จับโป๊ะ “พิธา” ปมบ้านโบราณคุณยาย นักวิชาการ หวดซ้ำ จี้ถามต้องการอะไรจากสังคม

อาจารย์ปฎิพล กล่าวว่า จากที่ตนคร่ำหวอดและศึกษาประวัติศาสตร์เกี่ยวกับอาคารเจ้าพระยาอภัยภูเบศร ใน จ.พระตะบอง ซึ่งตั้งในพื้นที่ย่านอาคารราชการดั้งเดิมของเมืองพะตะบอง จากข้อมูลประวัติการสร้างอาคารหลังนี้ ที่เขียนโดยนักวิชาการท้องถิ่นของพระตะบอง

มีการระบุว่า “เจ้าพระยาอภัยภูเบศร (ชุ่ม อภัยวงศ์)” ได้สร้างอาคารหลังนี้ขึ้นในปี พ.ศ.2447 (บ้างก็ว่าสร้างในปี 2448) โดยอาคารหลังนี้ได้มีการว่าจ้างช่างชาวอิตาลี มาเป็นผู้ออกแบบก่อสร้าง มีลักษณะเป็นตึกเดี่ยว 2 ชั้น หันหน้าออกถนน สร้างด้วยสถาปัตยกรรมยุโรป ยุคบาโรก (Baroque : ประมาณช่วงคริสตศตวรรษที่ 17) ตัวอาคารมีลวดลายปูนปั้นประดับสวยงามทั่วบริเวณ

ซึ่งอาคารหลังนี้ เคยถูกใช้เป็นศาลากลางของเมืองพระตะบอง มาช่วงระยะเวลหนึ่ง แต่เมื่อมีการสร้างศาลากลางหลังใหม่ อาคารหลังนี้ได้ถูกปล่อยให้ชำรุดทรุดโทรมเรื่อยมา กระทั่งเมื่อเกือบ 20 ปีที่แล้ว สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ได้เสด็จทอดพระเนตรปราสาทในเขตเมืองพระตะบอง โดยพระองค์ท่านเสด็จไปเสวยพระกระยาหารที่อาคารหลังนี้

ซึ่งระหว่างนั้นเกิดฝนตกและมีน้ำรั่วลงมา พระองค์ท่านจึงพระราชทานทุนทรัพย์ในการบูรณะ จำนวน 1 ล้านบาท อันเป็นจุดเริ่มต้นของการบูรณะให้กลับคืนสู่ความสวยงามดังเดิม

นอกจากนี้ อาจารย์ปฎิพล ยังกล่าวด้วยว่า จากการค้นคว้าข้อมูลเชิงลึก ก็ไม่พบว่าความเชื่อมโยง หรือความเกี่ยวข้องใด ๆ ถึงตระกูลหรือสาแหรกของนายพิธา ดังนั้น จึงต้องฝากไปถึงนายพิธาว่า ควรออกมาชี้แจงให้ชัดเจนว่าตัวเองต้องการจะบอกอะไรกับสังคม หรือกำลังสื่อสารให้สาธารณชนรับรู้ว่า นี่คือบ้านเก่าของคุณยาย ใช่หรือไม่

และหากซ้ำร้ายไปกว่านั้น คงปฎิเสธไม่ได้ว่า นายพิธาไม่ชัดเจนในตัวเองหลายเรื่อง เช่นเดียวกับบ้านหลังนี้ สรุปว่าคุณยายของนายพิธา ไปเป็นข้าราชบริพารในสมัยเจ้าพระยาอภัยภูเบศร หรือไม่ หรือในช่วงชีวิตของคุณยายของนายพิธา อาจจะเที่ยวที่บ้านหลังนั้นหรือไม่

แต่นายพิธากลับมีจินตนาการที่สำคัญกว่าความรู้ พอกลายเป็นดราม่าบนโลกโซเชียล และมีคนตั้งคำถามกลับไปยังนายพิธา ก็ได้ลบภาพนี้ออกจากสารระบบ โดยไม่มีคำชี้แจงใดๆ