“จิรัฏฐ์” โดนน็อคเละ ปมสด.43 เก๊ “วัชระ” หอบหลักฐาน ไล่บี้สอบ “นักร้องตัวตึง” รวยอู้ฟู่

ส่วนนายจิรัฏฐ์นั้น ไม่ได้เข้ารับการเกณฑ์ทหารหรือจับใบดำใบแดงตามหมายเรียกในวันที่ 2 เมษายน 2555 และต่อมาวันที่ 20 สิงหาคม 2555 ศาลจังหวัดฉะเชิงเทรา ได้ตัดสินว่า นายจิรัฏฐ์ มีความผิดตาม ม.27 และ 45 พระราชบัญญัติรับราชการทหารฯ มีโทษจำคุก 1 เดือน รอลงอาญา ซึ่ง นายจิรัฏฐ์ ยอมรับว่า ตนถูกศาลพิพากษาดังกล่าวจริง แต่ก็ได้ใบ สด.43 มาในวันที่ไปศาล แล้วไปจับใบดำใบแดงภายหลัง แต่จำไม่ได้ว่า 1 วัน หรือ 1 ปี หลังจากขึ้นศาล

นอกจากนี้นายจิรัฏฐ์ ยังโดนรุมกินโต๊ะจาก นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกกระทรวงกลาโหมฝ่ายการเมือง ออกมาแฉซ้ำ ว่า ใบ สด.43 ซึ่งจะมีต้นฉบับอยู่ 3 ใบนั้น ตามปกติจะอยู่ที่กองทัพ 2 ใบ และให้ผู้ผ่านการเกณฑ์ทหาร 1 ใบ แต่จากการตรวจสอบใบ สด.43 ที่เป็นปัญหานั้นเห็นชัดเจนว่าทั้ง 3 ใบยังอยู่ที่กองทัพ

มวยอีกคู่ที่ชกกันมันส์หยอดระหว่าง นายวัชระ เพชรทอง อดีต สส. พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.)หอบหลักฐานไปฟ้องนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร และนายชัยธวัช ตุลาธน สส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคก้าวไกล ในฐานะผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร เพื่อขอให้สอบสวนจริยธรรมร้ายแรงกับนายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ สมาชิกพรรคพลังประชารัฐ ในฐานะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณางบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2567

สำหรับหลักฐานที่นายวัชระ เอามาแฉแหลก อาทิ นายเรืองไกรเป็นกรรมาธิการงบประมาณมาตั้งแต่ปี 63, 65, 66และ67 ก่อนหน้านี้ นายเรืองไกรได้โพสต์ภาพ และข้อความบนเฟซบุ๊ก ระบุว่า ได้รับรถเบนซ์ 2 คัน สีดำ 1 คัน สีขาว 1 คัน ซึ่งอ้างว่า “ผู้ใหญ่ใจดีให้มา” และในวันที่โพสต์ภาพรถเบนซ์ดังกล่าว เป็นที่น่าสังเกตวันดังกล่าวเป็นวันที่มีการประชุมกรรมาธิการงบประมาณพอดิบพอดี ทั้งนี้จึงได้ยื่นเรื่องนี้ต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) มาเป็นเวลากว่า 1 ปี 6 เดือนแล้ว และทราบว่านายเรืองไกร จดทะเบียนครอบครองรถเบนซ์สีดำ 1 คัน ส่วนสีขาวไม่มีการระบุว่า ใครเป็นผู้ครอบครอง จึงขอให้สืบสวนขยายผลเรื่องนี้ต่อไป

นอกจากนี้ยังมีกรณีแคชเชียร์เช็ค 25 ล้านบาท ที่มีการสั่งจ่ายให้กับนายเรืองไกร เมื่อวันที่ 22 ก.พ. 64 ที่นายเรืองไกรได้มีการโพสต์เช่นกันนั้น เป็นที่น่าสงสัยว่า นายเรืองไกรได้รับเช็คดังกล่าว เป็นค่าอะไร จากผู้ใด ซึ่งกรณีดังกล่าว นายวีระ สมความคิด ประธานเครือข่ายประชาชนต้านคอรัปชั่น (คปต.) ได้ร้องต่อ ป.ป.ช. ผ่านมา 2 ปีแล้ว แต่ยังไม่มีความคืบหน้าเช่นกัน

ทั้งนี้เป็นที่สังเกตว่า ทั้ง 2 กรณี เมื่อนายเรืองไกรถูกร้อง ได้ลบโพสต์และเนื้อหาทั้ง 2 กรณีออกไปดังนั้นในฐานะที่นายเรืองไกร เป็นหนึ่งในผู้พิจารณางบประมาณประเทศ ปีละกว่า 3 ล้านล้านบาท และถือเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ ควรต้องมีความโปร่งใส ดังนั้นทั้ง 2 กรณีนี้ ต้องมีที่มาและที่ไป หากนายเรืองไกรอ้างว่า เป็นค่าจ้าง คือค่าจ้างอะไร ตนในฐานะประชาชน และผู้เสียภาษี มีสิทธิ์สงสัยในพฤติการณ์ของนายเรืองไกร เช่นเดียวกับที่นายเรืองไกรสงสัยและยื่นสอบนักการเมืองทั้งสภาฯ อยู่ในขณะนี้

โดยเฉพาะเรื่องแคชเชียร์เช็ค 25 ล้าน นายเรืองไกร ได้แต่ใดมาจึงได้รางวัลเป็นเงินจำนวนมหาศาล จึงขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจสอบว่า นายเรืองไกร ได้รับเช็คมาโดยถูกต้องหรือไม่ และ รถที่ซื้อมาได้มาโดยถูกต้องตามกฎหมายหรือไม่ และจะไปยื่นหนังสือต่อเลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) ในเวลา 11.00 น. วันที่ 8 ก.พ.นี้

จึงน่าจับตาเป็นอย่างยิ่งมวยคู่เดือด ระหว่างนายจิรัฏฐ์ โดนบิ๊กกองทัพ ไล่ต้อนจนใกล้จนมุม ขณะที่คู่ นายวัชระ กับนายเรืองไกร ทั้งสองเป็นนักร้องตัวตึงเหมือนกัน รอดูใครจะถูกน็อคลงไปนอนนับ 10