ไม่ทบทวนกฎกระทรวงประกาศ ยาบ้า​ 5 เม็ด ​เป็นผู้เสพ​

ส่วนที่ พล.ต.อ.เรวัช​ กลิ่นเกษร อดีต ข้าราชการตำรวจ​ ออกมาตำหนิการออกประกาศดังกล่าวว่าเอาอะไรคิดนั้น​ นพ.​ชลน่าน กล่าวว่า​ ก็เป็นความเห็นของแต่ละคน​ แต่อยากให้เข้าใจว่าการออกกฎกระทรวง​ได้ ก็ต้องมีกฎหมายแม่บังคับใช้​ ซึ่งกฎกระทรวง​เรื่องยาเสพติด​ให้โทษตามมาตรา​ 107 ระบุไว้ถึง​ 2 วรรค​ ย้ำว่าวรรคแรก ห้ามครอบครองยาเสพติด​ให้โทษประเภท​ 1 เป็นยาเสพติดร้ายแรง​ จำพวกเฮโรอีน​ ประเภท​ 2​ มอร์ฟีน​ และประเภท​ 5 จำพวกฝิ่น​ เห็ดขี้ควาย​ และกัญชา​ ซึ่งการครอบครองยาเสพติดทุกประเภทก็ถือว่าผิดกฎหมายอยู่แล้ว​ แต่วรรค​ 2 ได้กำหนดไว้ว่าหาครอบครองจำนวนน้อยให้ถือว่าเป็นผู้เสพ​ ถือเป็นผู้ป่วยที่ต้องได้รับการบำบัด​

ทั้งนี้ การกำหนด ​กฎกระทรวงต้องการสื่อว่าไม่ได้จำกัดว่าผู้เสพจะไม่ใช่ผู้ผิด แต่ต้องการดึงคนเหล่านี้ออกจากผู้ค้า เนื่องจากพฤติกรรมผู้ค้ารายย่อยมาจากการเสพยาเสพติด​ และพลิกผันสู่การเป็นผู้ค้า​ ซึ่งรัฐบาลต้องการตัดวงจรการค้ารายย่อย​ ดังนั้นตนอยากย้ำว่ากฎกระทรวงผ่านการพิจารณาของคณะกรรมการทุกภาคส่วน​ อาทิเช่น​ ปปส.​ ด้านยุติธรรม​ สธ. การแพทย์​ รวมทั้งนักสิทธิมนุษยชน​

“สุดท้ายข้อสรุปออกมาที่ 5 เม็ดครับ​ ถามว่าเอาสมองส่วนไหนคิด​ ก็สมองคนเหล่านี้แหละครับที่ช่วยกันคิด”

ส่วนที่หลายฝ่ายกังวลว่า​ การกำหนดจำนวน​ 5 เม็ดเท่ากับผู้เสพ ​ที่ต้องเข้าสู่การบำบัด​ นพ.ชลน่าน ยืนยันว่า รัฐบาลเตรียมพร้อมสถานบำบัดไว้ทั้งหมดแล้ว​ โดยอาศัยโรงพยาบาลประจำจังหวัดและรพ.สต.​ โดยจะมีนักจิตวิทยา​และฝึกอาชีพด้วย​ และเมื่อผ่านขั้นตอนการบำบัด จะมีการออกใบรับรองทางการแพทย์​ ซึ่งคนเหล่านี้จึงได้รับการยกเว้นเข้ารับโทษตามกฎหมาย​ อย่างไรก็ตาม แม้กฎกระทรวงจะกำหนดว่าผู้ครอบครอง 5 เม็ด​ เท่ากับผู้เสพ แต่ไม่ได้หมายความว่าไม่มีความผิด​ เพราะทั้งผู้เสพ​ ผู้ครอบครอง ถือว่าเป็นผู้กระทำความผิดทางกฎหมาย

ส่วนข้อเสนอกัญชากัญชง​ นพ.​ชลน่าน ยืนยันว่าได้รับรายงานจากกระทรวงยุติธรรมเป็นที่เรียบร้อยแล้ว​ โดยจะต้องผ่านความเห็นชอบจาก ปปส. ก่อน