“ชัชชาติ” ขยับแผนจ่ายหนี้ BTS รอคุยรายละเอียดมหาดไทย เจรจา 3 ฝ่ายขั้นตอนใช้งบฯ

"ชัชชาติ" ขยับแผนจ่ายหนี้ BTS รอคุยรายละเอียดมหาดไทย เจรจา 3 ฝ่ายขั้นตอนใช้งบฯ

เมื่อวันที่ 8 กุมภาพันธ์ นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เปิดเผยว่า

ชัชชาติ

 

หลังจากที่สภากทม. ได้ผ่านข้อพระราชบัญญัติเรื่องการโอนทรัพย์สิน ในส่วนของระบบการเดินรถและเครื่องกล หรือ ระบบอาณัติสัญญาณ (E&M) ของโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียวไปแล้วนั้น โดยเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาได้มีการวางแผนดำเนินการโดยแบ่งออกเป็น 2 ส่วน โดยส่วนแรกที่เป็นของกรุงเทพมหานคร จะเริ่มลงรายละเอียดในการเจรจา โดยนำข้อสังเกตของสภากทม. ที่ขอให้มีการดำเนินการให้เกิดประโยชน์สูงสุดกับประชาชนและดำเนินการด้วยความรวดเร็วเพื่อลดความเสียหายที่จะเกิดขึ้น ซึ่งในเร็วๆ นี้ กทม. จะประชุมร่วมกับเคที และบีทีเอสเพื่อสรุปการดำเนินการในเรื่องการโอนทรัพย์สินต่อไป

ข่าวที่น่าสนใจ

 

 

นายชัชชาติ กล่าวต่อว่า ขณะดียวกันในส่วนที่สองที่ กทม. จะทำขนานกันคือทำหนังสือถึงกระทรวงมหาดไทยเพื่อรายงานว่า ข้อบัญญัติได้ดำเนินการเรียบร้อยแล้ว ซึ่งที่ผ่านมากทม. ไม่ได้ดำเนินการเพราะยังรอข้อบัญญัติจากสภากทม. ดังนั้นจึงต้องแจ้งเรื่องไปยังกระทรวงมหาดไทย ใน 2-3 ข้อโดยประเด็นที่ 1 สภากทม. ได้มติของข้อบัญญัติ ว่า เห็นชอบให้มีการโอนทรัพย์สินตามยอดวงเงินที่กระทรวงมหาดไทยได้มีหนังสือแจ้งกลับมาเมื่อครั้งที่แล้ว พร้อมแจ้งว่า หากมีส่วนไหนที่กรุงเทพมหานครสามารถดำเนินการได้ก็ให้ดำเนินการไปก่อนไม่ต้องรอการช่วยเหลือ ส่วนประเด็นที่ 2 หากกทม. จ่ายเงินค่าE&M ข้อตกลงที่ค้างอยู่ที่ ครม.ตาม ม. 44 จะมีการเปลี่ยนเนื้อหา เพราะส่วนที่ค้างอยู่ได้มีการรวมหนี้เรื่องค่าE&M ในการต่อสัมปทานด้วย ส่วนกระทรวงมหาดไทยจะดำเนินการอย่างไรต่อไป ขึ้นอยู่กับการพิจารณาของกระทรวงมหาดไทย ในการดำเนินการส่วนจะมีการจ่ายเงินให้เอกชนเช่นไร ต้องมีการศึกษารายละเอียดอีกครั้ง

 

ชัชชาติ

 

ส่วน ความคืบหน้าในการต่อสัมปทานรถไฟฟ้าสายสีเขียวตามมาตรา 44 เป็นอย่างไร นายชัชชาติระบุว่า ทางด้านของกทม. จะแจ้งข้อมูลไปโดยจะต้องขึ้นอยู่กับกระทรวงมหาดไทยว่าจะดำเนินการอย่างไรเนื่องจากกระทรวงมหาดไทยเป็นผู้นำเรื่องนี้เข้าสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีต่อไปซึ่งเนื้อหาของรายละเอียดที่เปลี่ยนไป จึงต้องขึ้นอยู่กับกระทรวงมหาดไทยว่าจะดำเนินการอย่างไร

 

นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์

 

 

ผู้สื่อข่าวถามถึงแนวโน้มการเจรจาขอลดอัตราดอกเบี้ยจะเป็นไปได้มากน้อยแค่ไหน นายชัชชาติ ระบุว่า จะต้องหารือร่วมกัน โดย กทม. ไม่ได้พูดลดดอกเบี้ย แต่เป็นการพูดถึงการรับโอนทรัพย์สินมา จึงต้องมีการคำนวณต้นทุนทางการเงินต่างๆ ซึ่งกทม. ไม่ได้ดำเนินการตามสัญญาที่มีระหว่างเคทีกับเอกชน กทม. จึงไม่รับผิดชอบ โดยจุดมุ่งหมายของกทม. คือการรับโอนทรัพย์สินมาเป็นของกทม. เพื่อให้บริการประชาชนให้ดีและมีอำนาจต่อรอง จึงต้องมีการคิดถึงต้นทุนทั้งหมดซึ่งต้องมีการคำนวนอย่างละเอียด ซึ่งไม่ได้พูดเรื่องของดอกเบี้ย เพราะสุดท้ายคือต้นทุนทางการเงินเป็นอย่างไร มูลค่าที่เหมาะสมเป็นเท่าไหร่ ซึ่งเป็นไปตามกรอบที่ได้ร้บมา

 

ชัชชาติ สัญญาสัมปทานของสายหลัก

 

สำหรับพรบ.ร่วมทุน สัญญาสัมปทานของสายหลักจะหมดในปี 2572 ซึ่งเหลือระยะเวลาอีก 5 ปี จึงอาจจะต้องมีกระบวนการจ้างที่ปรึกษาเพื่อศึกษาทางเลือกหลังจากนี้ โดยจะนำเรื่องทั้งหมด อาทิสัญญาที่จะมีการจ้างเดินรถถึงปี 2585 รวมถึงหนี้ต่างๆมาพิจารณาว่า หากจะมีการดำเนินการตามพรบ.ร่วมทุนจะมีทางเลือกอะไรบ้าง ซึ่งเป็นเรื่องที่ทางด้านของกทม. เคยแจ้งให้ทางกระทรวงมหาดไทย ทราบตั้งแต่แรก เพราะจะมีหน่วยงานอื่นเข้ามาดูเพื่อให้มีความรอบคอบเกิดความเป็นธรรม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

“ทักษิณ” ลั่นปัญหา 3 จังหวัดชายแดนใต้ ต้องจบในรัฐบาลนี้ ยึดการพูดคุย เป็นแนวทางสร้างสันติสุข
เลขาธิการ สปส. แจงเสถียรภาพ "กองทุนประกันสังคม" ย้ำชัดสิทธิประโยชน์ดีเพิ่มขึ้นทุกปี
คึกคักสุดๆ แห่เที่ยวตามรอย "ลิซ่า" ในซีรีส์ The White Lotus 3 ทำยอดจองโรงแรมเกาะสมุยพุ่ง
ผู้ลี้ภัยแอลจีเรียไล่แทงตำรวจในฝรั่งเศส
เต่าทะเลกว่า 6 แสนตัวแห่วางไข่ที่ชายหาดอินเดีย
ฮามาสปล่อย 6 ตัวประกันสุดท้ายภายใต้ข้อตกลงเฟสแรก
‘Super AI Engineer Season 5’ รวมพลังรัฐ-เอกชน-ประชาสังคม ปั้นบุคลากร AI เสริมขีดความสามารถแข่งขันไทย
"ดร.ปณิธาน" ยกพัทยาโมเดล แก้ปัญหา "ชาวอิสราเอล" ล้นเมืองปาย แนะหน่วยมั่นคงบังคับใช้กม.ใกล้ชิด
"อดีตสว.สมชาย" แฉโพย ฮั้วเลือกสว. ชี้เป็นหลักฐาน ดีเอสไอ เร่งนำลากไส้ตัวการใหญ่
‘ทักษิณ’ ปลื้มลงพื้นที่นราธิวาส ในรอบ 19 ปี ปชช.รอต้อนรับ

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น