คำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ เมื่อวันที่ 31มกราคม เหมือนดาบแรกฟัน “พรรคก้าวไกล” คดีล้มล้างการปกครองและอาจดวงกุดถึงขั้นตัดสิทธิ์ทางการเมืองตลอดชีวิตกรรมการบริหารพรรคทั้ง 44 คนที่ร่วมลงชื่อแก้ไขมาตรา 112 ซึ่ง ดาบสองต้องเป็นหน้าที่ของคณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือ กกต.
นับตั้งแต่ นายธีรยุทธ สุววรรณเกษร แท็กทีมกับ นายเรืองไกร ลีกิจวัฒน หอบหลักฐานไปประเคนให้ กกต.ถึงที่เมื่อวันก่อน Top News รายงาน
ไล่เลี่ยกันนายสนธิญา สวัสดี นักร้องคู่กัดพรรคก้าวไกล บุกไปฟ้องสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ให้เร่งฟันจริยธรรมซ้ำดาบที่ 3 หรือแม้แต่ดาบเล่มที่ 4 ของ “เต้ 007” หรือ นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ หัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์ ยื่นคำพิพากษาของศาลรัฐธรรมนูญ ไล่บี้ให้ “บิ๊กต่อ” หรือ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตร. ฟันพรรคก้าวไกล ข้อหาเป็นกบฏ ตามประมวลกฎหมายอาญา ม.113 หาก ผบ.ตร.ไม่ดำเนินการก็จะเข้าข่ายความผิดฐานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ ม.157 เพราะคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญผูกพันทุกองค์กร และเห็นว่าสิ่งที่ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยเป็นการระงับยับยั้งเหตุที่จะเกิดขึ้นในอนา