ดูทรงคดีล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขที่ “ศาลรัฐธรรมนูญ” มีคำสั่งเด็ดปีก “พรรคก้าวไกล” ไปเมื่อวันที่ 31 มกราคมที่ผ่านมา และบรรดา “นักร้องตัวตึง” ที่แห่กันไปยื่นหลักฐานให้ฟันดาบ 2 ยุบพรรคก้าวไกล อาทิ ธีรยุทธ สุวรรณเกษร , นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ และ นายสนธิญา สวัสดี กำลังถูก “กกต.” ดองเค็มคดียุบพรรคก้าวไกลไม่กล้าใส่เกียร์เดินหน้า จนเป็นเหตุให้ “นายสามารถ เจนชัยจิตรวนิช” อดีตผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ต้องลุกขึ้นมาขู่ “กกต.” ว่า ขอขีดเส้นตายภายใน 30 วันหลังจากวันที่ 31 มกราคมที่ผ่านมา ถ้า กกต.ขืนแตะถ่วงไม่กล้าดำเนินการใด ๆ จะไปแจ้งความจับ “กกต.” ข้อหาทำผิดมาตรา 157 เป็นเจ้าหน้าที่รัฐแต่ละเว้นการปฎิบัติหน้าที่
ทั้งนี้ขอยืนยันว่าตนกับนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ กับ “พรรคก้าวไกล” ไม่ได้มีอะไรเกลียดกัน แต่มองการเมืองต่างกันเท่านั้นเอง ตนมีความเชื่อที่ว่า ประเทศไทยนั้นจะต้องเป็น “ระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข” แล้วพระประมุขนั้นจะให้มีใครมาล่วงเกินได้ หรือมาด้อยค่าหรือมาทำลายล้างไม่ได้ จึงมีความคิดเห็นต่างจากนายพิธาและแกนนำพรรคก้าวไกลบางคน
นอกจากนี้ “นายสามารถ” ยังกล่าวว่า สส.ของพรรคก้าวไกลหลายคนน่ารัก เป็นคนเก่ง ตนเคยมีประสบการณ์ทำงานร่วมกันในครั้งเป็นกรรมาธิการรัฐสภา เวลาลงพื้นที่หรือแม้แต่การอภิปรายในห้องประชุมก็เห็นถึงวิสัยทัศน์ และความมุ่งมั่นตั้งใจในการทำงานเพื่อบ้านเมือง ดังนั้นหากคนเหล่านี้ในพรรคก้าวไกล ไม่ล่วงเกินสถาบันหลักของชาติ นับว่าพรรคก้าวไกลและส.ส.หลายคนน่ารัก และ เชื่อว่ามีส.ส.หลายคนในพรรคก้าวไกลจงรักภักดีสถาบันแต่พูดไม่ได้เท่านั้นเอง
ทั้งนี้นายสามารถ ยังออกมาแฉว่า ในวันที่ศาลรัฐธรรมนูญมีมติการแก้ไขมาตรา 112 เป็นการล้มล้างการปกครองฯ ปรากฏว่าวันรุ่งขึ้น พรรคก้าวไกลเรียก สส.ทุกคนเข้าห้องเย็นเก็บโทรศัพท์มือถือ แล้วก็ไปขู่ “ส.ส.”หน้าใหม่ว่า ถ้าคุณคิดจะย้ายพรรคไปอยู่ที่อื่น คุณดูอดีตแล้วกัน คือแปลว่าวันนี้พรรคก้าวไกลก็กลัว กลัวถูกยุบพรรคแล้ว ส.ส.จะหนีฉะนั้นวันนี้เองผมบอกได้เลยว่า ถ้า “กกต.” ไม่ยื่นยุบพรรคก้าวไกลใน 30 วัน ผมจะไปแจ้งจับ “กกต.” แน่นอน
นอกจากนี้ยังมีความเคลื่อไหวกดดัน “กกต.” อย่างหนักหน่วงจาก “นายสนธิญา” ที่บุกไปสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามฝ่ายทุจริตแห่งชาติ(ปปช.)ยื่นหลักฐานเพิ่มเติมต่อ “ป.ป.ช.”มัด “พรรคก้าวไกล” ในคดีล้มล้างการปกครองฯ เพื่อขอให้ตรวจสอบจริยธรรม สส.พรรคก้าวไกล ที่เข้าชื่อเสนอแก้ไขประมวลกฎหมายอาญามาตรา112 เพื่อให้เร่งเครื่องฟัน 44 ส.ส.พรรคก้าวไกล
ด้วยการนำหลักฐานเมื่อครั้ง “พรรคก้าวไกล” ยังอยู่ในคราบ “พรรคอนาคตใหม่” พฤติกรรมดังกล่าวถือเป็นพฤติกรรมต่อเนื่องตั้งแต่สมัยพรรคอนาคตใหม่ ตั้งแต่ปี 2561-2567 ซึ่งจากคำวินิจฉัยเมื่อวันที่ 31มกราคม2567 ได้มีคำสั่งให้พรรคก้าวไกลหยุดพฤติกรรมที่เกี่ยวกับการล้มล้างการปกครอง แม้ว่าจะดำเนินการยกเลิกนโยบายแก้ไขมาตรา112 ออกจากสื่อออนไลน์ หรือสื่อต่าง ๆ แล้ว แต่การยื่นญัตติเข้าที่ประชุมสภาให้มีการแก้ไขมาตรา112ถือว่า ยังเป็นพฤติกรรมที่ยังคงกระทำสืบเนื่องกันเรื่อยมา จึงมองว่าเป็นพฤติกรรมตามอุดมการณ์ที่ร้ายแรง จึงเดินทางมายื่นเอกสารถึง ปปช.ในวันนี้
พร้อมกันนี้ ยังได้หยิบยกคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญวันที่ 10พฤศจิกายนปี2564 ที่มีคำสั่งให้กลุ่มบุคคลหรือนักเคลื่อนไหวทางการเมือง ยกเลิกและหยุดการกระทำที่ถือว่าเป็นการล้มล้างการปกครอง จากกรณีการชุมนุมบนลานสกายวอล์คบริเวณแยกปทุมวันใกล้เขตพระราชฐาน ซึ่งขณะนั้นมี สส.พรรคก้าวไกลเข้าไปประกันตัวกลุ่มบุคคลเหล่านี้ ทำให้เชื่อได้ว่า พรรคก้าวไกลเป็น พรรคที่สนับสนุนกลุ่มเคลื่อนไหวที่มีพฤติกรรมล้มล้างการปกครองตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา
#ยุบพรรคก้าวไกล #กกต. #พิธา #ศาลรัฐธรรมนูญ #สามารถ เจนชัยจิตรวนิช #สนธิญา สวัสดี