ความคืบหน้ากรณี ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 2 ก.พ. 2567 มีมติอนุมัติตามที่ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เสนอให้นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เป็นผู้รักษาราชการแทนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ในกรณีที่ไม่มีผู้ดำรงตำแหน่ง หรือมีแต่ไม่อาจปฏิบัติราชการได้ตามมาตรา 42 พ.ร.บ.ระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน 2534 ซึ่งเรื่องนี้ทำให้มีการมองกันว่าการเสนอชื่อ นายพีระพันธุ์เป็นเพราะต้องการให้มาจัดการเรื่องนายทักษิณ ชินวัตร ให้เรียบร้อยเนื่องจากใกล้ครบวันพักโทษในช่วงปลายเดือนกุมภาพันธุ์ อีกทั้งก่อนหน้านี้เมื่อเดือน ธ.ค. 2567 นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคลัง ลงนามคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ 381/2566 โดยมอบหมายและมอบอำนาจให้นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรี ปฏิบัติราชการแทนนายกรัฐมนตรี กระทรวงยุติธรรม (ยกเว้น กรมสอบสวนคดีพิเศษ)
ล่าสุดเมื่อวันที่ 5 ก.พ. 67 นายถาวร เสนเนียม อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะสมาชิกพรรครวมไทยสร้างชาติออกมาแสดงความคิดเห็นในประเด็นดังกล่าวว่า สิ่งที่เกิดขึ้นสามารถมองได้ 2 มิติ โดยมิติแรก คือ นายทวี มองเห็นความเก่ง ความรู้ความเชี่ยวชาญทางกฎหมายในฐานะที่นายพีระพันธุ์ เคยได้รับมอบหมายให้ดูแลกระทรวงยุติธรรมมาก่อน ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องที่น่าชื่นชมที่ให้คนที่ความรู้ความสามารถตรงกับเนื้องานไปดูแลในช่วงที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมไม่อยู่