AFP รายงายว่าหลังจากพระราชวังบัคกิ้งแฮมออกแถลงการณ์เมื่อวานนี้ (จันทร์ที่ 5 มค.) แจ้งว่าพระเจ้าชาร์ลส์ที่ 3 แห่งราชวงศ์อังกฤษทรงได้รับการวินิจฉัยจากคณะแพทย์ที่โรงพยาบาลลอนดอนว่าทรงพระประชวรด้วยโรคมะเร็ง ผู้นำทั่วโลกก็ต่างแสดงความตกใจและพร้อมใจกันส่งข้อความถวายพระพรและกำลังใจให้พระองค์กันอย่างถ่วนหน้า ขณะที่เจ้าชายแฮรี พระโอรสองค์ที่สองซึ่งย้ายไปอยู่แคลิฟอร์เนียของสหรัฐได้ทรงโทรศัพท์ทางไกลพูดคุยกับพระบิดา และเตรียมเดินทางกลับมาเยี่ยมในเร็วๆนี้
นายกรัฐมนตรีริชี ซูแน็ค ของอังกฤษได้โพสต์ข้อความผ่าน X ถวายพระพรให้คิงชาร์ลส์ที่ 3 ทรงมีพระอาการดีขึ้นโดยเร็ว และว่าชาวสหราชอาณาจักรทั่วประเทศเป็นกำลังใจให้พระองค์กลับมามีพระพลานามัยแข็งแรงอีกครั้ง ขณะที่ประธานาธิบดีเอ็มมานูเอล มาครง ของฝรั่งเศสได้โพสต์ผ่าน X ระบุว่าชาวฝรั่งเศสขอส่งความปรารถนาดีไปยังชาวอังกฤษ ด้านประธานาธิบดีโจ ไบเดน ผุ้นำสหรัฐกล่าวว่าเขาเพิ่งทราบข่าว และรู้สึกเป็นกังวลเกี่ยวกับพระอาการของกษัตริย์ชาร์ลส์ ขณะที่นายกรัฐมนตรีจัสติน ทรูโด ของแคนาดากล่าวว่าตัวเขาและชาวแคนาดาขอเป็นกำลังใจให้พระองค์ระหว่างเข้ารักษาพระอาการประชวร
โดนัลด์ ทรัมป์ อดีตผู้นำและผู้แทนพรรคริพับลิกันในศึกเลือกตั้งสหรัฐได้โพสต์ผ่าน “ทรูธ” (Truth) โซเชียลมีเดียของตัวเองระบุว่าคิงชาร์ลส์ทรงเป็น “บุคคลที่ยอดเยี่ยม” และพวกเราทุกคนขอสวดภาวนาให้พระองค์ทรงมีพระอาการดีขึ้นโดยเร็ว เช่นเดียวกับนายกรัฐมนตรีแอนโธนี อัลบานีเซ ของออสเตรเลียและนายอิสราเอล แคทซ์ รัฐมนตรีต่างประเทศอิสราเอลก็ต่างออกมาโพสต์ข้อความถวายพระพร
ทั้งนี้พระเจ้าชาร์ลส์ที่ 3 ทรงได้รับการวินิจฉัยว่าประชวรเป็นมะเร็ง แต่ไม่ระบุว่าเป็นมะเร็งชนิดไหนหรือระยะไหน ทั้งนี้คณะแพทย์โรงพยาบาลลอนดอนได้ตรวจพบมะเร็งโดยบังเอิญระหว่างถวายการผ่าตัดต่อมลูกหมากโตเมื่อเดือนที่แล้ว แต่ระบุว่าไม่ใช่ที่ต่อมลูกหมาก ก่อนที่จะถวายการรักษาพระอาการมะเร็งโดยทันที พร้อมทูลแนะนำให้พระองค์ทรงเลื่อนพระราชภารกิจทั้งหมด ขณะที่แถลงการณ์บัคกิ้งแฮมเผยว่าพระองค์ทรงมีกำลังใจดีเยี่ยม และจะกลับมาปฎิบัติพระราชภารกิจโดยปกติอีกครั้งโดยเร็วที่สุด
ขณะที่เจ้าหญิงแคทเธอรีน พระชายาเจ้าฟ้าชายวิลเลี่ยม มกุฎราชกุมารอังกฤษก็เพิ่งออกจากโรงพยาบาลหลังทรงเข้ารับการผ่าตัดช่องท้อง ทำให้เจ้าชายวิลเลี่ยมต้องทรงงดพระราชภารกิจเช่นกันเพื่อดูแลพระโอรสและพระธิดาระหว่างที่เจ้าหญิงเคททรงพักฟื้น ทำให้พระราชินีคามิลล่าทรงต้องเข้ามาปฏิบัติพระราชภารกิจแทนทั้งหมด ซึ่งผู้เชี่ยวชาญด้านราชวงศ์กล่าวว่าควีนคามิลล่าทรงทำช่วยหน้าที่แทนพระสวามีได้ดีมากและว่าพระองค์ทรงเป็นกำลังสำคัญที่อยู่เบื้องหลังพระราชภารกิจต่างๆมานานแล้ว