ปกติแล้ว กว่าจะมาเป็นคนเชิดสิงโตได้ ต้องผ่านการฝึกทั้งศิลปะป้องกันตัว การเชิด การร่ายรำ ต้องอาศัยความแข็งแรงของร่างกายและความคล่องแคล่ว ทำให้สิงโตเหมือนมีชีวิตจริง ๆ แต่ที่สิงคโปร์ มีความริเริ่มใช้การเชิดสิงโต เป็นกิจกรรมช่วยคลายความโดดเดี่ยวและเพิ่มความมีชีวิตชีวาให้กับผู้สูงอายุ จนเป็นที่มาของ คณะเชิดสิงโต ซิลเวอร์ ไพรด์
โครงการนี้ เป็นความร่วมมือกันระหว่างองค์กรการกุศล ดีไซเนอร์ และที่ปรึกษาด้านมรดกวัฒนธรรม ชักนำผู้สูงอายุจำนวนหนึ่ง มาฝึก และออกแสดงในเทศกาลตรุษจีนปีนี้ โดยมีการออกแบบและปรับแต่งวิธีการเชิดสิงโต ให้ผู้สูงอายุนั่งแสดงบนวีลแชร์ได้
อย่าง คุณตา เจีย เฉียง เต็ก วัย 80 ปี ที่เห็นในภาพ นั่งบนวีลแชร์ จับหัวสิงโตเขย่าไปซ้ายทีขวาที เปิด-ปิดปาก โดยมีครูฝึกศิลปะป้องกันตัวอีกคน แสดงเป็นหางสิงโต คอยเข็นวีลแชร์ไปรอบๆ คุณตาท่านนี้ อดีตเคยเป็นคนที่ฝึกศิลปะป้องกันตัว ตีลังกาได้ และเคยชนะแข่งขันเชิดสิงโตในยุค 70 โดยเชิดเป็นหางสิงโต แต่ในวัย 80 ปี แค่เดินยังลำบากเพราะบาดเจ็บจากการทำงาน เมื่อกลับมาทำอะไรแบบนี้ได้ในรอบ 34 ปี จึงรู้สึกดีใจและมีความสุขมาก
หัวสิงโตแบบทั่วไป การกะพริบตา และกระดิกหู จะใช้การดึงเชือกบังคับจากข้างใน แต่เพื่อให้ง่ายและปลอดภัยกับผู้สูงวัย ทีมนักออกแบบต้องออกแบบใหม่ เป็นคันจับหรือคันโยก ให้การบังคับเปิดปิดตา ขยับหู อะไรต่างๆ ทำได้ง่ายขึ้น
กระทรวงสาธารณสุขสิงคโปร์ ประเมินว่า ภายในปี 2030 หรืออีกราว 6 ปีข้างหน้า ชาวสิงคโปร์ 1 ใน 4 จะมีอายุ 65 ปีขึ้นไป และผู้สูงอายุราว 8 หมื่น 3 พันคนจะอยู่คนเดียว และผู้สูงอายุชายที่อยู่ลำพัง มีแนวโน้มที่จะตัดขาดตัวเองจากสังคม มากกว่าผู้สูงอายุหญิง 2 เท่า ลิน หว่อง นักศิลปะป้องกันตัวที่ออกแบบท่าเชิดสิงโตให้กับผู้สูงอายุ บอกว่า นี่คือเป้าหมายของโครงการนี้ โดยเธอบอกว่า กิจกรรมอะไรก็ตามที่มีลักษณะของความเป็นผู้ชายมากหน่อย อย่างการเชิดสิงโต จะดึงความสนใจจากผู้สูงอายุชายได้มากกว่า
โครงการฝึกที่ใช้เวลา 6 สัปดาห์ที่ศูนย์ผู้สูงอายุ เฟย หยู มีผู้สูงอายุเข้าร่วมราว 20 คน ทุกคนจะเข้ารับฝึกออกกำลังกายให้แข็งแรง นำโดย หว่อง และฝึกตีฉาบพร้อมไปกับคนเชิดสิงโต ผู้ที่เข้าร่วมโครงการนี้ 1 ใน 4 เป็นผู้ชาย ซึ่งเมื่อเทียบกับโครงการผู้สูงอายุอื่นๆ ถือว่ามีผู้สูงอายุชายออกมาร่วมกิจกรรมมากกว่าเกือบสองเท่า
ภาพปก Facebook/Fei Yue
