปกป้องคณะรัฐประหารกันแน่” นายเอกชัย กล่าวทิ้งท้าย

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

"กองปราบฯ" รับโอนคดี "ซินแสชื่อดัง" หลอกผู้เสียหายสูญเงิน 66 ล้าน
กรมทรัพยากรน้ำบาดาล เขต 6 (ตรัง) ศึกษาดูงานด้านการพัฒนาแหล่งน้ำบาดาล
"นครราชสีมา" เสี่ยงภัยแล้ง 10 อำเภอ ชลประทานประกาศงดทำนาปรังทั้งจังหวัด
"อัจฉริยะ" แจงผลสอบ "อาหารเสริม Eighteen 18" พบมีเลข อย.ถูกต้อง
"อดีตบิ๊กข่าวกรอง" ชี้เจรจา MOU 44 ถามคนไทยหรือยัง เอาพลังงานหรืออธิปไตย
สุดเศร้า "นักเรียน ม.4" เรียนวิชาพละ  วิ่งได้ 200 เมตร หัวใจวายเสียชีวิต
"ณัฐวุฒิ" โอ่คนไทยอ่านขาดแล้ว เกมฝ่ายขวาจัด ปลุกชาตินิยม ล้มรบ. เย้ยรอบนี้ไม่ง่ายเหมือนก่อน
เปิด 40 รายชื่อ สรุปยอดผู้สมัคร ป.ป.ช. พบคนดังเพียบ
"ยายวัย 80 ปี" เครียดอยากจบชีวิต หลังถูก "แก๊งคอลเซ็นเตอร์" หลอกโอนเงินเก็บเกลี้ยงบัญชี
"ร้านเนื้อย่างดัง" โพสต์ตามหา "ลูกค้า" โอนเงินค่าอาหารเกิน 2 แสนบาท

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น