การกระทำย่ำยีหัวใจคนไทยของแก๊งโจ๋ 3 นิ้ว ที่มีหัวโจก “น.ส.ทานตะวัน ตัวตุลานนท์” หรือ “ตะวัน ทะลุวัง” ตั้งใจไปป่วน “ขบวนเสด็จฯ” ละเมิดคำสั่งศาลกระทำผิดซ้ำซาก จุดชนวนไฟขัดแย้งขึ้นในสังคมระหว่างกลุ่มคนที่จงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์กับฝ่ายที่ออกมาละเมิดล่วงเกิน กลายเป็นเหตุการณ์บานปลายหวั่นจะนำไปสู่ความรุนแรงปะทะกันด้วยการใช้กำลังสร้างความไม่สงบสุขขึ้นในสังคมไทย เหมือนปลุกพลังสังคมให้ลุกฮือต่อต้านหยุดกระทำดังกล่าว และแม้ว่าก่อนหน้านี้จะมีการจุดประเด็นจัดตั้ง คณะกรรมาธิการวิสามัญขึ้นมาพิจารณาเรื่องการนิรโทษกรรมเพื่อความปรองดอง ซึ่งที่ผ่านมา “พรรคก้าวไกล” ดันสุดลิ่มทิ่มประตูที่จะเสนอ ร่างพระราชบัญญัตินิรโทษกรรมคดี 112 ล้างผิดเหล่าบรรดาสาวก ทั้งที่กำลังติดคุกหัวโตอยู่ในซังเต หรือ กลุ่มขาแหย่คุก ไปจนถึงแกนนำที่นั่งชูคออยู่ในรัฐสภาอันทรงเกียรติ เหมือนถูกปิดประตูตายไปโดยปริยาย
ยิ่งได้หยั่งเสียงนักการเมืองคนสำคัญเหมือนตอกตะปูปิดตาย “พรรคก้าวไกล” เบิ้ลรอบสอง เริ่มจาก “นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์” แกนนำพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวชัดเจนว่า การนิรโทษกรรม ต้องไม่รวมคดีทุจริตคอร์รัปชันและ มาตรา 112 รวมทั้งคดีอาญาร้ายแรง เพราะอนาคตจะทำให้คนไม่เกรงกลัวกฎหมาย และกลายเป็นการส่งเสริมการกระทำผิดในลักษณะดังกล่าว และจะนำไปสู่การขยายความขัดแย้งแตกแยกมากกว่าการสร้างความปรองดอง โดยเฉพาะเมื่อเกิดกรณีการป่วน “ขบวนเสด็จฯ” ยิ่งเป็นการตอกย้ำ ว่า ไม่สมควร นิรโทษกรรมความผิดตาม มาตรา 112 ซึ่งขอเสนอให้กรรมาธิการของสภารับไปพิจารณาด้วย
ด้าน “พรรครวมไทยสร้างชาติ” ที่รู้ซึ้งกันอยู่ถึงจุดยืนชัดเจนมั่นคงเรื่องการปกป้องสถาบันหลักของชาติ “นายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์” โฆษกพรรค พุ่งเป้าพาดพิงไปที่ “นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์” แห่งพรรคก้าวไกล โดยตรงว่าพยายามใช้วาทกรรมกับคนรุ่นใหม่มาแบ่งแยกคนในสังคม เพราะกรณีป่วนขบวนเสด็จฯ เป็นเรื่องการกระทำผิดกฎหมาย และเป็นสิ่งที่ไม่ควรกระทำเป็นอย่างยิ่ง ดังนั้น “นายพิธา” ต้องออกมาแสดงความรับผิดชอบหยุดให้ท้าย พวกที่กระทำย่ำยีหัวใจคนไทย จึงอย่าใช้วาทกรรมมาปลุกระดมคนรุ่นใหม่ เพราะคนรุ่นใหม่อีกจำนวนมากไม่ได้เห็นด้วย และรังเกียจกับการกระทำของ “น.ส.ทานตะวัน” กับพวกในครั้งนี้
หรือแม้แต่ “นายธนกร วังบุญคงชนะ” รองหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ สำทับว่า ตนเข้าใจถึงความไม่พอใจของกลุ่มศปปส.ที่ไม่เห็นด้วยกับการขับรถบีบแตรรบกวน “ขบวนเสด็จฯ” และกิจกรรมทำโพลในเรื่องดังกล่าวของกลุ่มทะลุวัง โดยเชื่อว่าคนไทยทั้งประเทศไม่เห็นด้วย แต่การใช้ความรุนแรง ทำร้ายร่างกายถือเป็นเรื่องผิดกฎหมาย และไม่ใช่วิธีแก้ปัญหาที่ดี จึงขอให้ทุกฝ่ายหยุดสร้างความขัดแย้ง และไม่ใช้ความรุนแรงในการแก้ปัญหา คนไทยด้วยกันต้องรักกันสามัคคีกัน
ขณะที่ “นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์” เลขาธิการพรรครวมไทยสร้างชาติ กล่าวด้วยว่า พฤติกรรมไปรบกวนขบวนเสด็จฯ ค่อนข้างชัดเจนว่า ฝ่ายต่างๆ ก็ออกมาประณาม แม้กระทั่งกลุ่มที่ไปยุยงกันเองตั้งแต่ต้นก็แห่กันตัดหางปล่อยวัดกลุ่มทะลุวัง และ ประณามพฤติกรรมดังกล่าว เพราะค่านิยมการให้ร้าย ข่มขู่ ท้าทาย ไม่ให้เกียรติพระบรมวงศานุวงศ์นั้น เป็นการกระทำที่ด้อยค่าสังคม ทำให้ภาพลักษณ์ของประเทศเสื่อมถอย
ยิ่งได้ฟังเสียงสะท้อนจากเหล่าคนดัง อาทิ “นางสาวลักขณา ปันวิชัย” หรือ “แขกคำผกา” พิธีกรชื่อดัง โพสต์ข้อความระบุว่าถ้า “ทานตะวัน” และเพื่อนมีเป้าหมายอยากให้ประเทศนี้เป็นประชาธิปไตยอย่างศิวิไลซ์ แต่การเคลื่อนไหวของ “ทานตะวัน” คือการปลุกผีฝ่ายขวาจัด ซึ่งไม่เป็นประโยชน์กับฝ่ายใด และไม่ทำให้สังคมบรรลุเป้าหมายของการเปลี่ยนแปลง ขอเรียกร้องให้ “ทานตะวัน” และ ผู้ใหญ่ในสังคมนี้ช่วยกันให้สติพวกเขาเพราะนั่นคือการปกป้องพวกเขาที่ดีที่สุดการเปลี่ยนแปลงสังคมเป็นคนละเรื่องกับการเอาตัวเองเป็นศูนย์กลางจักรวาล
ด้าน “วิมล ไทรนิ่มนวล” นักเขียนรางวัลซีไรต์ ได้โพสต์ข้อความระบุว่า คนที่ความเป็นมนุษย์ล้มละลาย คือคนที่ปลิ้นปล้อน ผลักปัญหาทุกอย่างที่เกิดจากตนให้พ้นตัว แปลกที่ยังมีผู้ชื่นชมคนแบบนี้ และยังโพสต์เพิ่มเติมอีกว่า “คนคิดต่าง” กับ “คนคิดชั่ว” มันต่างกันเหมือน “มังกร” กับ “ตะกวด” คำกล่าวดังกล่าวของนักเขียนรางวัลซีไรต์ แทงใจดำผู้นำจิตวิญญาณพรรคสีส้มเข้าอย่างแรง
#ขบวนเสด็จฯ #นิรโทษกรรม112 #ก้าวไกล #ตะวัน ทะลุวัง #พิธา #ปชป. #รทสช.